Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พี่ผัก
•
ติดตาม
25 พ.ค. 2023 เวลา 12:19 • ท่องเที่ยว
ภูสอยดาว
ภูสอยดาวป่ะล่ะ
วันที่ 1 ก.ค นี้ ภูสอยดาวกำลังจะเปิดแล้ว..ทำให้เราคิดถึงทริปนี้ขึ้นมาทันที เป็นทริปที่ทั้งประทับใจและฝังใจ555 ...ประทับใจคือ ธรรมชาติสวยจริงอะไรจริง โดยเฉพาะลานสนที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกหงอนนาค ยังอยู่ในภาพจำของเราว่ามันสวยมากๆ...ปีที่เราไปเป็นปีที่หมอกลงหนักมาก เอาจริงๆแทบจะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้วยซ้ำ คิดแล้วเสียดาย ..ส่วนฝังใจคือ เราแพ้ "คุ่น" ฮืออออ...แพ้แบบหนักมากแทบเอาชีวิตไม่รอด (เดี๋ยวมีรูปแนบให้ดู) 😂... ถึงจะมีเรื่องฝังใจอยู่บ้างย แต่ยังไงทริปนี้ก็ถือว่าประทับใจและสนุกมากเลยหละ
🚩ข้อควรรู้ก่อนไปภูสอยดาว🚩🚩
🔺"ภูสอยดาว" มีพื้นที่ครอบคลุม2จังหวัด
คือ ท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด
ต.ม่วงเจ็ดต้น ต.นาขุม ต .บ้านโคก อ.บ้านโคก อ.ห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และ
ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
🔺ลานสน ความสูง1633 เมตรจากระดับน้ำทะเล
🔺ยอดสูงสุดของภูสอยดาวหรือที่เรียกสั้นๆว่า"ยอดสองพันหนึ่ง" มีความสูง2102 เมตรจากระดับน้ำทะเล.. ซึ่งมีความสูงเป็นอันดับ4ของประเทศไทย
🔺กิจกรรมพิชิตยอด2102
จะเริ่มวันที่1.พ.ย ของทุกปี เนื่องจากป้องกันอันตรายจากพื้นที่ลื่นในฤดูฝน
🔺ดอกหงอนนาคเริ่มบานช่วงฤดูฝนตั้งแต่ ก.ค-ต.ค ของทุกปีและจะบานเต็มที่ช่วง ส.ค-ก.ย
🔺ภูสอยดาวระยะทางประมาณ6.5กิโลเมตรใช้ระยะเวลาในการเดิน4-6ชั่วโมงแล้วแต่ความฟิตของร่างกาย
🔺มี5เนินคือ
-เนินส่งญาติ
-เนินปราบเซียน
-เนินป่าก่อ
-เนินเสือโคร่ง
-เนินมรณะ
🔺สิ่งที่น่าสนใจบนภูสอยดาว
-ทุ่งดอกหงอนนาคที่ลานสน
-น้ำตกสายทิพย์
-เขตหลักไทย-ลาว
🔺ก่อนเดินทางต้องจองล่วงหน้าผ่านApp QueQ ซึ่งสามารถจองล่วงหน้าได้15วัน
🔺สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้850คน/วัน
(ลานสน350คน
/ที่ทำการ500คน)
สามารถติดตามข่าวสารและการอัพเดทจำนวนนักท่องเที่ยวได้ที่https://www.facebook.com/phusoidao07/
🔺การเดินทาง
🔸🔸ขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต2(กรุงเทพ-พิษณุโลก)แนะนำรอบ22:00 ให้ลงที่บขส.พิษณุโลก ซึ่งจะถึงประมาณ3:30น.จองรถทัวร์ออนไลน์ได้ที่
https://www.busticket.in.th/index.php
