1 มิ.ย. 2023 เวลา 07:43 • ประวัติศาสตร์

“การนอนแปดชั่วโมง” มีมาตั้งแต่แรกจริงหรือ?

หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าการนอนให้มีคุณภาพ นอนแล้วสดชื่น คือนอนประมาณแปดชั่วโมงต่อคืน
แต่หากพิจารณาจากประวัติศาสตร์แล้ว ในอดีต แนวคิดนี้อาจจะไม่จริงเสมอไป
ในปีค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) นักประวัติศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาหนึ่ง ซึ่งในผลการศึกษานี้ระบุว่าในอดีต ผู้คนนั้นนอนวันละสองช่วงเวลา โดยจากการสืบค้นบันทึกในอดีตในช่วง 500 ปี มีการกล่าวถึง "การนอนแรก" และ "การนอนครั้งที่สอง"
ในช่วงที่ยังตื่น คือช่วงระหว่างการนอนทั้งสองช่วงเวลา ผู้คนก็จะทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และจากการตรวจสอบหลักฐาน ยังพบว่าในหนังสือสวดมนต์เมื่อศตวรรษที่ 15 ยังมีการกล่าวถึงช่วงเวลาระหว่างการนอนทั้งสองช่วงในหนึ่งวันอีกด้วย
1
นอกจากนั้น นักจิตวิทยายังทำการศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ ในแอฟริกา โดยชนพื้นเมืองเหล่านี้ดำรงชีวิตด้วยการหาของป่าและล่าสัตว์ และก็พบข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย
หนึ่งในข้อมูลที่ค้นพบ นั่นก็คือเหล่าชนพื้นเมืองเหล่านี้มักจะไม่นอนทันทีหลังพระอาทิตย์ตกดิน หากแต่จะยังคงตื่นอยู่เป็นเวลาราวสามชั่วโมงครึ่ง
3
ที่ผ่านมา นักประวัติศาสตร์มักคิดว่าผู้คนในอดีตมักจะเข้านอนเลยเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เนื่องจากในอดีตยังไม่มีไฟฟ้า แต่ดูเหมือนว่าผู้คนในอดีตก็ยังไม่ได้จะนอนในทันทีหลังพระอาทิตย์ตกดิน
1
และจากการศึกษา ก็พบว่าชนพื้นเมืองเหล่านี้มักจะไม่ได้นอนถึงแปดชั่วโมง แต่เฉลี่ยแล้วจะนอนประมาณหกชั่วโมงยี่สิบห้านาที
3
คำถามต่อมาที่หลายคนอยากรู้ก็คือ "ทำไมเราจึงต้องนอน"
ตั้งแต่มนุษยชาติถือกำเนิดขึ้นมา การนอนก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ และดูจะเป็นสิ่งธรรมดาสามัญ
หนึ่งในทฤษฎีเกี่ยวกับการนอน นั่นก็คือผู้คนในอดีตนอนหลับเพื่อเก็บรักษาพลังงานในร่างกายไว้
บางทฤษฎีก็คิดว่ามนุษย์สมัยโบราณจำเป็นต้องนอนเพื่อที่จะได้เงียบ ไม่ส่งเสียง ทำให้สัตว์ร้ายไม่เข้าโจมตีพวกตน
แต่ที่ดูจะเป็นจริงที่สุดก็คือทฤษฎีที่ว่า การนอนก็คือการรักษาและซ่อมแซมร่างกายผ่านการพักผ่อน
3
ในสมัยศตวรรษที่ 17 ผู้คนเริ่มมีกิจกรรมยามค่ำคืน เช่น การออกไปดื่มเหล้า รวมทั้งการเที่ยวผู้หญิงบริการ
1
ในปีค.ศ.1667 (พ.ศ.2210) ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มมีการติดตั้งตะเกียงที่ให้แสงสว่างบนท้องถนน และก็เริ่มแพร่กระจายจากปารีสไปยังเมืองอื่นๆ ทำให้ผู้คนจำนวนมากเริ่มใช้เวลาในยามค่ำคืนทำกิจกรรม ทำงาน ออกนอกบ้าน
1
จากการศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมือง ทำให้เข้าใจได้ว่ามนุษย์สมัยโบราณในยุคหินใหม่นอนเพียงวันละหกชั่วโมง
มนุษย์โบราณเหล่านี้ไม่ได้ตื่นนอนยามค่ำคืน หากแต่วิถีการนอนของพวกเขานั้นขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ
ในเวลาต่อมา เมื่อผู้คนมีการอพยพขึ้นเหนือไปยุโรป การแบ่งเวลานอนออกเป็นสองช่วงเวลาก็กลายเป็นเรื่องปกติ
มีบันทึกในสมัยกรีซโบราณและยุโรปในยุคกลาง ก็พบว่าสมัยนั้นก็มีการแบ่งเวลานอนออกเป็นสองช่วงเวลา แต่เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 17 วิถีการนอนของผู้คนก็เริ่มเปลี่ยนไป ก่อนจะหายไปอย่างถาวรเมื่อเข้าสู่ค.ศ.1920 (พ.ศ.2463)
1
การเกิดขึ้นของ "การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)" ทำให้ความต้องการสินค้ามีสูง การผลิตจึงต้องเร่งกำลังการผลิต ประกอบกับการเกิดขึ้นของไฟบนท้องถนน ทำให้ผู้คนเปลี่ยนวิถีการนอน จากนอนสองช่วงเวลาเป็นนอนเวลาเดียว และนอนยาวๆ ไปเลย
1
ในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และการนอนก็กลายเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ผู้คนจำนวนมากมีช่วงเวลาการนอนที่ต่างกัน วิถีการนอนต่างกันออกไป
นี่ก็เป็นเรื่องคร่าวๆ ของประวัติศาสตร์การนอนตั้งแต่อดีต
โฆษณา