25 พ.ค. 2023 เวลา 12:30 • ประวัติศาสตร์

โอเดอะมาร์ส ปิเกต์ (Audemars Piguet) ค.ศ. 1875

ภายใต้ตัวอักษรย่อ “AP” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกา ที่มีความเก่าแก่เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงในระดับสากล เป็นเวลากว่า 147 ปีแล้ว ที่ AP ได้สั่งสมความสามารถ ฝีมือและประสบการณ์ในการผลิตนาฬิกา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปราณีตและความงดงามจากช่างผลิตนาฬิกาชั้นสูง รวมถึงยังเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิการะดับ Holy Trinity
ประวัติ Audemars Piguet (โอเดอะมาร์ส ปิเกต์) เริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1875 โดย จูลส์-หลุยส์ โอเดอะมาร์ส (Jules Louis Audemars) (คนทางซ้ายจากรูป)และ เอ็ดวาร์ด -ออกัสต์ ปิเกต์ (Edward August Piguet) (คนทางขวาจากรูป) ช่างนาฬิกาผู้มากความสามารถทั้งสอง
ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่วัยเด็ก แต่ไม่ได้สนิทสนมกันจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1874 ในช่วงนั้น Audemars อายุได้ 24 ปี และ Piguet ในวัย 22 ปี เขาทั้งคู่ได้ร่วมหุ้นกับ Lesedi Selapyane และเริ่มต้นธุรกิจของพวกเขา
โฆษณาของ Audemars Piguet ในยุคแรก
ในปี ค.ศ. 1881 Audemars Piguet & Cie ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่ Le Brassus ซึ่งเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง Vallée de Joux ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทั้ง Audemars และ Piguet ต่างก็สั่งสมประสบการณ์
โดย Audemars จะทำหน้าที่ในการผลิตและออกแบบกลไกฟังก์ชั่นชั้นสูง รวมทั้งเทคนิคต่าง ๆ ให้กับนาฬิกาแบบพกพา หรือ “Pocket Watch” จนได้รับการยอมรับจากแบรนด์นาฬิกามากมาย ให้ทางแบรนด์ช่วยทำการผลิตกลไกให้
ในส่วนของ Piguet ให้ความสำคัญในด้านการขาย การจัดการ และการตลาด โดยเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการในเจนีวา (Geneva) ซึ่งทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้าใหม่ ๆ หลายราย โดยเจนีวายังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่เหมาะสมสำหรับการกระจายสินค้าในยุโรปและต่างประเทศ
ในปี ค.ศ. 1885 เริ่มทำการขยายแบรนด์ ออกสู่ต่างประเทศ โดยทำการเปิดสาขาที่กรุง London ประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1888 และก้าวไปสู่การเปิดสาขาอื่น ๆ อีกหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น New York, Buenos Aires, Berlin และ Paris ในปีต่อมา
complicated pocket watch ภายใต้ชื่อ “The Universelle”
ด้วยประสบการณ์และฝีมือที่ถูกสั่งสมมา ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงอย่างก้าวกระโดด โดยในปี ค.ศ. 1982 แบรนด์ได้ผลิตสร้างนาฬิกาข้อมือทวนเข็มนาทีเรือนแรก นาฬิกามีฟังก์ชั่นกลไก Minute Repeater หรือที่รู้จักกันในชื่อ ระบบกลไกตีบอกเวลาด้วยเสียง ที่ใช้กับนาฬิกาข้อมือได้เป็นครั้งแรกของโลก
และในปี ค.ศ. 1899 Audemars Piguet ก็ก้าวเข้าสู่เวทีโลกอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัวนาฬิกาพก Grand Complication ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอันซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็น ตัวทวนนาที นาฬิกาปลุก ปฏิทินถาวร วินาทีเดดบีต โครโนกราฟ และเข็มเสี้ยววินาที
โดยนำเสนอผลงานนี้ ในงาน World Fair ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส บริษัทนาฬิกาของเยอรมัน ได้ซื้อนาฬิการุ่นนี้และนำไปใส่เคส โดยออกจำหน่ายภายใต้ชื่อ “The Universelle”
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900s Audemars Piguet ได้ร่วมงานกับแบรนด์เครื่องประดับที่มีชื่อเสียงหลายแบรนด์ รวมถึงร้านค้าปลีกนาฬิกาในต่างประเทศ จาก Bulgari ในกรุงโรม , Cartier ในปารีส ไปจนถึง Tiffany & Co. ในนิวยอร์ก Audemars Piguet ผลิตนาฬิกาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราในโลกตะวันตก
โดยหน้าปัดของนาฬิการุ่นพิเศษเหล่านี้จะระบุชื่อแบรนด์นั้น ๆ เพียงอย่างเดียวหรือชื่อแบรนด์คู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมชื่อเสียงของแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในวงสังคมชนชั้นสูงมากยิ่งขึ้น
นาฬิกาพก Audemars Piguet ปี1911 ผลิตเพื่อ Tiffany & Co.
