“วิธีเอาชนะเสียงในหัว”
::
เวลาไปให้คำปรึกษา หรือเป็นวิทยากรในองค์กรต่างๆ
มักได้รับระบายจากผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการ
ที่คาดหวังว่าจากลูกน้อง จากทีมงาน ให้องค์กร
มีผลกำไรเติบโต ทีมงานมีความสามัคคี พนักงานใฝ่เรียนรู้
พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ องค์กรต่างๆ
พยายามเอาเครื่องมือมากมาย มาสอนมาอบรม
มาติดตั้ง มาทำให้เป็นระบบ และคาดหวังว่า
พนักงานจะ Active จะเรียนรู้ จะคิดนวัตกรรม
อะไรใหม่ๆได้ จนในองค์กรมีเครื่องมือมากมาย
พนักงานเรียนกันไม่หวาดไม่ไหว
จนพนักงานบ่นกันว่าฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า
จึงต้องจับมาอบรมกันอยู่เรื่อยๆ
งานก็เพียบ อบรมก็ต้องมา จะเอาเวลาที่ไหนทำงาน
เหตุผลสำคัญที่ต้องอบกันเรื่อยๆ ก็เพราะ
มันไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไงครับ
แล้วเพราะอะไรถึงยังไม่เปลี่ยนแปลง
เหตุผลสำคัญก็คือ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงกันที่รากเหง้า
เหมือนเป็นมะเร็งแต่เอายาทา
เหมือนพิมพ์อักษรผิดในกระดาษแต่เอาลิควิดป้าย
เหมือนเจอผีแล้วสวดมนต์ อันนี้ เอาฮานะครับ
ต่อให้เอาเครื่องมืออะไรมาใช้
คนในองค์กรก็ยังไม่เปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม กำไรขององค์กร การทำงานเป็นทีม
ความสุขในองค์กร นวัตกรรมใหม่ๆ การเติบโตอย่างยั่งยืน
จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่า จะขุดรากถอนโคน
เปลี่ยนแปลงกันที่รากเหง้า ก็คือ
ภายในจิตใจของพนักงานกันจริงๆ
โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นพนักงานระดับไหน ทำงานมากี่ปี
อายุจะเท่าไร จบการศึกษาสูงแค่ไหนก็ตาม
ก็ต้องเปลี่ยนแปลงกันที่ “จิตใจ”
Case นี้ก็เช่นกันครับ
ลูกค้าท่านนี้เป็นนักธุรกิจที่เดินทางทำธุรกิจทั่วโลก
ขณะที่โค้ชกัน ต้องนัดเวลาข้ามโลกกันเลยทีเดียว
เพราะว่าโค้ชชี่ท่านนี้ Zoom กันขณะอยู่ที่ปารีส
เหตุเพราะว่า ทำงานมานาน ทำเป้าหมายอะไรๆ
ที่องค์กรกำหนดก็สำเร็จ เดินทางทำงานกันทั่วโลก
แต่รู้ตัวว่า แบกเอาความรู้สึกกลัวไม่ดีพอ
หรือ Fear of not good enough
เดินทางไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน จนมาเจอเพจนี้
ที่รู้สึกว่าไขความกระจ่างเรื่องนี้ได้โดนใจ
จึงนัดโค้ช นัดพูดคุยกัน
และนี่คือ บทสรุปจากการพูดคุยกันไปเรื่อยๆครับ
เรื่องความกลัวที่มันขึ้นมาในรูปของ “เสียงในหัว”
บางครั้งก็รู้ตัวบ้าง บางครั้งก็ไม่รู้ตัว
มันสร้างความคิดให้ตัวเองเหมือนตกในหลุมดำ
คอยดูดให้จิตใจลงมาสู่ความหดหู่ ความท้อแท้
ความไม่มั่นใจ และที่สำคัญคือ ไม่ดีพอสักที
เหมือนขับรถไป เหยียบเบรกไป ตลอดเวลา
เรื่องในหัววันๆคิดมากกว่า 60,000 เรื่อง
ถ้าคุณมีความกลัวชนิดนี้อยู่ มากกว่าครึ่ง
คุณจะคิดแต่เรื่องเหยียบเบรกให้ตัวเอง
จริงๆเรื่องนี้ สามารถแก้ได้ด้วยยาขนานเอก
ที่รักษาทุกโรคและได้ผลแบบไม่มีประมาณ
คือ “สติ” ที่ต้องสร้างให้เหมือนกับเรามี
อวัยวะอีกชนิดเกิดขึ้น และต้องใช้ให้คล่อง
เหมือนที่เราคล่องกับการหายใจ
คือ เราไม่ต้องสั่งร่างกายให้หายใจ
แต่เราก็หายใจตลอดเวลา
สติ ก็เช่นกัน
1. สติ คือการรู้ตัวว่า
เรากำลังอยู่ในอิริยาบทใด ?
