1 มิ.ย. 2023 เวลา 14:17 • บันเทิง

หลัวเทียนเจิน ณ โห้วล่าง (ภาค Before)

ความเดิมตอนที่แล้ว เพจหลัวเราชื่อหลัวอีโจวของเราได้ลงบทแปลที่หลัวให้สัมภาษณ์เรื่องการรับบท “เหรินเทียนเจิน” หลังจากที่ “โห้วล่าง” ได้ออกอากาศแล้ว ซึ่งถือเป็นภาค After จริงๆแล้วยังมีบทสัมภาษณ์ภาค Before ที่หลัวสัมไว้ในหนังสือครบรอบ 10 ปีเย่าเค่อฉวนเหมย (ค่ายที่หลัวอีโจวเซ็นสัญญาด้วย) ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเมียก็แปลไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้เผยแพร่
วันนี้ ฤกษ์ดี วัน 六一 ลิ่วอี เดือน 6 วันที่ 1 ซึ่งเป็นวันเด็กของประเทศจีน (และหลัวเองก็เกิดวันที่ 16) เลยถือโอกาสเอามาฝากกัน ดูซิว่าตอนที่ผลงานยังไม่ออกสู่สายตาผู้ชม และมีข้อมูลซีรี่ย์หลุดออกมาน้อยมาก คุณหลัวนักสปอยล์ของพวกเราได้บอกใบ้อะไรพวกเราบ้าง และเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายขนาดไหนกันนะ
ต้นปี 2022 หลัวอีโจวให้สัมภาษณ์นิตยสาร ยอมรับว่าหนทางความสำเร็จยังอีกยาวไกล แต่เขาบอกตัวเองกับแฟนคลับเสมอว่าเดินช้าหน่อยไม่เป็นไร ขอเพียง "ตั้งมั่นให้ดี ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ และสู้ต่อไป" และก็เป็นไปตามที่พูด เขาได้รับบทพระเอกซีรี่ย์เรื่องแรกช่วงปิดเทอมฤดูหนาวปี 4 หลังเซ็นสัญญากับค่ายเย่าเค่อฉวนเหมยได้ปีกว่าๆ
เขาบอกว่าตัวเองโชคดี ที่ได้เล่นซีรี่ส์สเกลใหญ่ร่วมกับดารารุ่นพี่ยอดฝีมือมากมายตั้งแต่เรื่องแรก แน่นอนว่านักเรียนตัวอย่างแบบเขาใช้โอกาสนี้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งด้านการแสดงและการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ซึ่งเราตั้งใจถ่ายทอดคำพูดของเจ้าตัวให้ทุกคนได้อ่านกันที่นี่แล้ว
"后浪“ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่โปรโมทวัฒนธรรมแพทย์แผนจีน
“ตั้งแต่ได้รับบท "โห้วล่าง" (แปลว่า คลื่นลูกใหม่) มา ผมก็รู้เลยว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ทรงคุณค่ามาก เพราะแก่นของเรื่องที่ตั้งใจโปรโมทวัฒนธรรมแพทย์แผนจีน ซึ่งผมมองว่าประเทศเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่โดดเด่นมากมายที่สมควรเผยแพร่ให้คนทั่วไปรับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กรุ่นใหม่”
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมท่าแมะสมจริงมาก
