ความงดงามของน้ำทะเลที่เกาะหลีเป๊ะ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ต้องตกหลุมรักที่นี่ ค่ะ

สะพานข้ามกาลเวลา และไปเดินบนสะพานทางเดินเลียบเกาะ ชมความงามของทะเล กลับสู่ยุคออร์โดวิเชียน และไปชมนิทรรศการ ความรู้ของสิ่งมีชีวิตสมัยดึกดำบรรพ์ ได้ที่ สำนักงาน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จนท. ให้การต้อนรับดีมาก ๆ ค่ะ

ทางเดินชมรอบ ๆ ทะเลบัน พร้อมสูดลมหายใจได้เต็มปอด อากาศสดชื่นนนนนน จริง ๆ

นี่ไม่ได้อยู่ในรายการที่ต้องไป แต่อิฉันเองก็บ้ายอ ตามหนุ่มที่นำทาง 😆 ปีนหน้าผาเขาขึ้นไปหาหัวใจแห่งอันดามัน นี่ถ้าหน้ามืดขึ้นมาคือตายลูกเดียว คือหนทางขรุขระ หินก็แหลมคมมาก ยังฮึกเหิมกระเสือกกระสนปีนไปจนยอดหน้าผาโน่นแน่ะ

ปราสาทหินพันยอดนี้ เกิดจากการที่เมื่อหลายล้านปีก่อน ก่อนน้ำใต้ดินได้กัดเซาะ และละลายหินปูนที่อยู่ใต้ดินจนเกิดเป็นโพรงมากมาย โพรงขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆจนเชื่อมกันเป็นโพรงใหญ่ต่อมาหินปูนถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นหินปูนเทือกเขาเกาะเขาใหญ่ เพดานของโพรงที่อยู่ในหินปูนถูกน้ำกัดเซาะจนบางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งรับน้ำหนักไม่ไหวจึงเกิดการยุบตัวลงมากลายเป็นหลุมหยุบในภูเขาซึ่งเกิดเป็นปราสาทหินพันยอดนั่นเอง

เริ่มจากตัวเมืองจังหวัดสตูล เดินทางถึง 4 แยกเจ๊ะบิลังเลี้ยวเข้าไปทางเจะบิลัง เพื่อเดินทางไปยัง ต.ตันหยงโป ระยะทางประมาน 25กม. แล้วสามาถต่อเรือไปสันหลังมังกรได้ที่ ต.ตันหยงโป โดยเรืองของชาวบ้านได้เลย ลำหนึ่งขึ้นได้15 คนตกคนละ100บาท แนะนำให้ไปในคืน14 ค่ำเพราะน้ำทะเลจะแหวกเต็มที่และจะได้เหนบรรยากาศที่สวยที่สุด

เราไปลงเรือค่ะ เราเหมาส่วนตัวค่ะ ไปแบบไม่รีบร้อน พักสายตา ชมความงามของทะเลอันดามัน อย่างจุใจ เพราะเราพักที่ตันหยงโปนี้เองค่ะ

นี่คือเกาะหัวมัน เกาะหัวมัน ทะเลแหวก นั่งเรือหางยาวตั้งอยู่ ณ อ่าวสตูล หมู่บ้านตันหยงโป ใช้เวลา ประมาณ 15 นาที เกาะหัวมัน ทะเลแหวก โดยเวลาที่น้ำลงนั้น จะเห็นทะเลแหวกทอดยาวไกลข้ามจากอีกเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านมุสลิม ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่มีความสุข ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษามลายู

ที่หมู่บ้านตันหยงโป ในยามเช้า น้ำทะเลลง เราก็จะเห็นชาวบ้านแถบนั้น (ชายหนุ่ม) ออกไปเดินย่ำโคลน จับปลา ปู มาขายค่ะ ได้กินของสด ๆ ปลอดสารฟอร์มาลิน

นี่คืออาหารทะเลสด ๆ ค่า ปรุงโดยพี่แจ๋วอิฉันพักที่นี่ค่ะ เดี๋ยวรอบหน้ากลับไปอีกแน่นอน 😎

ความสวยงาม และ Unseen ที่ต่างชาติไม่มี ❤️🇹🇭