25 พ.ค. 2023 เวลา 17:40 • การศึกษา

แวะมาอ่าน..สิ่งที่ ตัวเองเขียน

แหม..ตอนนั้นเขียนอะไรไปได้เยอะแยะเนาะ
นี่ก็นานมากแล้ว ที่ไม่ได้เขียนถ่ายทอดเรื่องราวใดๆ แต่ก็ยังอยู่ในแนวทางปฏิบัติมาตลอดนะ
ยิ่งอยู่ในแนวทางนี้ ยิ่งเห็น ยิ่งรู้ว่า มันยากนะ ที่จะหาคนเข้าใจแนวทางธรรมจริงๆ บ้างก็หลง จนกลายเป็นมัวเมาในบุญ อยากได้ดี อยากเป็นเทวดา อยากมีความสุข อยากถูกหวย มีทุกรูปแบบเลย
ดีขึ้นมาหน่อยก็ อยากบรรลุโสดาบัน อยากนิพพาน ไม่อยากเกิด ไม่อยากให้กิเลศครอบงำ
ดีขึ้นมาอีกขั้น สำหรับกลุ่มคนที่ฝึกภาวนาจิต ก็อยากดี อยากปฏิบัติถูก อยากสอนคนอื่น อยากแสดงความเมตตา อยากให้คนเคารพนับถือ
มีแต่ความอยาก/ไม่อยาก เต็มไปหมดเลย มนุษย์อย่างเราๆสุดท้ายก็คงจะวนๆเวียนๆกันอยู่แบบนี้แหละ มันยากมากนะ ที่ปัญญาจะไปถึงขั้นที่ปล่อยวางตัวตนได้ ถ้าไม่มีตัวตน ไม่มีของเรา ความอยาก/ไม่อยาก ก็จะไม่มี กว่าจะเห็นกาย เห็นจิตว่าเป็นธาตุธรรมชาติ ผันแปร เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีตัวเรา ไม่มีการยึดติดที่แท้จริง ดูแล้วชาตินี้ ยุคนี้ที่มีสิ่งเร้าลุมล้อมมากมาย มีสิ่งบีบคั้นให้ต้องหาปัจจัยมาใช้พยุงชีวิตขนาดนี้ มันจะไปถึงจุดหมายแห่งธรรมได้อย่างไร
ซ้ำร้ายหนักกว่านั้น ในยุคที่มีคนตั้งตัวเป็นโค้ชชิ่ง มากมาย ยุคแห่งการโปรโมต
ศาสตร์แห่ง"กฎแห่งแรงดึงดูด"
ที่หลายคนได้ฟังก็คลั่งไคล้ เพราะสัมผัสจากประสบการณ์ส่วนตัวได้ว่า ฉันก็เคยมีเหตุการณ์แบบนั้นแบบนี้ ที่กฎแรงดึงดูดมาสอดคล้องได้อย่างน่าอัศจรรย์... ก็เลยเกิดความรู้สึกว่า ทุกอย่างที่ฉันปรารถนา ฉันสามารถดลบันดาลได้ ฉันจะได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ ความรัก เงินทอง ชื่อเสียง การประสบความสำเร็จ ฉันทำได้ทุกอย่าง ถ้าฉันทำตามกฎแรงดึงดูด จักรวาลจะจัดสรรให้ฉัน คลื่นจากตัวฉันจะดึงดูดสิ่งที่ฉันหวังให้เกิดจริง
จนลืมไปว่า โลกนี้ยังมี"กฎแห่งความจริง"
นั่นคือ..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ไม่เที่ยง ไม่แท้ ไม่ทน ทุกข์บีบคั้น ควบคุมไม่ได้
ต่อให้กฎแรงดึงดูดทำงานได้จริง คุณได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ แต่ไม่ว่าคุณจะได้อะไรมา นั่นคือการเริ่มต้นนับเวลาถอยหลังที่คุณจะสูญเสียสิ่งนั้นไป..สุขกับทุกข์มันมาคู่กันจริงๆ ไม่ใช่แค่วลีคำพูด มันเป็นไปแบบนั้นจริงๆ ยิ่งคุณหลงใหล ถูกใจ รักในสิ่งนั้นมากเท่าใด เมื่อถึงเวลาที่คุณสูญเสีย คุณจะทุกข์มากเท่านั้น
"ยึดติดกับสิ่งใด มันก็ทุกข์ เพราะสิ่งนั้น"
ในทางพุทธจึงสอนให้ฝึกที่จะปล่อย ฝึกที่จะวาง ฝึกให้เห็นความจริง เพื่อให้สักวันจิตจะยอมรับความจริงและเป็นอิสระ แต่กฎแรงดึงดูด สอนให้เข้ายึด สอนให้ดึงทุกสิ่งที่ปรารถนา สอนให้ลืมความจริงที่เราควรจะฝึกเผชิญหน้า ..ซึ่งอีกไม่นาน ความจริงสูงสุดแห่งชีวิตก็กำลังจะมาหาทุกคน ...
จึงขอเป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่ง ที่บันทึกข้อความพวกนี้ไว้ เผื่อมีใครสักคนมาอ่านแล้วเป็นประโยชน์ ส่วนใครมีความเห็นต่างเป็นอย่างอื่น อันนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ใครคิดเห็นแบบใด ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยแต่ละคน ..และไม่ว่าใครจะเลือกเดินทางไหน สุดท้ายปลายทางแห่งชีวิตก็เหมือนกันทุกคน เราก็ไม่เหลืออะไรเหมือนกันทุกคน..นั่นแล.
โฆษณา