26 พ.ค. 2023 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์

ตอน ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

“ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา จะป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนและมนตรี” ปฐมบรมราชโองการแสดงพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหา
1
ราชราชอาณาจักรรัตนโกสินทร์สถาปนาขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ รัชกาลที่ ๑ ทรงย้ายราชธานีจากฝั่งกรุงธนบุรีมาฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และพระราชทานนามราชธานีแห่งใหม่ว่า “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์”
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพมหานคร : เครดิตภาพ : Patra kongsirimongkolchai
แผ่นดินไทยขณะนั้นเพิ่งผ่านความคุกกรุ่นของสงครามเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า หรือแม้ในรัชสมัยพระองค์เองก็ยังปรากฏมีศึกสงครามอย่างต่อเนื่อง บ้านเมืองถูกข้าศึกทำลายย่อยยับ จิตใจของผู้คนในชาติบอบช้ำจากการสูญเสีย
พระองค์จึงทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะสู้ปกป้องเอกราชของบ้านเมือง ควบคู่ไปกับการเร่งฟื้นฟูขวัญและกำลังใจของพสกนิกรในชาติ ด้วยการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้กลับมายิ่งใหญ่ไพศาลเฉกเช่นอดีตราชธานีให้จงได้
หอพระมณเฑียรธรรมเป็นหอสมุดพระพุทธศาสนาของหลวงหลังแรก แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ : เครดิตภาพ : เรื่องเล่าชาวเที่ยว
ในด้านศาสนสถาน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง เจริญรอยตามพระราชประเพณีสร้างพระอารามหลวงในเขตพระบรมหาราชวังตามแบบกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งสร้างหอพระไตรปิฎก พระราชทานนามว่า หอพระมณเฑียรธรรม ไว้เป็นสถานที่เก็บคัมภีร์พระไตรปิฎกของหลวง
ในด้านพระธรรม มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สานต่องานรวบรวมคัดลอกคัมภีร์พระไตรปิฎกที่พระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงริเริ่มไว้แต่ครั้งกรุงธนบุรี แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่คัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับหอหลวงจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงมาดำเนินการต่อ พระองค์มีพระราชวินิจฉัยว่า ข้อความในพระไตรปิฎกฉบับหลวงนี้ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก เนื่องจากคัดลอกจากต้นฉบับจากหัวเมืองน้อยใหญ่ที่ไม่ครบถ้วน
การสังคายนาพระไตรปิฎก : เครดิตภาพ : ภาพจิตรกรรม
พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรสุรสิงหนาทจึงอาราธนาสมเด็จพระ อริยวงษาญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) และพระราชาคณะฐานานุกรมเปรียญ จำนวนร้อยรูปมาสอบถาม ครั้นทรงสดับว่า พระไตรปิฎกที่มีอยู่ผิดเพี้ยนจริง และฝ่ายคณะสงฆ์ก็ประสงค์จะทำนุบำรุงให้สมบูรณ์ถูกต้อง แต่มีกำลังไม่พอจะกระทำให้สำเร็จได้ จึงทรงอาราธนาให้คณะสงฆ์จัดทำสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้น
นับเป็นการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๒ ของราชอาณาจักรไทย โดยมีพระสงฆ์ ๒๑๘ รูป ราชบัณฑิตยาจารย์ ๓๒ ท่าน มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ทำการสังคายนา ณ วัดนิพพานาราม (ปัจจุบันคือ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ) โดยนำคัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับหอหลวงมาตรวจสอบ ใช้เวลา ๕ เดือน จึงเสร็จสมบูรณ์
ในบันทึกพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ บันทึกไว้ว่าตลอดระยะเวลา ๕ เดือน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและพระอนุชาเสด็จไปพระอารามทุกวัน วันละ ๒ ครั้ง เวลาเช้าทรงประเคนสำรับอาหาร ส่วนเวลาเย็นทรงถวายน้ำอัฐบาน (น้ำผลไม้คั้น) และธูปเทียนทุกวัน
1
แสดงให้เห็นพระอุตสาหะและพระราชจริยาวัตรอันงดงาม ที่พระองค์ได้ทุ่มเทในฐานะที่เป็นองค์ศาสนูปถัมภกเพื่อสนับสนุนให้การกระทำสังคายนาครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ให้จงได้ เพื่อยังคำสอนของอันบริสุทธ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้คืนกลับมาสู่แผ่นดินไทย ดังพระราชดำรัสว่า…
“ครั้งนี้ ขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าทั้งปวง จงมีอุตสาหะในฝ่ายพระพุทธจักรให้พระไตรปิฎกบริบูรณ์เกิดขึ้นจงได้ ฝ่ายข้างอาณาจักรที่จะเป็นศาสนูปถัมภกนั้น เป็นพนักงานโยม โยมจะสู้เสียสละชีวิตบูชาพระรัตนตรัย สุดแต่จะให้ปริยัติสมบูรณ์เป็นมูลที่ตั้งพระพุทธศาสนาจงได้”
1
คัมภีร์ใบลานฉบับทองใหญ่ ไม้ประกับทองทึบ ฉลากทอ
ครั้นเมื่อการสังคายนาเสร็จสมบูรณ์เมื่อกลางเดือน ๕ ปีระกา พ.ศ. ๒๓๓๒ ทรงสละพระราชทรัพย์จ้างช่างจารจารึกลงในใบลานด้วยอักษรขอม ปิดทองแท่งทับทั้งใบปกหน้าหลัง และกรอบทั้งสิ้น ห่อด้วยผ้ายก เชือกรัดถักด้วยไหม แพรเบญจพรรณ มีฉลากงาแกะเขียนอักษรด้วยหมึก และฉลากทอเป็นตัวอักษร บอกชื่อพระคัมภีร์ทุกคัมภีร์ เรียกคัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับหลวงนี้ว่า ฉบับทองทึบ และเรียกฉบับหอหลวงว่าฉบับสังคายนา หรือที่นิยมเรียกว่า ฉบับครูเดิม
ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลพระองค์อื่นก็โปรดให้สร้างพระไตรปิฎกฉบับทองทึบขึ้นอีก จึงเรียกฉบับเดิมที่สร้างสมัยรัชกาลที่ ๑ ว่า ฉบับทองใหญ่ ประดิษฐานในตู้ประดับมุก รักษาไว้ที่หอพระมณเฑียรธรรม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ตู้เก็บรักษาคัมภีร์ใบลานในหอพระมณเฑียรธรรม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ต่อมายังได้โปรดให้สร้างพระไตรปิฎกขึ้นอีก ๒ ชุด เพื่อใช้ในการสอบพระปริยัติธรรมในกรมราชบัณฑิต เรียกว่า ฉบับรองทรงและฉบับทองชุบ นอกจากนี้เพื่อให้พระภิกษุสามเณรทั่วแว่นแคว้นมีพระไตรปิฎกฉบับถูกต้องสมบูรณ์ไว้เล่าเรียนศึกษา พระองค์จึงได้สร้างพระไตรปิฎกพระราชทานทุกพระอารามหลวง และพระราชทานอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์สามารถยืมพระไตรปิฎกฉบับหลวงไปคัดลอกเองได้
1
นอกเหนือจากหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองจากศัตรูผู้รุกรานในฐานะกษัตริย์ชาตินักรบ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงมีพระราชจริยาวัตรที่งดงามเป็นต้นแบบให้แก่พระมหากษัตริย์พระองค์อื่น ๆ ในรัชกาลต่อมา ทั้งงานสืบสานราชประเพณีด้านสถาปัตยกรรมทางศาสนา งานรวบรวมคัมภีร์พระไตรปิฎกต่อจากบูรพกษัตริย์ จารจารึกจัดเก็บอย่างประณีตงดงามทรงคุณค่า และงานสนันสนุนส่งเสริมพระภิกษุสามเณรให้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย
ส่งผลให้พระพุทธศาสนากลับมารุ่งเรืองทัดเทียมอาณาจักรไทยโบราณในกาลก่อนยังขวัญและกำลังใจให้เกิดแก่อาณาประชาราษฎร์ นับว่าพระองค์ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่ควรแก่การเคารพยกย่องสมกับที่ปวงชนชาวไทยเฉลิมพระนามพระองค์ว่า “มหาราช”
1
อ้างอิงท้ายบทความ
ก่องแก้ว วีระประจักษ์ และวิรัตน์ อุนนาทรวรางกูร. คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๖.
ดินาร์ บุญธรรม. พระมหากษัตริย์ไทยกับพระพุทธศาสนา. กรุงเทพฯ : สายธุรกิจโรงพิมพ์, ๒๕๕๕.
แน่งน้อย ศักดิ์ศรี, หม่อมราชวงศ์. สถาปัตยกรรมพระบรมหาราชวัง. กรุงเทพฯ : สำนักราชเลขาธิการ, ๒๕๓๑.
ติดตามความรู้เนื้อหาสาระดีๆ ได้ที่
โฆษณา