(จองไปกลับ>>ได้รับส่วนลด)
🔸🔸จองรถรับส่งจากบขส.พิษณุโลกไปที่ทำการภูสอยดาว แนะนำพี่จ่าเอ๋ บริการดีมากๆ
เบอร์:083-5998826
https://www.facebook.com/toursuwinai3/
🔺ก่อนถึงที่ทำการอุทยานแนะนำแวะตลาดป่าแดงเพื่อเตรียมเสบียงให้พร้อม.. ใกล้ตลาดมีทั้งเซเว่นและLotus express
🔺มีร้านอาหารตามสั่ง
"ร้านป้ามา" อยู่หน้าน้ำตกภูสอยดาว อร่อยดีนะ😁😁
🔺อย่าลืมเสื้อกันฝน/เสื้อกันหนาว
🔺ทางเดินหน้าฝน ตลอดการเดินทางพื้นค่อนข้างลื่น.. รองเท้าจึงควรมีพื้นยึดเกาะที่ดี
🔺แมลงเยอะเช่นยุงและคุ่นควรเตรียมสเปรย์กันแมลงมาให้พร้อม
🔺ไม่เจอทากหรือสัตว์ดูดเลือด
🔺ข้างบนมีตู้กดน้ำสามารถใช้เหรียญ5และเหรียญ10 ตู้ใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งในช่วงที่ฝนตกตลอดหรือช่วงที่ไม่มีแดดตู้ก็จะใช้งานไม่ได้ ดังนั้นจึงควรเตรียมน้ำมาให้พอ
🔺มีที่ชาร์ตแบตนาทีละ50สตางค์.. เหมือนจะต้องชาร์ตนานหน่อยถึงจะเต็ม.. ยังไงแนะนำพกpower bankไปให้เพียงพอจะดีกว่า
🔺มีห้องน้ำแต่ต้องเช่าถังมาตักน้ำจากลำธารมาอาบ.. น้ำค่อนข้างขุ่น.. ใครไม่อยากอาบแนะนำเตรียมทิชชู่เปียกมาให้เพียงพอ
🔺ยาแก้ปวด/ยานวด/ยาแก้แพ้เตรียมไปให้พร้อม
🔺บนลานสนมีข้าวไข่เจียวขายด้วยนะ จานละ40บาท
🔺มีหมูกะทะต้องสั่งจองล่วงหน้า
🔺มีสัญญานโทรศัพท์..กลุ่ม เราใช้AIS/Trueถือว่าโอเคเลย.. แต่พอขึ้นลานสนอาจต้องเดินหาสัญญานเอาหน่อย
ิ
🔺วันที่จะลงควรรีบเก็บสัมภาระและชั่ง เพราะถ้าช้าลูกหาบจะไม่เพียงพอ
🔺แนะนำมา3วัน2คืน จะไม่เหนื่อยเกินไป.. เรามา2วัน1คืนค่อนข้างเหนื่อยและเก็บไม่ครบทุกจุด
ค่าใช้จ่าย
🚩🚩รายละเอียดค่าใช้จ่ายหลักๆ🚩🚩
🔺ค่ารถทัวร์เที่ยวละ288บาท
🔺ค่ารถจากบขส.พิษณุโลกไปที่ทำการ
-กรณีเหมาคัน ราคาไปกลับ3500บาท
-กรณีไม่เหมา ราคาไปกลับตั้งแต่200-350/คน
🔺ค่าเข้าอุทยาน40บาท/คน
🔺ค่ามัดจำขยะ200
🔺ค่าลูกหาบกิโลละ30บาท
🔺ค่าเช่าอุปกรณ์ต่างๆ
(ตามภาพ)
เตรียมตัวออกเดิินทาง
เตรียมสัมภาระกันให้พร้อมแล้วออกเดินทางมุ่งตรงไปยังหมอชิต2
ตั๋วรถทัวร์เราจองออนไลน์มาเรียบร้อย.. มารับตั๋วกันตรงนี้
ค่ารถทัวร์288บาท
นั่งรอรถทัวร์รอบ4ทุ่มสบายๆกันตรงนี้
ได้เวลาแว้ววว
รถทัวร์คือดีมากราคาถูกเอนหลังนอนสบาย.. มีน้ำ/ขนม/ผ้าห่มให้พร้อม.. เที่ยงคืนแวะกินข้าวฟรีไปอีก
แต่วันนี้รถออกเลทมากกว่าจะออกคือ22:30 น.เลย
ตี4 ถึงบขส.พิษณุโลก โทรให้พี่จ่ามารับ
ระหว่างรอพี่จ่าก็ทำภาระกิจส่วนตัวเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตากันที่ บขส.
