31 พ.ค. 2023 เวลา 09:06 • ท่องเที่ยว

ย โ ส ธ ร

อีสานม่วนหลาย…แบกกล้องตะลอนตามใจ
ออกไปเที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง!
วันเวลาผ่านไปไม่ทันไร เผลอแปปเดียวนี่ก็ล่วงเลย
เข้ามาสู่ช่วงปลายปีกันแล้ว ตลอดปีที่ผ่านมาหลายๆ คน
อาจจะกำลังทำงานกันอย่างหนัก จนร่างกายนั้นเหนื่อยล้า
ไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อน หรือบางคนก็อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
เก็บวันลาไว้ใช้เที่ยวกันในช่วงหยุดยาวปลายปีกันให้เต็มที่…
มาครับ!! ได้เวลาที่เราจะมาให้รางวัลกับตัวเอง
ด้วยการออกเดินทางไปชาร์จพลังไปกับสถานที่สวยๆ
ในประเทศไทย และแน่นอนครับว่าในวันนี้ผมก็มีทริปเด็ดๆ
มาฝากไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับฤดูท่องเที่ยว
ในช่วงปลายปีนี้พอดิบพอดีเลยล่ะครับบบบ
โดยในทริปนี้ผมจะพาทุกคนมุ่งหน้าไปยัง “จังหวัดยโสธร”
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวแห่งแดนอีสาน
จะดีไหมครับหากทุกคนได้ออกมาเที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง
เพราะไม่ใช่เพียงเราที่คิดถึงเมืองไทย แต่เมืองไทยก็คิดถึง
การเยี่ยมเยือนของเราเช่นกัน เพราะแต่ละสถานที่
ล้วนมีความน่าสนใจ มีผู้คน มีเรื่องราวดีๆ หรือแม้แต่เป็น
บ้านเกิดเมืองนอนของใครบางคนที่ทำให้คิดถึงขึ้นมาทีไร
ก็สุขใจทุกครั้งที่ได้ไปเยือน และยโสธรคืออีกหนึ่งเมือง
ที่ผมอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น
และถึงแม้ว่าที่นี่เป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์
สถานที่ท่องเที่ยวก็มีครบรส
และยังแอบมีมุม Unseen
ที่ชวนให้เราต้องตื่นเต้นประหลาดใจ หากได้มาเที่ยวแล้ว
รับรองว่าจะต้องประทับใจแน่นอน แล้วมาพบความม่วนหลาย
ในแดนอีสาน กับการตะลอนแบกกล้องไปเก็บภาพมุมสวยๆ
ของประเทศไทย ช่างเป็นอะไรที่สุขใจจริงๆ ครับ 😊
📌 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
📷 วิมานพญาแถน และพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
หากมาเยือนจังหวัดยโสธรแล้วสิ่งที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดนี้เลยก็คือ "วิมานพญาแถน” ซึ่งชาวอีสานมีความเชื่อกันว่าเป็นเทวดาที่ช่วยดับทุกข์ ขจัดอุปสรรค และเหลือมนุษย์ที่เดือดร้อนได้ และยังมี “พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก" ซึ่งเป็นอาคารรูปพญาคันคากขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวยโสธร และตำนานบุญบั้งไฟของชาวบ้าน
