28 พ.ค. 2023 เวลา 06:16 • ไลฟ์สไตล์

แชร์ 5 เทคนิคเพิ่ม Productivity ให้ชีวิตไม่ต้องทำงานเหนื่อย

ลืมการทำงานหนักไปได้เลย
ถ้าคุณโฟกัสที่ "วิธีการทำงาน"
แชร์ 5 เทคนิคเพิ่ม Productivity
ให้ชีวิตไม่ต้องทำงานเหนื่อย
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยากจะทำงานหนักแล้วหมดเวลาทั้งวันไปกับงาน แต่คนส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงผมด้วยในบางครั้ง มักทำงานพร้อมกับทำเรื่องอื่นๆ ไปด้วย จนไม่มีเวลาเหลือ
Multi tasking ไม่ใช่เรื่องที่แย่ แต่ผลลัพธ์ต่างหากที่จะวัดว่า การทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันเป็นเรื่องที่แย่รึเปล่า?
เพราะ ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถโฟกัสกับงานหลายอย่างพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นงานในที่ทำงาน งานด่วน งานราษฎร์ หรือแม้แต่งานจิปาถะเล็กๆ น้อยๆ
สิ่งสำคัญในการทำงานอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้คุณโฟกัสกับงานสำคัญ และทำงานจนเสร็จ คือ การมี Productivity ในงานของตัวเอง
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า ใช้เวลาในการทำงานไม่มีประสิทธิภาพและอยากเริ่มนิสัย Productive ที่ช่วยให้คุณทำงานจำนวนมากและออกมามีคุณภาพ
ผมมีเคล็ดลับสร้าง Productivity ในการทำงาน เพื่อชีวิตที่ Productive มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ตัวเองใช้เป็นประจำ
1.ทำ To do list
เมื่อคุณเขียน To do list ไว้ มันจะช่วยให้คุณไม่หลุดโฟกัส และลืมงานสำคัญที่ต้องทำ
ส่วนใหญ่ผมจะเขียน To do list ไว้ก่อนนอนและติดไว้แถวเตียง เวลาเช้าผมจะได้ตื่นขึ้นมาเห็นสิ่งที่ผมเขียนไว้ได้ทันที
To do list เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ผมใช้และถูกจริตกับนิสัยผมมากที่สุด ยังมีอีกอย่างเครื่องในการช่วยให้คุณโฟกัสอยู่งานที่ต้องทำ
อาทิเช่น Time boxing ซึ่งบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์เป็นคนใช้
ค้นหาและลองใช้เครื่องมือต่างๆ ให้มากแล้วคุณจะเจอเครื่องมือที่ถูกจริตคุณเอง
2. จัดลำดับความสำคัญ
1
ไม่ใช่ทุกงานจะสำคัญเท่ากันหมด บางงานเป็นงานด่วนที่ต้องทำทันที บางงานเป็นงานสำคัญที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับรายละเอียด
แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญเท่ากันกับทุกงาน มีหวังคุณได้ทำงานตั้งแต่เช้าจนเข้านอนแน่
สิ่งที่คุณต้องเข้าใจก่อน คือ งานไหนสำคัญหรือไม่สำคัญ ด่วนหรือไม่ด่วน และวิธีจัดการกับแต่ละรูปแบบ
ซึ่งวิธีการแบ่งประเภทของงาน ผมจะใช้ Eisenhower Matrix มาช่วย
# วิธีจัดการกับงานในแต่ละรูปแบบ ตามแบบ Eisenhower Matrix
1.งานสำคัญ ด่วน - ให้คุณลงมือทำทันที
2.งานสำคัญ ไม่ด่วน - ให้กำหนดระยะเวลาที่จะทำไว้