ตี5 รถแวนของพี่จ่ามารับพอดี.. เราเลือกจองแบบรถแวน.. ซึ่งราคาก็เท่ากับรถ2แถวแหละ.. แต่อันนี้คือนั่งสบายมาก
มุ่งหน้าสู่ตลาดป่าแดงเพื่อเตรียมเสบียง
7:00น.ถึงตลาดป่าแดง
ที่นี่ถือว่าครบครันมาก มีทั้งเซเว่นและ Lotus express
บรรยากาศตลาดก็ประมาณนี้ค่ะมีร้านไก่/หมู/ไข่/มีพร้อมหมดอ่ะทั้งของสดของแห้ง.. ถ้าใครเป็นสายพ่อครัวแม่ครัว.. อยากจะไปทำกับข้าวบนดอยสามารถจัดไปจุกๆได้เลยจ้า
แต่เราสายชิลสายขี้เกียจ5555.. ขอเน้นซื้อแบบสำเร็จรูปไปกินง่ายๆ ซื้อพวกข้าวเหนียวไก่ย่างจัดเป็นชุดๆไว้เป็นมื้อกลางวันและเผื่อมื้อเย็นอีกนิดหน่อยเน้นเป็นพวกมาม่าไส้กรอกง่ายๆ
มีวัดอยู่ข้างๆตลาดด้วยซึ่งก็มีร้านค้าขายพวกขนมและผลไม้ในโซนนั้นค่ะ
7:30 น. เดินทางต่อ
พวกเราใช้เวลาเดินตลาดประมาณครึ่งชั่วโมง.. คือพยายามทำเวลาจะได้ไม่ช้าเกินไปเพราะระยะทางที่เหลือค่อนข้างไกล
8:50 น. ถึงอุทยานแล้ว เย้ๆ
แวะล้างหน้าล้างตาอาบน้ำที่อุทยานกันก่อน.. ห้องน้ำที่นี่ดีทีเดียว.. แต่ในช่วงหน้าฝนน้ำก็จะแดงประมาณนี้..😂😂😂
อาบน้ำสบายตัวแล้ว ก็มาทานมื้อเช้ากันที่
"ร้านป้ามา "ร้านอาหารตามสั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามน้ำตกภูสอยดาว
อร่อยใช้ได้.. ใครขาดเหลืออะไรสามารถซื้อที่นี่ได้
กินอิ่มมีแรงกันถ้วนหน้า.. พร้อมมาก ณ จุดนี้😁😁
ถ่ายรูปกับป้ายน้ำตกภูสอยดาวเป็นที่ระลึกกันนิสนุง
มาเริ่มกันที่"ด่านเก็บค่าบริการ" .. แสดงบัตรคิวที่จองผ่านApp QueQ ชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน40บาท/คน ตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองcovid และรับบัตรคิว
เมื่อได้รับบัตรคิวแล้ว.. ก็มาที่
"ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว1" เช็คอินไทยชนะ และก็ลงทะเบียน.. เจ้าหน้าที่จะเอาใบราคาค่าเช่าอุปกรณ์ต่างๆมาให้เลือกว่าเราจะเช่าอะไรบ้าง.. เค้าจะเขียนใส่ใบสีเขียวให้
และมาต่อกันที่"จุดบริการนักท่องเที่ยว1"
ชั่งน้ำหนักสัมภาระ
จากนั้นเอาใบสีเขียวมายื่น.. พี่เจ้าหน้าที่จะคิดเงินให้ทั้งหมด
คุณพระโดนไป 4,400บาท แอบแพงตรงค่าเช่าเต็นท์นี่แหละ😂😂
จุดต่อไปคือ"Etok station" คือนั่งรถเจ้าหน้าไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยว2.. แต่ของเราพี่จ่าขับไปส่งเลยไม่ได้บริการรถของพี่เจ้าหน้าที่เลย😁
"จุดบริการนักท่องเที่ยว2" จุดนี้ตรวจบัตรค่าบริการเสร็จเรียบร้อยก็ลุยเลย..เดินกันยาวๆปายยยย
11:00น.
