29 พ.ค. 2023 เวลา 09:18 • การเมือง

ว่าด้วยเรื่องการกีดกันทางการค้าระหว่าง USA vs China

ปกติก็ไม่ค่อยชอบเขียนเรื่องที่มันดูเครียดมากนักแต่ครั้งนี้อ่านข่าวแล้วรู้สึกอะไรหว่า..
ไม่รู้ว่าจะเข้าใจกันหรือเปล่านะถ้าใครเคยฟังข่าวติดตามข่าวมาบ้างอาจจะพอเคยได้ยินผ่านๆ หู รึว่าผ่านตากันมาบ้าง ในเรื่องที่ทางสหรัฐฯ เริ่มทำการกีดกันทางการค้ากับจีนทั้งทางตรงและก็ทางอ้อม
โดยเริ่มจาก ทางการสหรัฐฯ ที่แบนบริษัทเทคโนโลยีของจีนหลายบริษัทโดยแจ้งว่าเป็นภัยทางความมั่นคงของชาติและอุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัทจีนก็มีความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยและการถูกโจรกรรมข้อมูล
ทางการจีนและทางบริษัทเอกชนเหล่านั้นเคยออกมาขอให้ทางการสหรัฐฯ ช่วยเอาหลักฐานที่ว่านั้น มาแสดงให้ทุกคนได้ดูเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าบริษัทเหล่านั้นทำผิดเงื่อนไขใดหรือโจรกรรมข้อมูลแบบใดถ้าเป็นจริงตามที่ทางการสหรัฐฯ กล่าวหาไว้พวกเขาก็ยินดีที่จะยุติ ข้อเรียกร้องทั้งหมดทันทีและยินดีที่จะยอมรับผลของการกระทำนั้น
แต่ในความเป็นจริงจนถึงวันนี้ทางการสหรัฐฯ หรือหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐฯ เองยังไม่เคยออกมาให้ข้อมูลใดๆ เลยว่าบริษัทเหล่านั้นมีความผิดเรื่องใดและโจรกรรมข้อมูลแบบใด หรือโจรกรรมจริงไหมมีหลักฐานใดๆ มาแสดงหรือเปล่าก็ไม่เคยมี
(สหรัฐฯ เคยพูดแบบนี้กับอิรักว่ามีหัวรบนิวเคลียร์มีอาวุธชีวภาพซุกซ่อนอยู่แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยค้นพบเลย หลังจากบุกเข้าไปปราบปรามจนประเทศอิรักเสียหายไปหมดแล้ว)
ต่อมาสหรัฐฯ ยังกีดกันไม่ให้ทางการจีนได้ใช้เทคโนโลยีระดับสูงของชิพเซ็ตเพราะมองว่าเป็นภัยความมั่นคงอีกครั้ง จนถึงปัจจุบันนี้จีนก็ยังถูกแบนไม่ให้บริษัทและประเทศต่างๆ ส่งชิพเซ็ตที่มีสมรรถนะสูงให้กับทางบริษัทของจีนทุกบริษัทรวมถึงทางการและหน่วยงานต่างๆ ของจีนด้วย
ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาของปีนี้ทางการจีนได้สอบสวนบริษัทชิพเซ็ตของสหรัฐฯ คือบริษัทไมครอนและสุดท้ายปลายทางได้ข้อสรุปว่าเป็นภัยความมั่นคงและมีความไม่ปลอดภัยจึงสั่งแบนไม่ให้หน่วยงานของตัวเองสั่งซื้อชิพเซ็ตของบริษัทไมครอน เช่นเดียวกับที่ทางการสหรัฐฯ เคยทำกับจีนและบริษัทเอกชนของจีนเอาไว้เช่นกัน
ซึ่งทางการจีนเองคราวนี้ก็ไม่ได้บอกเหตุผลใดใดเหมือนกับที่สหรัฐฯ เคยทำกับพวกเขาเอาไว้เช่นกัน
แต่คราวนี้สหรัฐกลับออกมาพูดว่าที่จีนทำอย่างนี้เป็นการกีดกันทางการค้าและตั้งใจจะแบนบริษัทชิปเซ็ตของอเมริกาซึ่งการกระทำนี้ไม่ถูกต้องและทางการสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรประเทศต่างๆ รวมถึงบริษัทคู่ค้าจะทำการตอบโต้จีนให้ถึงที่สุด อย่างแน่นอน
พอเห็นความแตกต่างหรือเปล่าว่าในตอนที่ทางการสหรัฐฯ แบนจีนและบริษัทของจีนไม่ว่าจีนพยายามเรียกร้องอย่างไรเพื่อให้ทางการสหรัฐฯ และหน่วยงานที่ตรวจสอบนำข้อมูลที่ถูกกล่าวอ้างมาเปิดเผยกลับไม่เคยได้รับข้อมูลและคำตอบใดๆ พูดแต่เพียงว่าเป็นภัยความมั่นคงเท่านั้นและก็เท่านั้น
จนวันนี้ทางการจีนทำแบบเดียวกันกับที่ทางการสหรัฐทำกับบริษัทของจีนบ้างกลับถูกออกมาพูดและมองว่าเป็นการกีดกันทางการค้าและไม่ยุติธรรมและจะหามาตรการในการจัดการจีนให้หนักมากยิ่งขึ้น
คงไม่อธิบายอะไรต่อ ฟังแล้วมันแปล่งๆ หู อ่านแล้วก็รู้สึกแปลกใจ ต้องบอกไว้ก่อนว่าผู้เขียนก็ไม่ใช่คนเก่งอะไรมากมายแต่ข้อมูลมันก็ชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้วจึงรู้สึกว่าความยุติธรรมและความเท่าเทียมมันคงไม่มีอยู่จริงหรอกมั้ง
โทษทีที่วันนี้เขียนเรื่องหนักไปหน่อยหรือเป็นการเมืองระหว่างประเทศ แต่ก็ทำให้รู้ว่า โลกความเป็นจริงมันไม่เหมือนกันกับที่พวกเราได้รับการสั่งสอนมาหรอกเนอะ..
ออกตัวก่อนนะ ว่าไม่ค่อยถนัดเรื่องการเมืองจ้า แค่อ่านเจอแล้วสงสัยก็เลยเอามาเขียน
โฆษณา