3.งานไม่สำคัญ ด่วน - แบ่งงานให้คนอื่นทำ
4.งานไม่สำคัญ ไม่ด่วน - ไม่ต้องทำ โยนมันทิ้งไป
3. ตัดสิ่งรบกวน
ผมคนหนึ่งที่ไม่ชอบถูกขัดจังหวะเวลาเครื่องกำลังร้อนตอนทำงาน เวลาทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง ผมจะขอไปทำงานในที่เงียบๆ
1
สิ่งรบกวนไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ดังเกินไป แสงที่สว่างมากเกินควร จะทำให้งานที่คุณทำออกมาไม่ดี รวมทั้งเสียสุขภาพจิตคุณอีกด้วย
คุณต้องพยายามตัดสิ่งรบกวนเวลาทำงานให้ได้มากที่สุด เพราะ มันจะส่งผลต่อผลลัพธ์ของงาน
งานจะออกมาดี ต้องใช้สมาธิและความละเอียด
4. เทคนิค Pomodoro
Pomodoro เป็นเทคนิคที่บอกให้คุณทำงานแล้วก็พักเป็นช่วงๆ การพักแบบนี้เป็นจะเหมือนการรีชาร์จให้สมองคุณทำงานได้นานขึ้น
โดยปกติผมจะใช้ Pomodoro timer ในเวลาระหว่างการทำหรือเรียนคอร์สออนไลน์
วิธีนี้ทำให้ผมเรียนคอร์สออนไลน์ได้นานถึง 3 ชั่วโมง โดยที่ผมไม่รู้สึกเหนื่อยหรือล้า
5. นิสัยที่ดี ทำให้ง่าย นิสัยที่แย่ เริ่มให้ยาก
ในข้อนี้ผมได้ไอเดียมาจากการฟังพอดแคสต์ Mission to the moon ของคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ที่เคยเล่าถึงประสบการณ์ช่วงเริ่มต้นวิ่งว่า
ก่อนนอน เขาจะเอาเสื้อและรองเท้าวิ่งมาอยู่ใกล้กับเตียง พอตื่นเช้าขึ้นมาจะได้แต่งตัวแล้วออกไปวิ่งได้ทันที เรียกได้ว่า "นิสัยที่ดีทำให้ง่าย"
เริ่มต้นง่าย ทำได้เลย คุณจะทำมันจนติดเป็นนิสัย
ส่วน "นิสัยที่แย่เริ่มให้ยาก" เป็นการปรับลักษณะการทำนิสัยแย่ของคุณ โดยการเพิ่มขั้นตอนยากๆ เข้าไป เช่น
เมื่อคุณอยากอ่านหนังสือก่อนนอนแทนการเล่นโทรศัพท์ ให้คุณเอาโทรศัพท์ไปไว้นอกห้อง หรืออยู่ไกลมือของคุณ แล้วหันมาจดจ่ออยู่กับการอ่านหนังสือ
ถ้าคุณอยากเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเองให้ดีขึ้น ลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้กับนิสัยที่คุณอยากมี
นิสัยที่คุณทำอยู่ทุกๆ วัน
จะส่งผลต่อ "อนาคตของคุณ"
ดังนั้น เมื่อคุณอยากมี "อนาคตที่ดี"
จงรีบสร้าง "นิสัยที่ดี" แทน "นิสัยที่แย่"
1
# เทคนิคที่ผมแชร์ไปทั้งหมดจะไม่มีประโยชน์เลย เมื่อคุณไม่ได้นำมาปรับใช้กับตัวเอง
ถ้าคุณอยากเปลี่ยนชีวิตการทำงานให้ Productive มากยิ่งขึ้น คุณต้องค้นหาและทดลอง วิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองไปเรื่อยๆ
เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองสิ่งใหม่ๆ จนสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้
.
.
เขียนโดย Narabodee B.
เรียบเรียงโดย #วิชานอกห้อง
| ยกระดับตัวคุณ เพื่อเป้าหมายที่สำเร็จ
กดติดตาม “วิชานอกห้อง” เพื่อให้ไม่พลาดคำคมสร้างพลังและยกระดับความคิดให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน
📌 ช่องทางการติดตาม “วิชานอกห้อง”
.
.
#วิชานอกห้อง
โฆษณา