กว่าจะได้เริ่มเดินคือสายมาก555.. ไม่เป็นไร
พวกเราสายชิลเน้นเดินแบบเรื่อยๆ😄จุดแรกผ่าน
น้ำตกภูสอยดาว.. น้ำตกนี้อยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติเลย มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่ออย่างไพเราะว่า
ภูสอยดาว /สกาวเดือน/ เหมือนฝัน/ กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี.. เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปให้ครบทุกชั้น.. เดินไปเรื่อยๆด่านแรกจะเป็นบันไดเหล็กและก็เริ่มเข้าสู่โซนป่า
ต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงาตลอดทาง
พากันเดินไปเรื่อยๆ
เริ่มมีการขึ้นเนินและไต่เชือกเล็กน้อย
ถ
เมื่อพ้นเนินจะเจอความอลังการของป่า.. เราชอบป่าโซนนี้มาก.. มีความเขียวสดชื่นสุดๆ
เจอลำธารเล็กๆและสะพานข้าม
เข้าสู่โซนป่ากล้วย
บุกป่าผ่าดงกันเลยจ้าาา
เจอขอนไม้ไม่ได้.. แวะพักกันตล๊อดดด😁😁
พร้อมแล้วก็ลุยกันต่อ.. เริ่มเจอนักท่องเที่ยวเดินสวนลงมาประปราย..😄😄
ชอบมุมนี้สวยดี.. ต้นไม้ใหญ่และสะพานไม้.. แวะล้างหน้าล้างตาให้พอหายเหนื่อย.. น้ำในลำธารเย็นสดชื่นมาก😄
ข้ามกันมาให้ไวเลยจ้าาาาา
ยังไม่ทันถึงเนินแรกสภาพก็เป็นเยี่ยงนี้5555
พักเติมน้ำตาลแล้วไปต่อ
ผ่านเส้นทางของป่าไผ่.. ใกล้จะถึงเนินแรกแล้วนะ
12:30น.ถึงเนินแรกนั่นก็คือ "เนินส่งญาติ"
ที่ระดับความสูง650เมตร ด้วยระยะทาง2.14km.
กรี๊สสสส!!!.. ปาไปเที่ยงครึ่งเพิ่งจะถึงเนินแรก
😂😂😂
นั่งพักกันก่อน.. จุดพักมีเป็นระยะๆ.. ถ้าเจอก็ใช้สิทธิ์ซะ😂 เรานี่พักทุกจุดอ่ะ😁😁😁
หายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อจ้า
ฮึบๆ.. เนินส่งญาติ
13:15น.ถึงเนินที่2 นั่นก็คือ"เนินปราบเซียน"
ที่ระดับความสูง780เมตร
ด้วยระยะทาง2.56km.
ไปต่ออีกนิด.. ไว้เจอที่นั่งค่อยพักกินข้าว
เจอที่นั่งพักแล้ว.. พักตรงนี้เติมพลังก่อน..ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่าย2
มื้อกลางวันเป็นข้าวเหนียวไก่ทอดแบบง่าย.. แต่รู้สึกอร่อยเฉยยยย😋😋
กินเสร็จก็เดินต่อจนบ่าย3มาเจอจุดพักตรงนี้.. ป้ายบอกอีก3km
ไปต่อกันเรื่อยๆ
15:45น. ถึงเนินที่3 :"เนินป่าก่อ"
เห็นยอดเขานู้นนนนนนน.. ใช่ม้ายยยย.. นั่นแหละพวกเราต้องเดินขึ้นไป.. เห็นแล้วแอบท้อเบาๆ555
ไปต่อๆ..เหลืออีก2.5km
16:20น.ถึงเนินที่4 "เนินเสือโคร่ง"
ที่ระดับความสูง1150เมตร.. ด้วยระยะทาง5.86km
ไปต่ออีกนิด ป้ายบอกเหลืออีก2km.. แค่2kmแต่ทำไมรู้สึกว่านานแท้น้อออ😂
ถึงจุดชมวิว.. แวะกันหน่อย😄
ใกล้ยอดเขาขึ้นมาอีกนิดถ
17:20 น. ในที่สุดพวกเราก็ถึงเนินที่5.. เนินสุดท้ายแล้วนั่นก็คือ"เนินมรณะ"
ไปต่อจ้าาา.. ทางรกและชันขึ้นเรื่อยๆ
ออกแรงกันหน่อย
เนินมรณะเป็นเนินที่เหนื่อยที่สุด.. พวกเราเลยแวะพักกันเป็นระยะๆ