นอกจากนี้ในบริเวณพื้นที่เดียวกันก็ยังมีสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติให้ชาวยโสธรได้มาพักผ่อนทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วยังมีรูปปั้นองค์พญานาคขนาดใหญ่ และหุ่นปั้นนางรำจำลองงานแห่บั้งไฟ ให้ได้เที่ยวชมและถ่ายรูปกันด้วยครับ
อาคารพญาคันคากแห่งนี้มีความสูงกว่า 19 เมตร ซึ่งด้านในจะมีทั้งหมด 5 ชั้นและมีการจัดนิทรรศการ ที่แสดงเรื่องราวต่าง​ๆ เกี่ยวกับจังหวัดยโสธรให้นักท่องเที่ยวได้มาทำความรู้จัก​กับ​ความเป็นมาของจังหวัดยโสธร
📷 แกรนแคนยอน ยโสธร
นานๆ ที ผมจะมีที่ลับๆ มาฝากลูกเพจกับเขาบ้างนะครับ แต่ 'ลับ'​ ในที่นี้ไม่ใช่อะไรนะ เรื่องของเรื่องคือผมหาไม่เจอ ขับรถวนไปวนมาผิดทาง จนคิดว่ามันช่างเป็นสถานที่ลึกลับเสียเหลือเกิน 555555+
ลับเองหลงเองนักเลงพอครับ ขับหลงเบาๆ ไปประมาณ 40 กิโลได้ ซึ่งจริงๆ​ จุดหมายปลายทาง​ของ​ผมก็อยู่ในอำเภอเมืองยโสธรนี่แหละ​ แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่า GPS พาไปผิดทางก็ออกไปโผล่​ที่อำเภออื่นกันเลยทีเดียว เบิ่ดคำสิเว้าครับพี่น้องชาวยโส 😂
เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้วผมก็วนหาจนเจอซึ่งแกรนแคนยอนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านสะเดา ตำบลตาดทอง ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่มีแอ่งคันดินและบ่อน้ำสีฟ้าอมเขียวดูแปลกตา ซึ่งบ่อเหล่านี้เกิดจากการขุดหินของชาวบ้าน​ใน​อดีต มีหน้าผาหินสูงกว่า 10 เมตร ซึ่งเราก็สามารถแวะไปเที่ยวชมถ่ายรูปกันได้ แต่จะไม่แนะนำให้ลงไปเล่นน้ำนะครับ เนื่องจากน้ำลึกและยังไม่มีการปรับปรุง​พื้นที่ จึงยังไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย เป็นเพียงสถานที่ทางธรรมชาติเท่านั้นครับ
สำหรับการเดินทางมาที่นี่จากตัวเมืองยโสธรนั้นให้ใช้เส้นบายพาสแยกดอนมะยางสาย 202 ยโสธร-อำนาจเจริญ ขับไปประมาณ 4 กิโลเมตรจนถึงบ้านสะเดาก็ถึงแกรนแคนยอนแล้วครับ อย่าหลงข้ามอำเภอ​ไปแบบผมนะครับไม่งั้นขับวนกันทั้งวันทั้งคืนเด้ออออ 555555+
📷 011011 Studio
เรามาเติมคาเฟอีนให้กับร่างกายในยามบ่ายกันหน่อยครับ สถานที่ต่อไปเราจะแวะไปกันที่ Slow bar สไตล์บ้านไม้เก่าหลังเล็กๆ บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ที่บ้านเพื่อน แต่ละมุมก็ตกแต่งออกมาได้ดูลงตัว เหมาะกับการมานั่งพักให้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศสบายๆ
ความพิเศษของกาแฟที่ร้านนี้ คือรสชาติของกาแฟจากเมล็ดหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้เลือกกัน
ร้านเปิดทุกวัน 10.00 -​ 17.00 น.
📷 ยากิปัง
อีกหนึ่งคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ มาในสไตล์มินิมอล ตกแต่งได้ดูอบอุ่น บรรยากาศสบายๆ พร้อมเสิร์ฟทั้งขนมปังปิ้ง เบเกอรี่ Homemade แสนอร่อย เอาใจสายกาแฟดริปด้วยกาแฟที่เต็ม​ไปด้ว​ยความ​ใส่ใจและพิถีพิถัน​ในการทำ และ​ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นร้านกาแฟห้องแถวแต่ก็ตกแต่ง​ออกมาให้รู้สึกอบอุ่น ละมุนใจดีทีเดียว​
📷 ก๋วยเตี๋ยว​เรือ​โกติ่ง
แวะมาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือร้านอร่อยแห่งเมืองยโสธรกันหน่อยครับ อิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวเรือที่มีทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัวนุ่มๆ ทานคู่กับลูกชิ้น และน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูลวกจิ้มทานเพลิน ตบท้าย​ด้วยของหวานอันเป็น signature ของร้านก็คือทับทิมกรอบไข่ปลา ที่ไม่ว่าใครได้ลองก็บอกเลยหอมหวานอร่อยมากๆ
นอกจากรสชาติของอาหารที่ต้องติดใจแล้ว บรรยากาศของร้านก็ยังตกแต่งได้ร่มรื่นเย็นสบายดูน่านั่งมากครับ
ต้องบอกเลยนะครับว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้นั้นเด็ดจริงๆ ลูกค้าเยอะมากๆ เลยด้วยล่ะ
📷 ธาตุก่องข้าวน้อย
หากพูดถึงเรื่องนิทานไทยอย่าง "ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" ที่เราเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆ หลายคนก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีใช่มั้ยครับ และนี่คือสถานที่อัน​เป็นที่มาของเรื่องเล่าเรื่องนี้ครับ
ธาตุกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัดยโสธร ถูกสร้างในช่วงสมัยปลายอยุธยา ตามความเชื่อในนิทาน​ที่ว่าชายหนุ่มผู้นั้นได้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศ​ให้แก่แม่ของตนนั่นเองครับ
📷 วัดมหาธาตุ​
วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดยโสธร ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนจังหวัดนี้ก็ต้องห้ามพลาดเล​ยล่ะ​ครับ​ ซึ่งที่นี่ถือเป็น โบราณสถานสำคัญ มีพระแก้วหยดน้ำค้างซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสมัยเชียงแสน อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวยโสธร และยังมีพระธาตุเก่าแก่ที่สำคัญอย่าง "พระธาตุอานนท์" ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา มีความสูงถึง 25 เมตรด้านบนสุดเป็นยอดฉัตร มีธาตุเล็กอีกองค์อยู่ด้านข้างซึ่งเป็นเจดีย์บรรจุอัฐิของอดีตเจ้าเมืองสิงห์ท่านั่นเองครับ
ภายในวัดนั้นต้องบอกเลยว่ามีมุมสวยๆ ให้​นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมกัน และยังมี "หอไตร" ซึ่งเป็นอาคารไม้เก่าตั้งอยู่กลางสระน้ำเป็นที่เก็บคัมภีร์ใบลาและพระไตรปิฎกต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรแวะมาเยี่ยมชมกันเพราะเราจะได้รู้จักกับความเป็นมาของจังหวัดยโสธรกันมากขึ้นครับ
📷 The Zen Hotel
มาครับต่อไปเราไปดูที่พักที่อยู่ในใจกลางเมืองยโสธรกันดีกว่า ซึ่งในทริปนี้ผมจะพักที่ The Zen Hotel ซึ่งโลเคชั่นนั้นเหมาะกับการไปเที่ยวยังสถานที่​ต่างๆ ได้​ง่าย เดินทางก็สะดวก ส่วนราคาของห้องพักนั้นเริ่มต้นที่ราคาที่คืนละ 500 บาทเท่านั้นเอง ห้องพักสะอาด ตกแต่งในสไตล์เรียบง่ายดูโมเดิร์น มีที่จอดรถให้พร้อมเลยครับ
สนใจสอบถามหรือจองที่พักได้ที่…
เบอร์โทร 095-887-2589 หรือ 062-136-2759
นอกจากนี้ที่บริเวณด้านหน้าที่พักก็ยังมี The Zen Cafe ซึ่งเป็นคาเฟ่ และร้านอาหารของที่พักแห่งนี้เช่นเดียวกันครับ เรียกว่าสะดวกสบาย มาที่เดียวกินเที่ยวครบครับ หิวเมื่อไหร่ก็เดินออกมาหาขนมอร่อยๆ นั่งชิลล์จิบกาแฟ สั่ง​อาหาร​ทานที่ด้านหน้าที่พักกันได้เลย เป็นคาเฟ่น่ารักๆ ที่มีมุมให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย
📷 เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า
ย้อนเวลาสู่วันวานกับการเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า กับเสน่ห์ของชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจมากมายรวมทั้งสถาปัตยกรรมแบบโบราณ อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานนับร้อย​ปี​ ซึ่งเดิมทีบ้านสิงห์ท่าแห่งนี้เคยเป็นศูนย์การทางการค้ากับชาวฝรั่งเศส และชาวจีนในอดีต จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งไทย จีนและฝรั่งเศส และกลายเป็นชุมชนท่องเที่ยวในปัจจุบัน
มีพิพิธภัณฑ์เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่าด้วยนะครับ เปิดทุกวันเสาร์ 09.00 - 16.30 น.
ต้องบอกเลยครับว่าเมื่อได้มาเยือนที่นี่แล้วรู้สึก​ประทับใจมากๆ ด้วยบรรยากาศที่ดูคลาสสิคทำให้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมากครับ และยังมีร้านค้าชาวบ้าน ร้านอาหารต่างๆ หรือแม้แต่คาเฟ่เปิดใหม่ที่ยังคง Concept ความเก่าแก่เอาไว้ให้กลมกลืนกับชุมชนได้อย่างลงตัว หากได้มาเที่ยวที่นี่รับรองเลยครับว่าเดินกันเพลินๆ ได้ทั้งวัน หรือจะมาเที่ยวกันแบบ One Day Trip ก็ยังได้ เหมาะกับสายชิลล์​ และยังเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วยครับ
เดินเล่นไปตามเส้นทางในเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่าก็บังเอิญไปเจอศาลเจ้าจีนสวยๆ ด้วยล่ะครับ แวะเข้าไหว้เทพเจ้าขอพรกันสักหน่อย…
📷 ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
ต่อไปเราจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเล่นกันที่ย่านเมืองเก่าบ้านท่าสิงห์กันบ้างครับ ก่อนอื่นเลยเราจะแวะไปกันที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญและเป็นที่เคารพนับถือของชาวยโสธรมาตั้งแต่อดีต เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่าง จีน-ไทย-ลาว 3 วัฒนธรรม
ความพิเศษของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธรนั้นก็คือมีเสาหลักเมืองถึง 3 เสาแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งสาวใหญ่ที่อยู่ตรงกลางคือเสาหลักเมือง ส่วนเสาที่อยู่ทางซ้ายและขวานั้นเป็นที่สถิตของผีพระละงุม และผีพระละงำ ซึ่งเป็นผู้ปกปักษ์รักษา​เมืองนี้ เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนยโสธรทั้งทีก็ต้องแวะมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลกันสักหน่อยครับ
📷 Vachi Oldtown Specialty Coffee
คาเฟ่ฮิบๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์​ท่า สะดุดตาตั้งแต่การตกแต่งภายนอกที่ยังคงความเก่าเอาไว้ ดูเข้ากับบรรยากาศของชุมชน ชอบในไอเดียที่เลือกเอาสังกะสีเก่ามาทำเป็นหลังคาด้านหน้าดูเท่มาก ดีไซน์ร้านก็เป็นเอกลักษณ์ มีมุมให้ได้ถ่ายรูปกันเพียบ แถมรอบๆ ร้านยังร่มรื่นไปด้วยสวนขนาดย่อมๆ ดูสบายตา
ที่ร้านนี้มีเมนูเครื่องดื่มและของหวานพร้อมเสิร์ฟหลายเมนู มีกาแฟหลากหลายสายพันธุ์และระดับการคั่วให้เลือกได้ตามความชอบครับ
ร้านเปิดทุกวัน 08.00 ถึง 17.00 น.
📷 สิงห์ นม สด
พิกัด​ >> ตรงข้ามศาลหลักเมืองยโสธร
เดินถัดจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองมาอีกสักนิดเราก็จะเจอกับคาเฟ่สไตล์บ้านไม้เก่าโบราณอย่าง "ร้านสิงห์ นม สด"
มานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจ อิ่มอร่อยไปกับนมสดและขนมปังสังขยา ขนมปังปิ้ง หรือหากอยากจะทานไอศครีมกะทิสดเพิ่มความสดชื่นก็มีเช่นกัน ส่วนใครที่อยากทานของคาวที่นี่ก็มีพร้อมเสิร์ฟอย่างเมนูก๋วยจั๊บเส้นสด ที่เส้นเหนียวนุ่ม ทานคู่กับน้ำซุปกลมกล่อม ท่ามกลางบรรยากาศร้านสุดคลาสสิคของชุมชนเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า
ร้านนี้ก็จะเปิดตั้งแต่ช่วงกลางวันยาวไปจนถึงช่วงเย็นๆ ค่ำๆ เลยนะครับ ต้องบอกเลยว่ายิ่งถ้ามาในช่วงค่ำๆ แล้ว ร้านจะเปิดไฟโทนสีส้มดูอบอุ่น บรรยากาศดีมากๆ
📷 วัดบ้านคำเลา (อ.กุดชุม)​
ออกจากอำเภอเมืองยโสธรแล้วไปต่อกันที่อำเภอกุดชุมกันหน่อยครับ เราจะแวะไปเที่ยวที่วัดสวยๆ อย่าง "วัดบ้านคำเลา"​ ที่ดูสวยงามแปลกตาด้วยอุโบสถสีน้ำเงินสวยทั้งหลัง หลายคนอาจจะเคยเห็นหรือเคยรู้จักกับ "วัดร่องเสือเต้น" ที่จังหวัดเชียงรายกันมาบ้างแล้ว ซึ่งที่วัดร่องเสือเต้นนั้นก็มีอุโบสถสีน้ำเงินสวยงามแบบนี้เช่นกัน แต่ผมต้องบอกเลยครับว่าทางแถบอีสานนี้ก็มีดีไม่แพ้กัน เพราะมีวัดบ้านคำเลาที่สวยเด็ดจนต้องมาเยือน
ที่อุโบสถของวัดแห่งนี้ ด้านหน้ามีพญานาคคู่สีน้ำเงิน 7 เศียร และท้าวเวสสุวรรณ บอกเลยว่าหากได้มาเยือนแล้วต้องไม่มีผิดหวังครับเพราะวัดสวยมากๆ ถ่ายภาพออกมาได้มุมอลังการเยอะเลย
และเมื่อเดินเข้ามาด้านในจะพบกับภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติให้ได้ชมกัน
📷 วัดย่อเหนือ (อ.คำเขื่อนแก้ว)​
อีกหนึ่งความอลังการของวัดสวยแห่งจังหวัดยโสธร ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเขื่อนคำแก้ว ต้องบอกเลยครับว่าที่ยโสธรนั้นมีวัดสวยๆหลายแห่งมากและที่วัดย่อเหนือแห่งนี้คืออีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องห้ามพลาดเล​ยทีเดียว​
ไฮไลท์เด็ดของวัดนี้เลยก็คือถ้ำพระนาคปรกและน้ำตกพญานาค ซึ่งเป็นการสร้างถ้ำจำลองขึ้นมาและมีองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ขนาบข้างด้วยองค์พญานาค รายล้อมไปด้วยหินงอกหินย้อยเหมือน​ในถ้ำ ประดับตกแต่ง​ด้วยไฟที่สวยงามมากๆ จนเห็นแล้วต้องจินตนาการ​เสมือน​เป็นวังบาดาลเลยล่ะครับบบ
📷 โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ (อ.ไทยเจริญ)​
สถานที่สุดท้ายของทริปนี้ เราจะไปปิดทริปกันที่ "โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้" หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดอัครเทวดามิคาเอล" ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอไทยเจริญ ความสวยงามแปลกตาของที่โบสถ์แห่งนี้ก็คือ เป็นโบสถ์ไม้คริสต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยังมีอายุมากถึง 100 ปี
ทุกวันนี้​เรามักเคยชินกับโบสถ์ที่เป็นอาคารปูนดูสวยงามทันสมัย แต่โบสถ์​แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหลังในสไตล์อาคารแบบโบราณ ซึ่งในปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่ที่คริสตศาสนิกชนยังคงมีการจัดพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนากันอยู่ครับ
#คนหลงทาง #เที่ยวยโสธร #จังหวัดยโสธร
#วงล้อแห่งความคิดถึง #เที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง
โฆษณา