25 พ.ค. 2023 เวลา 13:05 • ไลฟ์สไตล์

เต็มที่แล้วปล่อยวาง

จากที่ได้สังเกตคนสำเร็จต่าง ๆ และการได้อ่านหนังสือมาหลากหลายเล่ม ประกอบกับระยะหลังได้นำวิธีนี้มาใช้แล้วได้ผล เลยอยากจะนำมาแบ่งปันด้วยครับ
คือคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เขาจะทำอยู่ 2 อย่างคือ "เต็มที่" และ "ปล่อยวาง"
เรื่องแรกคือ "เต็มที่" คนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะ "เต็มที่" กับเรื่องนั้น ๆ
คำว่า "เต็มที่" คือการศึกษา พัฒนาตัวเองไม่หยุด ทำดีแล้ว ก็ยังอยากทำให้ดีขึ้นไปอีก
ลองนึกถึงธุรกิจที่เราชอบก็ได้ครับ จะสังเกตว่าธุรกิจนั้นจะเต็มที่ในทุก ๆ เรื่องที่ทำ ลูกค้าถึงได้ประทับใจมาก ๆ
และการที่เราจะเต็มที่ได้ เรามักจะต้องโฟกัสกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ เพราะถ้าเราทำ 10 เรื่องพร้อม ๆ กัน การที่เราจะเต็มที่กับทุกเรื่องจะเป็นไปได้ยาก
คราวนี้มาถึงคำว่า "ปล่อยวาง" สำหรับผมแล้ว อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยพูดถึงกันมากนัก
คืออยากสำเร็จ เราต้องเต็มที่กับสิ่งที่เราทำ อันนี้มันชัดเจน แต่ปล่อยวางเนี่ยนะ มันเกี่ยวอะไร
ถ้าเปรียบคำว่า "เต็มที่" คือการเหยียบคันเร่งให้มิด ผมว่าปล่อยวางก็การผ่อนคันเร่งลง ไปจนถึงการหยุดพักรถในบางช่วง
ทำไมต้องปล่อยวาง เหตุผลเพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม มันจะมีปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
เราทำธุรกิจ เราเต็มที่กับทุกอย่าง แต่สุดท้าย เราก็อาจจะเจ๊งได้ เพราะเจอโควิดพอดี เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ หรืออีกหลายเหตุผล
ถ้าเรามีแต่คำว่าเต็มที่ เราจะผิดหวังสุด ๆ ที่แย่ไปกว่านั้น เราอาจจะไม่รู้จักหยุด รู้จักถอย เพราะเราถูกสอนให้เดินหน้าไปอย่างเดียว สุดท้าย มันจะพังอย่างหนัก เจ็บอย่างแรง จนเราลุกขึ้นมาอีกครั้งไม่ไหว
ปล่อยวาง ก็การยอมรับว่า ถ้าอะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด ใช่แหละครับ ผิดหวังได้ แต่ยอมรับความผิดหวังนั้น แล้วเริ่มต้นใหม่
ถ้าเราเป็นคนที่แพ้ไม่เป็น แพ้ไม่ได้ ชีวิตมันจะมีความสุขได้ยาก เพราะมันจะต้องมีวันที่เราแพ้ ที่สำคัญเราจะเครียด มีแต่ความหวาดระแวงกลัวว่าใครจะมาแย่งชิงความสำเร็จเราไป กลัวว่าเราจะขาดทุน
ผมบอกกับนักศึกษาผมก่อนที่เขาจะสอบอยู่เสมอว่า เต็มที่กับการเตรียมตัว เสร็จแล้วไปสอบ แล้วปล่อยวางซะ ถ้าทำได้ก็ดีใจกับความพยายามของเรา แต่ถ้าเราอ่านแล้ว เต็มที่แล้ว ยังสอบตก ปล่อยวางซะ ไม่มีอะไรต้องน่าเสียดาย เพราะเราเต็มที่แล้ว
2
ลุกขึ้นมาใหม่ ทำเต็มที่อีกครั้ง เดี๋ยวเราก็สำเร็จเอง หรือถ้าเราไม่สำเร็จเรื่องนี้ ก็ยังมีอีกหลายเรื่องให้เราได้สำเร็จ
ผมใช้แนวคิดนี้ในการทำงานและการดำเนินชีวิตมาตลอดครับ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ
โฆษณา