วิวระหว่างทางสวย.. ดูเพลินเลย ถ้าให้เลือกว่าชอบเนินไหน.. เราชอบเนินมรณะที่สุดเพราะวิวดีมาก.. อากาศตอนนี้เริ่มเย็นนิดๆ.. หมอกลงเต็มไปหมด
ปกติวิวตรงนี้จะมองเห็นทิวเขาสวยๆ.. แต่ตอนนี้หมอกได้ปกคลุมไปหมดแล้ว
ใกล้จะถึงแล้วน๊าาา
ถึงแล้วๆ.. หลังจากถ่ายรูปใบนี้เราก็หน้ามืดเฉยเลย.. นั่งพักแป๊บบบ
สภาพอาจจะแย่.. แต่ก็ถึงนะ😁😁
18:15น. ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว...เย้ๆ
เราเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายที่มาถึง..กว่าจะถึง" จุดบริการนักท่องเที่ยว3" คือมืดมาก.. รีบติดต่อพี่เจ้าหน้าที่เพื่อรับสัมภาระ และเช่าอุปกรณ์อื่นๆเพิ่มเติมเช่นกระป๋องน้ำ ขันน้ำ จากนั้นก็ไปเลือกเต็นท์..
พวกเราเลือกแบบที่มีหลังคาเพราะคิดว่าคืนนี้ฝนตกแน่ๆ
.
.
เก็บข้าวของเข้าเต็นท์เรียบร้อยก็อาบน้ำ/กินข้าว
มื้อเย็นต้มมาม่าใส่ไส้กรอกกินกันง่ายๆ.. และด้วยความหิวและเพลียเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย.. ไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้าน๊าาา😁😁
มอนิ่งงงง..ตื่นเช้ามาหมอกเต็มไปหมดอากาศเย็นใช้ได้
อุณหภูมิเช้านี้อยู่ที่18องศา
บรรยากาศยามเช้า
ได้เวลาทำธุระส่วนตัว..คว้ากระป๋องน้ำคู่ใจมากันคนละใบ ตรงนี้คือลำธารที่ใช้สำหรับตักน้ำมาอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ.. เป็นลำธารเล็กๆเองแหละ ห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาดน๊าาา
แปรงฟันฟินๆกันตรงนี้😁😁
ณ เวลานี้ หมอกก็ยังไม่เบาลงเลยคืน
ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เตรียมทานมื้อเช้า.. ก่อนอื่น
ล้างถ้วยล้างจานกันก่อนเลยจ้า กินไว้ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้ล้าง5555 เช้าวันนี้กินมาม่าเหมือนเดิม..หนาวๆแบบนี้ซดมาม่าร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร😁😁
นิดนึงๆ.. อันนี้คือเป็นอ่างล้างจานตรงที่พวกเราไปล้างกัน.. จะเห็นว่าสกปรกมาก.. อยากให้ทุกๆคนช่วยกันรักษาความสะอาด.. ขยะที่เอาขึ้นไปทุกชิ้นอยากให้ช่วยกันเอาลงมาทิ้งข้างล้างน๊าาา
กินข้าวเสร็จได้เวลาถ่ายรูปเล่น มาในconcept
"เภสัชสายดอย มาคอยสอยดาว" อุตส่าห์แบกชุดกันไปเนอะ😁😁
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปกันพอสมควร.. ก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ..เอาจริงๆการเที่ยวภูสอยดาวแค่2วัน1คืนสำหรับเรารู้สึกว่าค่อนข้างเหนื่อยและยังเก็บได้ไม่ครบทุกจุด ถ้าจะให้ดีต้อง3วัน2คืน
.
.
ก่อนเดินลงขอถ่ายรูปกลุ่มกับป้ายอีกรูปเป็นที่ระลึก
อีกรอบ แสง ณ ตอนนี้ดีกว่าตอนที่ขึ้นมาถึงตอนแรกมาก^^
ฟ้ายังขาวโพลนไปด้วยหมอกเหมือนเดิม.. แปะแผ่นแปะกันยุงกันแมลงให้พร้อมเตรียมตัวเดินลงกันยาวๆ
เดินลงกันมาซักระยะ.. เราเริ่มทิ้งห่างจากน้องๆ
ในกลุ่ม.. เลยนั่งรอตรงจุดพักประมาณ1ชั่วโมง..
ในระหว่างที่เรานั่งรอนั่นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น อยู่ๆมีแมลงบินมาต่อยเข้าที่หัวแม่มือในขณะที่กำลังนั่งกินขนมปัง... ณ จุดนั้นเหวี่ยวขนมปังกระจายไปเลยจ้าาาา ปวดมากกกกกก.. ปวดร้าวขึ้นมาที่แขนจนร้องไห้.. มีเลือดไหลนิดๆบริเวณที่ถูกต่อย
พวกพี่ๆลูกหาบบอกว่าเป็น "ตัวคุ่น"
ตอนแรกยังไม่เป็นอะไรมาก.. แค่รู้สึกปวดบวม ก็รีบหายาในกระเป๋าจำพวกparacetamolแก้ปวด และcetirizine แก้แพ้ แต่อาการปวดยังไม่ดีขึ้นแถมเริ่มรู้สึกมีอาการร้อนผ่าวที่หนังตา เริ่มมีอาการ หน้าบวม
ตาบวม ปากและจมูกก็บวม(เดี๋ยวมีรูปประกอบ) อาการปวดก็ยังเป็นเยอะ.. เราเลยกินIbupropenเพิ่ม พอดีเราเป็นเภสัชเลยมักจะพกยาพวกนี้ไปค่อนข้างหลายตัว
Before หน้าปกติ😁
After หน้า/ปาก/ตา/จมูก บวม และพอหลังจากนั้นก็มีผื่นขึ้นทั่วตัว แต่เริ่มมีแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก..เลยนั่งพักอยู่แป๊บนึง ในช่วงนั้นน้องๆก็มาถึงพอดี.. เรากินยาแก้แพ้เพิ่มอีก1ตัว.. ครั้งนี้กินcpmแบบเคี้ยวกลืนเพิ่มอีก1เม็ดเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เร็ว... นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาก็มีน้ำใจมากให้ยาหม่องมาทา
ตอนนี้ทำได้แค่รีบเดินไปถึงให้เร็วที่สุด
ในที่สุดก็ลงมาถึง.. มือก็ยังบวมหนักมาก.. ผื่นยังขึ้นทั้งตัว
พี่เจ้าหน้าที่รีบพาเราไปที่อนามัย
ถึงอนามัยแล้ว
นี่เย็นแล้ว.. หมอน่าจะกลับไปบ้านพัก พี่เจ้าหน้าที่เลยช่วยโทรตามให้
หมอฉีดAdrenalineและcpmให้ รวมทั้งให้ยาแก้คันมากิน
น้องหมอเอ็กซ์ ใจดีมากๆไม่คิดเงินด้วยแหละ
เดินทางกลับอุทยานอย่างปลอดภัย.. และไม่ลืมที่จะประทับตราอุทยานไว้เป็นที่ระลึก..เย้ๆพิชิตภูสอยดาวได้แล้ว ถึงแม้ว่าทริปนี้ร่างจะพังมากก็ตาม555
ขากลับ เวลาเหลือ.. พี่จ่าใจดีมาก พาพวกเราเที่ยวต่อ.. โดยตระเวนกินขนมร้านดังตัวเมืองพิษณุโลกร้านแรกคือ"ร้านทับทิมกรอบสามหนุ่ม" ร้านนี้เค้าว่ากันว่าทัมทิมกรอบเด็ดมาก.. แต่ตอนพวกเราไปถึงดันหมดซะก่อนเหลือแต่ขนมปังปิ้ง.. ชิ้นละ10บาทเท่านั้น อร่อยมากกกก กินตอนปิ้งเสร็จใหม่ๆคือฟินเลย
ร้านต่อไป" ไอศครีมกะทิเจริญผล"
ร้านเปิด9:00-21:00น.
มีมากมายหลายเมนู ราคาไม่แพง
รสชาติใช้ได้เลย
หลังจากอิ่มท้องกันถ้วนหน้าก็ถึงเวลากลับ
แล้ว.. .นั่งรถรอบ22:00น. เดินทางถึงกทม.โดยสวัสดิภาพ
แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า
สถานที่เที่ยวเด็ดที่อยากแชร์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย