Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่า บาย สีส้ม
•
ติดตาม
24 พ.ค. 2023 เวลา 22:17 • หนังสือ
เราเป็นเจ้าของดาวดวงเดียวกัน
ไม่ว่าดาวดวงนั้น จะสุกสกาวใต้ฟากฟ้าหรือหม่นอับหย่อนแสง เราทั้งคู่ก็เป็นเจ้าของมันเสมอ
ความทรงจำมันก็เป็นเหมือนดวงดาวในดวงใจ พอเรานึกถึงมัน มันก็สุกสว่างสดใสเสมอ
“ไม่ดูแลเนื้อตัวเลย หนวดเคราโกนเสียบ้างก็ได้”
“อื้ม” หนุ่มวัยสามสิบหกบอกอาคันตุกะสั้นๆ
ขณะที่ร่างอาคันตุกะสาวจากกรุงเทพ เดินท่อม ๆ ลงจากบ้านพักพนักงานป่าไม้ไป พร้อมกับเสียงบ่นพอได้ยิน ดังมาว่า
“ใจดำจริง ๆ มืดแบบนี้ ยังไม่มาส่งอีก”
วันนั้นคืนข้างขึ้น พระจันทร์สาดแสงนวลเต็มผืนป่า ชายหนุ่มยืนพิงเสามองร่างบอบบางที่คุ้นตานั้นเดินลงส้นแสดงอาการงอนใส่ลานหินทางเดินที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว มุ่งตรงไปที่พักนักท่องเที่ยวจนพ้นแนวพุ่มไม้ประดับ
ในชีวิตคนเราพานพบเจอ เรื่องบังเอิญมามากต่อมาก แต่เรื่องระหว่างเขากับนัฐได้กลับมาพบเจอกัน มันคงเป็นเรื่องที่ฟ้าเล่นกลกับเขา แน่ ๆ เพราะชายหนุ่มแทบไม่เคยติดต่อกับหญิงสาวอีกเลยนับแต่เรียนจบ
นัฐเป็นรุ่นน้องที่คณะ ตอนนั้นในอีกบทบาทหนึ่งเป็นรองประธานชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบทและเธอเป็นลูกสาวสุดรักของอาจารย์หัวหน้าภาควิชาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาเรื่องการเรียนและการทำกิจกรรมของเขาอีกด้วย
หญิงสาวร่างสูงโปร่ง ตาเรียวเล็กในแว่นตากรอบสีเทาเข้ม ไม่ได้ซ่อนความเด็ดขาด องอาจ ไม่กลัวคน เอาไว้ภายใต้ดวงตาคู่นั้นเลย ใครที่พบเธอเป็นครั้งแรกก็จะรู้สึกได้ทันทีว่า น้องคนนี้มีเลือดนักสู้อยู่มากมายเกินตัว เธอทำให้งานชมรมค่ายอาสาฯ ที่ซบเซา กลับมาได้รับความนิยมในหมู่ปัญญาชนอีกครั้งหนึ่ง
รอยต่อของชมรมค่ายอาสาในยุคของประธานซันและเจ๊นัฐ ของน้อง ๆ เพื่อน ๆ ในชมรมจึงเป็นยุคทองของชีวิตชาวไร่ชาวนาและการเข้าถึงชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลสายตาและการรับรู้ของนิสิตนักศึกษา เป็นปรากฏการณ์ของสถาบันเลยก็ว่าได้
เสียงร้องรำทำเพลงสนุกสนานของกลุ่มนิสิตที่มาทัศนศึกษาเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าที่นี่ ยังมีอานุภาพรุนแรง เย้ายวนหัวใจ สะกดป่าไพรที่เงียบเหงา ยามค่ำให้มีชีวิตชีวา ขึ้นมาอย่างน่าพิศวง
ซันหวนนึกถึงตอนที่เขามาออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทเมื่อหลายปีก่อน ในหลาย ๆ พื้นที่ มันเป็นชีวิตที่สนุกสนาน ได้ซึมซับเรียนรู้โลกภายนอก วิถี ความคิด ความเชื่อ เป็นความแตกต่างที่ชายหนุ่มหลงใหล เขาเติบโตมากับชีวิตเกษตรกรและครอบครัวที่เคร่งศาสนาที่อยุธยา ท้องทุ่งนาข้าวที่เขียวขจี อุดมสมบูรณ์ น่าขันที่เขาหลงรักความเร้นแค้น ยากลำบาก เรือกสวน ไร่นาที่ห่างไกล มากกว่าบ้านเกิด และห้องบรรยายที่คณะ
มันทำให้ซันเกือบหมดสภาพนิสิตในปีสุดท้าย เพราะไม่ได้เข้าเรียนตามเพื่อนๆ และด้วยเหตุวิวาทะของหนุ่มวัยรุ่นผมยาวหยิกฟูเลือดร้อนกับอาจารย์สตรีผู้เข้มงวดต่อลูกศิษย์
ซันประกาศตัวเป็นขบถต่อการศึกษา ที่ใคร ๆ ไม่ว่าจะเป็น ป๊า มะ หรืออาจารย์ท่านอื่น คนไหน จะมาเคี่ยวเข็ญอย่างไรก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจชายหนุ่มให้กลับมาเรียนหนังสือได้อีก ตอนนั้น ชายหนุ่มสาบส่งระบบการศึกษา ที่ยกย่องบัณฑิตให้เป็นเทวดา ยิ่งใหญ่กว่าชาวไร่ ชาวนา ชาวป่า ชาวเขา ที่เป็นชนชั้นล่างที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ พระเจ้าคงส่งเขามาเป็นเพื่อนร่วมต่อสู้ เคียงข้างคนยากคนจนกระมัง
ซันไปอาศัยอยู่กับเพื่อนรุ่นพี่ที่ไร่อันห่างไกลและอยู่ช่วยชาวบ้านทำไร่ ทำสวน ด้วยวิธีการสมัยใหม่ ไม่พึ่งพานายทุน ขจัดการเอารัดเอาเปรียบด้วย หยูกยา ปุ๋ยเคมี และการกดราคาพืชผล
มีราวสามสี่ครอบครัวที่เห็นชอบกับชายหนุ่ม นอกนั้นแทบไม่มีใครเห็นด้วยกับความคิดของซันเลย ความยั่งยืนระยะยาวของเกษตรอินทรีย์มันอยู่ห่างไกลจากความเข้าใจของชาวบ้าน ชายหนุ่มเหมือนคนอกหัก เขาพูดเก่งสู้พ่อค้าขายปุ๋ยได้สบาย แต่พอถูกเหยียดว่าเรียนไม่จบปริญญาตรี ความศรัทธาของชาวบ้านก็ไหลรวมไปอยู่กับพ่อค้าขายปุ๋ยจนหมด เหมือนน้ำป่าหลากแดงลงมาจากดอยสูง
เขาจดจำวันที่นัฐไปตามเขาที่ไร่ที่อุ้งผางให้กลับมาเรียนหนังสือได้ไม่ลืม เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
“เมาเป็นหมาแบบนี้ ชาวบ้านที่ไหนเขาจะเชื่อ จอมอุดมการณ์แบบเธอ” นัฐกราดเกรี้ยวที่เห็นซัน หมดสภาพนอนตะแคงข้างอิงกับขวดเหล้าข้าวโพดเปล่า อยู่ชานกระท่อม
“แบบนี้นะ จะเข้าป่า”
“ทำไม ทำไม ซัน ไม่รักตัวเองให้มาก ๆ”
เสียงหญิงสาวเริ่มสั่นพร่า แล้วเธอก็ร้องให้ไปต่อว่าชายหนุ่มรุ่นพี่ไป
“กินเหล้าแล้วได้อะไร ซัน”
“ได้อะไร บอกเราซิ”
“ปวดท้อง”
“อะไรนะ” หญิงสาวขยับมาฟังใกล้ ๆ
“มันหนาว”
“อี๊ ….ปากเหม็น”
การมาของนัฐ เป็นเสมือนการยุติช่วงเวลาชั่วคราวของขบถน้อย หญิงสาวขับรถเต่าของเธอมาร่วม 10 ชั่วโมง เพื่อมารับเขากลับไปเรียนอีกครั้ง
ซันกลับมาเรียนต่อและรักษาโรคกระเพาะอักเสบไปด้วย เส้นทางการเรียนของซัน มีนัฐเป็นคนช่วยเคี่ยวเข็ญทุกอย่าง บางอย่างแม้จะทุลักทุเล แต่บางอย่างมันก็งอกงามขึ้น อย่างเช่นความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ที่หาได้รอดพ้นสายตาที่มองลงมาของ ดร.ประภา หัวหน้าภาควิชาอนุรักษ์วิทยา
ชายหนุ่มยื่นรูปวาดนกให้เป็นของขวัญวันที่นัฐรับปริญญาตรี ในฐานะรุ่นพี่และคนรักที่ยังเรียนไม่จบ เขารู้ว่าหญิงสาวชอบนก เธอฝันว่าจะเป็นผู้เชียวชาญทางปักษีวิทยาของประเทศไทยให้ได้สักวันหนึ่ง
อีกสองปีถัดมา หญิงสาวเข้าใกล้ความฝันของเธอไปอีกขั้น วันที่ทั้งสองรับจะต้องขึ้นรับพระราชทานปริญญาพร้อมกัน ซันจบปริญญาตรีก่อนหน้าหลายเดือน นัฐเร่งทำวิทยานิพนธ์อย่างหนัก เพื่อให้จบปริญญาโทก่อนเพื่อน ๆ จะได้ใส่ครุยถ่ายรูปฉลองความสำเร็จพร้อมกับเขา แต่วันนั้นก็เป็นวันที่ซันหายไปจากชีวิตของเธอ หายไปจากความฝันของเธอที่อยากเห็นชายหนุ่มแต่งกายเรียบร้อย ตัดผมเรียบสั้นถ่ายรูปด้วยกันในวันพิเศษ
ความหวังของนัฐที่ว่า จะเก็บรูปคู่ในชุดครุยไว้เป็นความทรงจำมันเลยไม่เกิดขึ้น เป็นความฝันที่ไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้จริงอีกต่อไป ไม่มีใครสงสัยว่าทำไม ชายหนุ่มถึงไม่เข้ารับพระราชทานปริญญา ด้วยทุกคนรู้ถึงความมีนิสัยก้าวร้าวรุนแรงต่อสังคม ชนชั้น ไม่มีใครรู้ว่าไปไหน ทำไมถึงไม่มา นอกจากเขาเองและดร.ประภา แม่ของนัฐ
วันหนึ่งที่ห้องภาควิชาอนุรักษวิทยา อาจารย์อาวุโสเซ็นต์ผ่านเกรดวิชาสุดท้ายมีผลให้ ซันสำเร็จการศึกษา เธอส่งเกรดผ่านขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จึงให้ลูกศิษย์ไปตามชายหนุ่มมาพบ
“ครูบอกเธอตามตรงนะ” ดร.ประภา ไม่อ้อมค้อม
“แม้ว่าครูกับเธอจะมีปัญหาหลายเรื่องหลายราว แต่การเรียนการสอบของเธอ ก็ตรงไปตรงมานะ”
“ผมทราบครับครู”
“ครูยินดีด้วย เธอเรียนสำเร็จเป็นบัณฑิตแล้ว ยังไงก็ระมัดระวังเรื่องอุดมการณ์ของเธอให้พอเหมาะพอดี”
"ทำการงานอะไร ตรงไหน ครูขออวยพรให้กฤษณะก้าวหน้า นะ”
“ครับครู ขอบพระคุณมากครับ” ชายหนุ่มพนมมือรับพรนั้น
“อีกอย่าง ครูอยากจะบอกเธอว่านัฐไม่ได้มาขอร้องอะไรเป็นพิเศษในเรื่องเกี่ยวกับเธอ”
ซันยังคงพนมมืออยู่แต่หลบสายตา ดร.ประภา ก้มมองพื้นห้อง
“ครูรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับนัฐดี ในฐานะแม่ของด็กผู้หญิงคนหนึ่ง” ดร.ประภา พยายามควบคุมน้ำเสียงให้หนักแน่นขึ้น
“ครูอยากให้นัฐเข้าเป็นอาจารย์ที่คณะและรับทุนไปเรียนปริญญาเอกที่สหรัฐ ในสาขาที่ที่น้องเค้าชอบ คณะเราอีกสองสามปีข้างหน้าอาจารย์จะเกษียนอายุหลายคน”
“หากเธอจะเห็นแก่ครูและอนาคตของน้อง ครูอยากให้ความรักของเธอกับนัฐจบลงแค่วันนี้ ให้น้องได้มีอนาคตที่ดี ได้ไหม”
ถ้อยคำแบบนี้ ซันเคยคิดว่ามันคงจะเกิดขึ้นกับเขาสักวัน เพราะตัวเขากับลูกสาวคนเดียวของอาจารย์นั้น แตกต่างกันมากเหลือเกิน นัฐเคยบอกกับเขาว่า “ความรักและปรารถนาดีต่อกัน จะนำพาให้เราไปถึงดวงดาวที่เราปรารถนาได้” เหมือนหญิงสาวจะพูดประโยคเดียวกับที่ซันเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่งในตอนที่เขาเพ้อเพราะพิษไข้อยู่ในป่า เขาไม่เคยปรารถนาดวงดาวดวงไหนบนฝากฟ้าเลย
“ครับครู” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ ก่อนยกมือสวัสดี อาจารย์ที่เป็นมารดาของคนรักและจากไปจากการรับรู้ติดตามของหญิงสาวทั้งสองนับแต่นั้น
.......................................
ชายหนุ่มหยิบเอกสารขอความอนุเคราะห์จากกรมอุทยานมาอ่านดูอีกรอบช้า ๆ นึกโทษตัวเองที่ไม่ได้พิจารณาดูรายชื่อทีมนักวิจัยให้ถนัดถนี่แต่แรก มาประเหมาะก็พบ ดร.นัฐ หอบเอกสารมานั่งรอตนเองที่บ้านพัก ตั้งแต่เย็นจวนค่ำนั่นแล้ว
หรือเป็นเพราะพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ที่ส่งให้อาจารย์สาว พาคณะนิสิต นักศึกษาออกมาทัศนศึกษาและเก็บตัวอย่างงานวิจัยที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าที่ห่างไกลเช่นนี้
หัวหน้าซัน เรียกลูกน้องมาพบในคืนนั้น กำชับให้ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับคณะอาจารย์และนักศึกษาในระยะเวลา 5 วันนับจากวันนี้ไปให้ดีที่สุดในระหว่างที่เขาไม่อยู่ที่นี่แล้ว
ชายหนุ่มบอกกับตัวเองไม่ถูกว่า แรกเมื่อพบหน้าหญิงสาวที่เป็นความรักของเขา เขามีความสุขมากขนาดไหน การติดตามข่าวคราวความก้าวหน้าของเธอตลอดมานั่นเป็นยาใจขนานเอก ยามที่เขาต้องพบกับอุปสรรคนานับประการในการทำงาน
วันใดที่มะโทรศัพท์จากอยุธยามาหาลูกชาย มะจะเล่าให้เขาฟังเสมอว่า นัฐแวะมาเยี่ยม เอาขนม เอาผลไม้มาฝาก ป๋าและมะเป็นประจำ นับจากวันที่ซันพานัฐไปเที่ยวบ้านนอกของเขาเมื่อสมัยเป็นนิสิต
มะบอกลูกชายว่า เธอรู้ดีว่าหญิงสาวผู้นี้รักเขามากขนาดไหน จนไม่อยากจะรับปากเขาว่า จะเก็บความลับเรื่องที่อยู่ของเขาไปได้นานเท่าไหร่ ถ้านัฐเอ่ยปากถาม ซันบอกหญิงผู้ให้กำเนิดว่า
“แล้วแต่มะ นัฐดูแลมะกับป๋ามากกว่าซันเสียอีก"
"ฝากมะรักลูกสาวมะคนนี้ด้วยนะ” ซันบอกมะทุกครั้งแบบนี้
สี่ทุ่ม ซันโทรกลับไปหามะเล่าเรื่องการได้พบกับนัฐที่นี่ มะมีน้ำเสียงดีใจที่รู้ว่าลูกชายได้พบกับนัฐแล้ว
“ขอพระเจ้าอวยพรให้ป๋าและมะ แข็งแรง มีความสุข ซันไปไม่รู้จะนานกี่ปี จะหมั่นติดต่อมาถ้าสะดวกๆ นะมะ”
เหมือนนกต่างสายพันธ์ที่โผบินสวนกันบนท้องฟ้า ชายหนุ่มตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสลามเล็ก ๆ ในทวีปแอฟริกา ตามคำชักชวนของรุ่นพี่ในองค์กรเอกชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในคืนนั้น
“เราเป็นเจ้าของดาวดวงเดียวกัน ไม่ว่านัฐหรือเราจะไปอยู่ตรงไหนบนโลกใบนี้” ซันเขียนประโยคนี้ไว้ใต้ภาพวาดนกเงือกกรามช้างปากเรียบ ที่กำลังเกาะคบไม้สูง แสงเงาบอกยามเย็นจวนค่ำ ดวงตาจ้องมองดาวทางทิศเหนือ
เขาวางห่อภาพนั้นไว้หน้าห้องพักของหญิงสาว รถทัวร์เที่ยวเช้ามืดของวันนี้พาชายหนุ่มออกไปแล้วและไม่รู้คืนนี้และคืนต่อไปดาวดวงน้อยของเขาจะทุกข์มากแค่ไหน ไม่มีใครรู้ได้เลย
ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่า
หนังสือ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย