24 พ.ค. 2023 เวลา 13:07 • หนังสือ

EP.3 Part.2 : “ คนชนะทำแล้วแก้ คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ ”

มาต่อกันในตอนที่สอง (ตอนจบของเล่ม) “ คนชนะทำแล้วแก้ คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ ” ขอเน้นย้ำอีกรอบ อย่างที่บอกไปแล้วตามชื่อหนังสือเลยครับ สิ่งสำคัญคือการลงมือทำครับ
สิ่งสำคัญที่จะสร้างคุณค่าให้กับตัวเราได้ในอีกช่องทางคือการสร้างคอนเน็คชั่นครับ เนื่องด้วยปัจจุบันการใช้งานโซเชียลมีเดีย เป็นเรื่องปกติ (ผมว่าบ้างครั้งคนเราอยู่กับโลกในโซเชียลมากกว่าโลกปัจจุบันซะอีกครับ)
ดังนั้นการสร้างตัวตนในโลกโซเชียลก็เป็นปัจจัยที่สร้างคุณค่าให้กับเราเช่นกัน และยังเป็นช่องทางสำหรับหารายได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นควรฝึกการใช้ช่องทางนี้กันด้วยนะครับ (สำหรับผมก็ยากมากๆ เหมือนกันครับ)
สิ่งที่สำคัญที่บอกซำ้ๆ คือการลงมือทำทันที ไม่ต้องกลัวว่าจะล้มเหลวหรือมีอุปสรรคครับ ถ้าล้มเหลวก็ลองหาหนทางทำใหม่ บางครั้งการที่คิดจนไม่ได้ลงมือทำก็อาจจะไม่สามารถเห็นแนวทางหรือช่องทางใหม่ๆ ครับ ที่สำคัญอีกประการที่ทำให้การลงมือทำไม่เกิดขึ้น ก็เพราะเราชอบแก้ตัวครับ อ้างว่าไม่ว่างบ้างล่ะ อ้างว่าติดงานบ้างล่ะ อ้างว่ามีธุระด่วนบ้างล่ะ (ถ้าให้เขียนเรื่องข้ออ้างนี่คงไม่จบกันละครับ)
ดังนั้นแล้วต้องหาทางแก้ครับ ว่าเราจัดสรรเวลาไม่ดี หรือจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ดี เพื่อให้อย่างน้อยเราได้มีเวลาลงมือทำและเห็นผลของการกระทำนั้นครับ (ว่าแล้วก็มาหาเรื่องลงมือทำกันนะครับ ไม่ว่าจะลองเริ่มธุรกิจเล็กๆ ดูแลสุขภาพ อาจจะเป็นการเริ่มออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร หรืออ่านหนังสือพร้อมสรุปหรือสำหรับน้องนักเรียนนักศึกษาก็อาจทำลองทำโจทย์หรือข้อสอบไปด้วยครับ)
และเราก็จะมาต่อกันด้วยเรื่องเงินครับ มาดูว่าหนังสือเล่มนี้สอนสร้างเงินกันอย่างไรครับ เล่มนี้น่าจะเปลี่ยนความคิดของคนหัวโบราณแบบผมครับ เพราะว่าเป็นการสอนให้สร้างเงิน ด้วยการใช้เงินครับ ใช่ครับผู้อ่านอ่านไม่ผิดครับ ให้ “ใช้เงิน” ครับ แต่เป็นวิธีที่น่าสนใจและควรลองไปทำตามครับ (ในความคิดของผมนะครับ) เช่น การใช้ลงทุนไปกับตัวเองครับ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มความรู้ในด้านที่รู้อยู่แล้วให้เชี่ยวชาญมากขึ้นหรือด้านอื่นๆ ที่ไม่มีความรู้มาก่อน
การลงทุนที่เป็นการลงทุนจริงๆ นะครับ (ไม่ใช่แบบที่พบเห็นกันในข่าวจำพวกแชร์ลูกโซ่ หรือธุรกิจแบบเทาๆ อื่น) นะครับ หรือใช้เงินไปกับประสบการณ์หรูๆ (อันนี้ผมก็ไม่มีโอกาสได้ลองครับ) ที่ใช้เงินไปกับประสบการณ์แบบนี้ มีเหตุผลครับ เพราะจะทำให้เราได้เห็นโอกาสในการหารายได้ในแบบที่เราไม่เคยได้สัมผัสครับ (เพราะเรามองว่าฟุ่มเฟือย จริงๆแล้วไม่มีเงินพอครับ 555 คือเงินเรามีครับ แต่ไม่พอ 555)
ใช้เงินไปกับการดูแลสุขภาพครับ (อันนี้ผมเห็นด้วยครับ) สิ่งที่สำคัญคือ การรับประทาน การนอนและการออกกำลังกายครับ และถามว่าเราควรลงทุนกับตัวเองแค่ไหนถึงจะเพียงพอ สำหรับเล่มนี้แนะนำไว้ที่ 10% ของรายได้ครับ (ผมว่าอันนี้แล้วแต่ท่านผู้อ่านครับ ถ้ารายได้น้อยแบบผม 10% ก็จะเยอะไปหน่อยครับ 555 ก็ลองปรับกัน ตามสมควรนะครับ)
และสุดท้ายคือ การพัฒนารูปลักษณ์ภายนอก ใช่ครับ ย้ำอีกทีครับ “รูปลักษณ์ภายนอก” ครับ มีเหตุผลอีกเช่นกันครับ เพราะการที่คนเราพบกันสิ่งที่เห็นครั้งแรกก็คือรูปลักษณ์ภายนอกครับ ถ้ามีรูปลักษณ์ที่ดี แต่งตัวดี สะอาดสะอ้าน เสื้อผ้ารีดเรียบร้อย ขนาดชุดเหมาะสมกับสรีระ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกดี น่าเชื่อถือกว่าคนที่แต่งตัวมอมแมม เสื้อผ้ายับยู่ยี่แน่นอนครับ เพราะหลังจากนั้นเราถึงจะได้มีโอกาสเข้าหาหรือพูดคุยกับคนที่เราต้องการติดต่อด้วยอย่างแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้มีโอกาสในการเริ่ม “ลงมือทำ” ในสิ่งที่อยากทำหรือต้องทำก็แล้วแต่ หลังจากที่ได้อ่านตอนนี้จบนะครับ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือ “ คนชนะทำแล้วแก้ คนแพ้มัวแต่คิดไม่ได้ทำ ” นะครับ และมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำนะครับ
ขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านครับ พบกันใหม่ตอนหน้าครับ
KeY_MaN
โฆษณา