Audemars และ Piguet ถึงแก่กรรมเมื่อปี ค.ศ. 1918 และ ปี ค.ศ. 1919 แต่กระนั้น ธุรกิจก็ยังดำเนินต่อไป โดยอยู่ภายใต้การบริหารของ Paul Louis Audemars และ Paul Edward Piguet ทายาทรุ่นต่อมา
ซึ่งเป็นลูกของ Audemars และ Piguet โดยทั้งคู่ต่างก็เป็นช่างนาฬิกามากฝีมือ ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พร้อมที่จะสืบสานมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษของตน เพื่อสานต่อปณิธานและความตั้งใจอันแน่วแน่ ของสองผู้ก่อตั้ง ในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีความซับซ้อนคุณภาพสูง
ผู้นำรุ่นที่สองของ Audemars Piguet ยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องโดยเป็นบริษัทชั้นนำของโลก ในช่วงต้นถึงกลางปี 1900s แบรนด์ AP ก็สามารถผลิตคิดค้นนาฬิกา ที่ขึ้นชื่อว่า “ที่สุดของโลก” ออกมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน
โดยในปี ค.ศ. 1921 ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือแบบ Jumping-Hour เรือนแรกของโลก เปิดตัวควบคู่ไปกับนาฬิกาพก นาฬิกาทั้งสองเรือนใช้ระบบกลไก HPVM10
Jumping-Hour เรือนแรกของโลก เปิดตัวควบคู่ไปกับนาฬิกาพก
ตั้งแต่ปี ค.ศ.1929 น่าเสียดายที่ประวัติของแบรนด์ในช่วงเวลานี้ไม่ได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี ว่ากันว่าตลอดช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ Audemars Piguet ผลิตนาฬิกาได้ทั้งหมดเพียงสามเรือนเท่านั้น
แต่อุปสรรคครั้งนี้ ก็ไม่สามารถทำลายความมุ่งมั่นและความต้องการที่จะพัฒนาการผลิตนาฬิกาของ Audemars Piguet ลงได้ ในปี ค.ศ. 1934 ทางแบรนด์ได้ทำการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือแบบ Skeleton ของแบรนด์
ซึ่งว่ากันว่าเป็นเรือนแรกของโลกด้วย นาฬิกาแบบ Skeleton จะมีหน้าปัดและฝาหลังแบบโปร่งทำให้สามารถมองเห็นระบบกลไกภายในได้ โดยกระบวนการผลิตจะต้องอาศัยความชำนาญและความปราณีตในการรังสรรค์ชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ผลงานออกมาสวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุด
นาฬิกาข้อมือแบบ Skeleton ในช่วงแรก
ในปี ค.ศ. 1993 ได้ถือกำเนิดนาฬิการุ่น Royal Oak Offshore ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิกาที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากนาฬิการุ่น Royal Oak โดยจุดประสงค์เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
รวมถึงกลุ่มคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเองและไม่ชอบความจำเจ ในครั้งนี้ ทางแบรนด์ได้ว่าจ้างนักออกแบบรุ่นใหม่ นามว่า Emmanuel Gueit เพื่อทำการออกแบบนาฬิกา Royal Oak Offshore
Royal Oak Offshore โดดเด่นด้วยความเป็นสปอร์ตที่อัดแน่นอยู่ในตัว มาพร้อมกับหน้าปัดที่มีขนาดใหญ่ 42 มิลลิเมตร ภายใต้เอกลักษณ์กรอบแปดเหลี่ยมแบบดั้งเดิม เพิ่มเติมคือภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งดุดัน
Royal Oak Offshore
จนได้รับการขนานนามว่า “The Beast” กับดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นส่วนโค้งที่เชื่อมสายข้อมือ ปุ่มกดด้านข้าง เม็ดมะยมติดซีลยางที่มีดีไซน์แบบร่วมสมัย หน้าปัดลายตาราง Tapisserie อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
ปัจจุบัน แบรนด์ Audemars Piguet ยังคงสร้างสรรค์และมีการพัฒนา คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ โดยยังคงคอนเซ๊ปการผลิตนาฬิกาที่มีคุณภาพสูงและมีความซับซ้อน ด้วยการใช้วัสดุแปลกใหม่
สร้างความแตกต่างให้ผสมกลมกลืนไปได้ทุกยุคทุกสมัย แบรนด์ยังคงสร้างมาตรฐานให้กับอุตสาหกรรมนาฬิกาในด้านการออกแบบ วัสดุ และความซับซ้อน โดยยังคงเป็นธุรกิจอิสระที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัว ทั้งหมดนี้คือ ประวัติ Audemars Piguet
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference โอเดอะมาร์ส ปิเกต์ (Audemars Piguet) :
โฆษณา