ไป 'Pranburi' พัก 'Pranberry'
ปราณบุรี อำเภอหนึ่งของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่เลยจากหัวหิน ที่เที่ยวยอดฮิตของคนกรุงเทพไปนิดเดียว แต่บรรยากาศคนละฟีลเลย รู้สึกเลยว่า เสน่ห์ของที่นี่คือความสงบ สถานที่เที่ยวมีอะไรน่าค้นหา ดูลึกลับแต่เข้าถึงได้อะไรอย่างงั้น ฮ่าๆ มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมาก แต่เราไปคนเดียว 2 วัน 1 คืน เลยสำรวจได้ไม่เยอะ เลยตั้งใจไปพักผ่อนที่โรงแรมสไตล์โฮมมี่สุดน่ารัก ที่ชื่อว่า Pranberry Earth และทำกิจกรรมใกล้ๆที่พักซะมากกว่า ต้องบอกเลยว่าที่พักเค้าน่ารักทุกมุมจริงๆ
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพ 09.00 น. ขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก ผ่านช้างสามเศียร มุ่งหน้าไปถนนพระราม2 (ขับไปกลัวไป กลัวอะไรหล่นทับจริงๆ) ผ่าน จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และเข้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ฟังเพลงเพราะๆ ร้องเพลงบนรถวนไป แปบเดียวก็ถึง
ก่อนจะถึงที่พัก เราจะแวะเที่ยววนอุทยานปราณบุรีกันก่อน ด้านหน้าเป็นป่าทิวสนริมทะเล มีเลนปั่นจักรยานด้วย น่าปั่นมากๆ ด้านในมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน โดยสร้างเป็นสะพานไม้ระยะทาง 1 กิโลเมตร
วนอุทยานปราณบุรี
ด้วยความตาม Google Map เมื่อแอปบอกถึงแล้ว ก็เลยจอดรถริมป่าสน แล้วเดินตามเลนจักรยานเลียบทะเล เพื่อจะไปเดินเส้นทางศึกษาป่าชายเลน แต่เอ๊ะทำไมเดินไปไม่ถึงสักที ฮ่าๆ จนไปเจอพี่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกวาดใบไม้ เลยเข้าไปถาม สรุปเราจอดรถเร็วไป มันขับเข้าไปจอดหน้าป่าชายเลนได้เลย แล้วพี่คนนี้ก็ใจดี อาสาขี่มอเตอร์ไซด์พากลับไปเอารถ ไหว้แล้วไหว้อีก เกรงใจจะให้เงินค่ารถเขา เขาก็ไม่รับ ซึ้งใจ
เอาล่ะ พอมาถึงทางเข้าแล้ว ด้วยความไปวันธรรมดา มันจะมีเรื่องให้ตื่นเต้นเสมอสำหรับผู้หญิงที่ไปเที่ยวคนเดียว คือ มันจะมีคนอื่นบ้างไหม ฮ่าๆ เดินป่าเลยนะ โชคดีมีรถจอดอยู่อีกหนึ่งคัน เป็นคู่ฝรั่งชาย(มาจากอิตาลี)หญิงไทยทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน เขาบอกนะ ฮ่าๆ มี คนแค่นี้แหละ ก็ดีกว่าคนเดียวเนอะ
วนอุทยานปราณบุรี
ด้วยแต้มบุญที่ชอบทำบุญกับสัตว์ สรุปไม่ได้เดินป่าคนเดียวแหละ นี่เลย น้องหมาประจำวนอุทยาน เหมือนรู้ว่า ยัยนี่มาคนเดียว เดินเป็นเพื่อนหน่อยก็ดี น้องเลยเดินนำทางให้เฉยเลย แล้วเดินตามอารักขาด้วย ฮ่าๆ
จุดชมวิวทุ่งโปรงทอง
เส้นทางศึกษาป่าชายเลนวนอุทยานปราณบุรี
รากโกงกางของป่าที่นี่ใหญ่มาก งอกซ้อนๆกันแปลกตาและสวยไปอีกแบบ มีปูพันธุ์ต่างๆตามดินเลนเยอะเลย หนึ่งในนั้นคือ ปูที่อยู่ในส้มตำ “ปูแสม” พึ่งรู้นี้แหละ ปกติเรียกแต่ปูเค็ม
เดินไปเรื่อยๆจะเจอหอชมวิว เป็นจุดชมวิมทุ่งโปรงทองพอดี มองลงมา จะเห็นทุ่งโปรงทองสีเขียวเหลืองทองอร่ามตัดกับสะพานไม้สีน้ำตาล สวยสบายตาสุดๆ ทางเดินจะวนมาบรรจบที่ทางเข้า ระยะทาง 1 กิโลเมตร
หาดทรายน้อย
จากวนอุทยานปราณบุรี ที่เที่ยวใกล้เคียงที่จะไปต่อก็คือ ‘หาดทรายน้อย’ เป็นชายหาดเล็กๆ ทรายน้อยสมชื่อเขาล่ะ ฮ่าๆ เป็นหาดที่สงบ คนน้อย บรรยากาศดีเลย ช่วงเย็นๆมานั่งเล่น เดินเล่น เป็นส่วนตัวดี มีร้านอาหารและเตียงผ้าใบให้เช่าไม่เยอะ แต่เราไม่ได้เช่าผ้าใบนั่ง ลองเดินไปสำรวจฝั่งโขดหิน เลยได้มาพบกับมุมลับๆ มุมนี้
หาดทรายน้อย
ด้านหลังโขดหินจะเป็นหาดเปลือกหอย มีเปลือกหอยสวยๆหลายชนิดแทนหาดทรายเลย ซึ่งเราไม่กล้าเก็บกลับมา ปล่อยให้อยู่กับธรรมชาติบ้านของเขาต่อไป นั่งเล่นคัดเปลือกหอย ตากลมทะเลไปเรื่อยๆ (จริงๆคือมุมนี้หลบแดดได้ดีมาก) เลยนั่งเล่นอยู่ตรงนี้สักพัก จนฟ้าเริ่มครึ้มฝนทำท่าจะตก ก็ได้เวลาไปหาอะไรลงท้องแล้วเข้าที่พักกัน
จากหาดทรายน้อย ไปยัง Pranberry Earth ระยะทางประมาณ 16 กม. ใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาที
Pranberry Earth
ถึงแล้วววว ที่พักสุดน่ารัก น่ารักตั้งแต่ด้านหน้าประตูทางเข้าเลย เป็นโรงแรมเล็กๆ มีทั้งหมด 6 ห้อง มีที่จอดรถประมาณ 8 คัน ที่พัก Pranberry Earth ยังมีโซนคาเฟ่สุดน่ารักกลางสวนดอกไม้ เปิดให้บริการเครื่องดื่มและอาหาร สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าพักด้วยนะ เดี๋ยวเราไปดูโซนคาเฟ่กันก่อนเลย
โซนคาเฟ่ Pranberry Earth
โซนคาเฟ่ Pranberry Earth
โซนคาเฟ่ Pranberry Earth
ที่นั่งโซนห้องแอร์ ตั้งอยู่กลางสวนดอกไม้ เน้นโล่งโปร่งสบาย วัสดุตกแต่งเน้นความเป็นธรรมชาติ แม้แต่พื้นก็เป็นหินกรวด บานกระจกและหลังคาเป็นกระจกใส สามารถชมวิวด้านนอกได้ 360 องศาเลย ที่สำคัญแอร์เย็นฉ่ำมากก อยากนั่งอยู่ตรงนี้นานๆ ยิ่งถ้าใครมากับเพื่อน นั่งเม้ามอยกันสบายเลย
โซน outdoor คาเฟ่ Pranberry Earth
หรือถ้าใครอยากนั่งโซน outdoor รับลมธรรมชาติ ด้านนอกก็มีโซนให้นั่งหลายจุด แต่ละจุดจะกระจายอยู่ในสวนดอกไม้ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว แถมใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ
บ้านพัก Mini Earth
ระหว่างเดินสำรวจโซนคาเฟ่ บังเอินได้มาเจอโซนบ้านพัก MiniEarth ซึ่งเป็นบ้านสไตล์ชนบท แยกออกมาจากตัวโรงแรม Pranberry Earth อีก 1 หลัง ครอบครัวใหญ่ หรือมาเป็นกรุ๊ปใหญ่สามารถเช่าทั้งหลังได้เลย ดูมีความเป็นส่วนตัวดีนะ เพราะแยกรั้วกั้นออกมาต่างหากเลย
บริเวณ Lobby โรงแรม
สำรวจโซนคาเฟ่หมดแล้ว ไปโซนที่พักกันต่อเลย จุดเด่นของที่นี่ คือบ้านดิน หล่ออิฐจากดินเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผนังกำแพง ระเบียง บันได โต๊ะ ชั้นวางต่างๆในห้องพัก คือทำจากดินทั้งหมด ตกแต่งด้วยต้นไม้ ไม้เลื้อย ไม้ดอกทั่วทุกมุมของที่พักเลย พูดได้ว่า มีต้นไม้อยู่ทุกๆตารางนิ้วเลยก็ว่าได้
ที่พักจะมี 2 ชั้น 2 ฝั่ง มีสระว่ายน้ำเป็นสระเกลืออยู่ตรงกลาง บรรยากาศร่มรื่น ด้านบนมีชั้นดาดฟ้าจัดเป็นพื้นที่นั่งชิล หรือจะปาร์ตี้ปิ้งย่างก็มีอุปกรณ์เตาปิ้งย่าง ภาชนะจานชาม พร้อมอ่างล้างมือให้พร้อมเลย
โซนที่พัก Pranberry Earth
โซนที่พัก Pranberry Earth
เราพักห้อง 101 เป็นห้องที่อยู่ชั้น 1 แต่ห้องพักแยกเข้าไปในหลืบ ค่อนข้างส่วนตัวเลยล่ะ มีโต๊ะนั่งเล่นเล็กๆหน้าห้อง เดินอีก 3 ก้าวก็คือลงสระว่ายน้ำได้เลย
ภายในห้องพักก็น่ารักสมคำล่ำลือ แม้แต่ที่แขวนเสื้อผ้ายังเป็นมุมน่ารักๆ ใช้กิ่งไม้เป็นราวแขวน มีโต๊ะเล็กๆเป็นมุมให้นั่งทำงานหรือเขียนหนังสืออยู่ข้างมุมเตียง
ห้องน้ำค่อนข้างกว้าง แยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง เค้ามีผงสมุนไพรยาสีฟัน กับสมุนไพรขัดหน้าวางไว้ให้ด้วยนะ อะไรที่ไม่คิดว่าจะมีให้ ที่นี่เขามีให้หมดเลย ไดร์เป่าผม ไม้ตบยุงก็มีนะคิดดู ฮ่าๆ
ภายในห้องพักห้อง 101 Pranberry Earth
ที่นี่สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาพักได้ด้วย แต่แมวที่เห็นในภาพ เราไม่ได้พามานะ ฮ่าๆ เป็นแมวประจำโรงแรมชื่อ ‘น้องเอิร์ท’ น้องเดินตามมารอเปิดประตูห้อง แล้วเดินตามเข้ามานอนเป็นเพื่อนเกือบทั้งคืนเลย (ปกติเป็นคนกลัวผีมาก ดีที่น้องมาอยู่เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่รู้คืนนั้นเค้าตามหาตัวน้องกันมั้ยนั่น ฮ่าๆ) เขาจะรู้ไหมว่าน้องมายึดเตียงแขกไปเรียบร้อย ซึ่งเราเป็นทาสแมว level 100 เลยลงไปนอนพื้นแทน ฮ่าๆ ไม่ใช่ละ
น้องเอิร์ท Pranberry
ที่พักเงียบสงบมาก ยิ่งดึกยิ่งเงียบ จนต้องสร้างความไม่สงบให้ตัวเอง ด้วยการเปิดเพลง และเปิดไฟทุกดวงนอน จนนอนหลับไป ตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้า ไปปั่นจักรยานริมชายหาด เพราะที่นี่มีจักรยานให้ยืมด้วยล่ะ
สวนดอกไม้ Pranberry Earth
ตื่นเช้ามา ออกไปเดินสูดอากาศดีๆในสวนดอกไม้ ผีเสื้อบินเต็มเลย ได้ยินแต่เสียงนกร้องท่ามกลางความเงียบสงัด เพราะพนักงานยังไม่มีใครมาเข้างานเลย ฮ่าๆ เราเลยเลือกจักรยานมาคันนึงแล้วปั่นไปปั่นเล่นริมชายหาด ระยะทางไปชายหาดไม่ถึง 1 กม. ซึ่งหาดปราณบุรีเป็นหาดที่ทอดยาวหลายกิโลเมตร และมีทางสำหรับวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย และปั่นจักรยานโดยเฉพาะด้วย ปั่นแบบปลอดภัยหายห่วง
จักรยานบริการฟรีสำหรับผู้เข้าพัก
ปั่นพอสนุก ก็กลับมาทานอาหารเช้า ซึ่งเราจะเลือกนั่งทานตรงไหนก็ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าห้องพัก บริเวณหน้า lobby บนชั้นดาดฟ้า โซนค่าเฟ่โซนห้องแอร์ หรือ โซน outdoor ในสวนดอกไม้ก็ได้ทั้งนั้นเลย เราเลือกทานในโซนคาเฟ่ห้องแอร์ เพราะชอบวิวและเย็นฉ่ำ ฮ่าๆ แถมมีโอกาสได้คุยกับแขกที่มาพักเหมือนกันด้วย
Breakfast set (สำหรับคนไม่ทานหมู)
จริงๆที่นี่เขามีเมนูขึ้นชื่อ คือ พิซซ่าโฮมเมดหน้าต่างๆด้วยนะ ตอนแรกตั้งใจจะสั่งมาลองก่อนเช้คเอาท์ แต่เขาจัดอาหารเช้าให้เยอะจริงๆ อิ่มจนเต็มพิกัด ถ้ามีโอกาสจะกลับไปลองชิมแน่ๆ
น้องเอิร์ท Pranberry
และแล้วก็หมดเวลา ถึงเวลาต้องบ๊ายบายน้องเอิร์ท กลับกรุงเทพก่อนแล้ว ถือว่าเป็นโรงแรมที่อบอุ่น น่ารัก สงบ มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ และอยู่ไม่ไกลชายหาด ปั่นจักรยานไปสบายๆเลย แถมมีอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆบริการในโซนคาเฟ่อีก ถ้ามีโอกาสจะกลับไปพักที่นี่อย่างแน่นอน หลงรักเลย ปราณเบอร์รี่ ณ ปราณบุรี
น้องเอิร์ท Pranberry
สุดท้ายขอบคุณน้องเอิร์ทที่นอนเป็นเพื่อน ฮ่าๆ
Meow Meow
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