อะไรทำให้เราอยู่ในอิริยาบถนั้น ?
เรากำลังคิดอะไรอยู่ ?
อะไรทำให้เราคิดเช่นนั้น ?
เรากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ?
อะไรทำให้เรารู้สึกเช่นนั้น ?
ให้ได้ตลอดเวลาทุกขณะจิต
2. เข้าใจ ความกลัวว่ามีสาเหตุจากอะไร
มีอะไรดีดีที่ซ่อนอยู่ในความกลัวเหล่านั้น
เราจะมีมุมมองใหม่ให้มันอย่างไร
3. วางใจ ให้ยอมรับกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
เพราะถ้าคุณไม่ยอมรับ เท่ากับคุณกำลังผลักไส
เมื่อคุณผลักไส คุณจะเป็นทุกข์ทันที
วางใจกับสิ่งที่เป็นแม้จะเป็นด้านมืดของตัวเอง
4. เป็นคนใหม่ทันที ในแบบที่ไม่ต้องการเดินทาง
เหมือนกับตอนคุณเป็นผู้ประกวด Miss Universe
เมื่อไรก็ตามที่มงลง ภารกิจเพื่อมวลมนุษยชาติ
จะมาติดตั้งในใจโดยอัตโนมัติ แต่การเป็นคนใหม่
ไม่ต้องประกวดครับ เราเป็นได้ทันทีเหมือนสวมบทดารา!!!
และอย่าลืมนะครับ คุณต้องกำหนดว่าคนใหม่
จะเล่นบทอะไร มีคุณสมบัติอย่างไร จะพูดจะคิด
จะมีพฤติกรรมอะไร และเป็นทันที
และหากคุณต้องการเปลี่ยนเสียงในหัว
ที่มีแต่เรื่องลบๆ ให้กลายเป็นเรื่องบวกๆ
ซึ่งคุณคุยกับตัวเองบ่อยที่สุด
มาเรียนรู้กันแบบละเอียดๆ ในคอร์ส
“Positive Self Talk”
ที่ผมกับ ดร.ออม มุ่งมั่นตั้งใจทำคอร์ส Online นี้
เพราะเราผ่านมันมาแล้ว และถอดรหัสกันละเอียดยิบ
จนเราอยากแบ่งปัน ไม่อยากให้คุณต้องมาทุกข์
กับเสียงในหัวอีกต่อไป และ
เพื่อเปลี่ยนเสียงในหัวให้เป็นเชิงบวกอย่างยั่งยืน
เพื่อเลิกเหยียบเบรกให้กับเป้าหมายในชีวิต
เพื่อความสุขอย่างหมดจด ไม่มีเบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น
เราจะเรียนรู้ไปด้วยกันในวันศุกร์ที่ 16 และ 23 มิถุนายน 66
เวลา 19:00 – 21:00 น. ผ่านโปรแกรม Zoom
และมาดูซ้ำใน Facebook กลุ่มปิดได้ไม่จำกัด
ค่าลงทะเบียน 1,111 บาท จาก 2,999 บาท
::
เนื้อหาหลักสูตร และรายละเอียดอื่นๆ
กดลิงค์เลยครับ
::
::
แล้วเจอกันแบบสดๆในคอร์สครับ
::
—————————————————————————
ติดต่องานโค้ช งานวิทยากร Line : @bqc.coaching
—————————————————————————
#ขอให้มีความสุขทุกลมหายใจครับ ❤️
Tanakrit Jarusroongchawalit
Naphichaya Phacharapiyangkul
::
::
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