“ก่อนเปิดกล้อง ช่วงตรุษจีนปี 2022 ทีมงานจัดให้พวกเรานักแสดงไปเรียนทฤษฎีเบื้องต้นจากแพทย์แผนจีนจริงๆที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนจีนเมืองต้าหลี่ พวกเราได้เรียนจับชีพจร ฝังเข็ม เพื่อให้เข้าใจหลักการเบื้องต้น ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่พวกเราก็ตั้งใจกันมาก นอกจากจะเรียนเพื่อให้แสดงได้สมจริงแล้ว ยังทำให้เข้าใจตัวละครมากขึ้นด้วย ผมสัมผัสได้ถึงความพิเศษของการแพทย์แผนจีนที่สืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านมรดกภูมิปัญญาของครอบครัว”
“เรื่องราวใน "โห้วล่าง" มีครอบครัวและห้องเรียนแพทย์จีนแผนโบราณของ "เหรินซินเจิ้ง" เป็นศูนย์กลาง เล่าเรื่องวัฒนธรรมการแพทย์แผนจีนที่หยั่งรากลึกในวิถึชีวิตผู้คน ซึ่งไม่ใช่แค่การรักษาโรคและช่วยชีวิต แต่ยังเป็นการรักษาผู้คนและเยียวยาจิตใจ อาจารย์หมอที่ต้าหลี่ยังสอนพวกเราเรื่องวิธีคิด ความคาดหวัง ปรัชญา และความหมายของชีวิตด้วย ผมได้เรียนรู้มากมายจริงๆ”
"เหรินเทียนเจิน" เป็นผู้ใหญ่และ"ไร้เดียงสา"
“ในฐานะนักแสดง คุณต้องเริ่มจากการเข้าใจภูมิหลังอาชีพและลักษณะนิสัยของตัวละครก่อน บทของผมคือ "เหรินเทียนเจิน" (เทียนเจิน แปลว่า ไร้เดียงสา) ลูกชายของ "เหรินซินเจิ้ง" (ซินเจิ้ง แปลตามตัวอักษรว่า เดือนแรกตามจันทรคติ และยังแปลตามคำพ้องเสียงได้ว่า จิตใจแห่งคุณธรรม) ซึ่งเป็นแพทย์แผนจีนที่มาจากตระกูลแพทย์จีนแผนโบราณ”
“บทบาทของเหรินเทียนเจินก็สมชื่อ คือเป็นคนไร้เดียงสา เขามองโลกแบบเด็กๆ มีชีวิตชีวา พลังงานเยอะ แต่ก็มีอีกด้านที่มุ่งมั่น นิ่งๆ นิสัยเหมือนครูใหญ่ สรุปได้ว่าเป็นคนย้อนแย้ง ทั้งโตเป็นผู้ใหญ่และเป็นเด็กน้อยในร่างเดียว”
“ผมกับเทียนเจินมีนิสัยคล้ายกันหลายอย่าง แต่กับครอบครัวเขาจะ "ต่อต้าน" มากกว่า เพราะตัวผมเองเข้ากับผู้ใหญ่ในบ้านได้ดีมากๆ เทียบกันแล้วเขาจะวัยรุ่นกว่า อีกอย่างคือเขาจะดื้อแล้วก็งอแงขี้แย แต่ผมมีความเป็นทหาร ไม่เสียเลือดเสียเหงื่อเสียน้ำตาง่ายๆ เลยต้องหาจุดบาลานซ์แล้วเสริมความ "ขบถ" ให้มากขึ้น”
“อ.อู๋กังกับอ.เจียงซานเล่นเป็นพ่อกับแม่ในเรื่อง ผมรู้สึกขอบคุณทั้ง 2 ท่านมาก รวมถึงอ.ซีเหม่ยเจวียนและอ.หลี่กวงฟู่ที่รับบทคุณยายกับคุณตา และอาจารย์ท่านอื่นๆด้วย ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ในเรื่องจะวนเวียนอยู่รอบๆครอบครัวนี้ ที่ทุกคนเป็นแพทย์แผนจีนกันหมด อาจารย์แต่ละท่านประสบการณ์สูงมาก เล่นเข้ากันเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่บ้านจริงๆ พวกท่านพาผมเข้าถึงความเป็นครอบครัวได้เร็วมาก ช่วยผมเรื่องการแสดงเยอะมากๆ”
หลัวกับอ.หลี่กวงฟู่ อากงใจดีในเรื่อง
“เวลาเราเรียกชื่อกันในละครก็อบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว อย่างตอนที่คุณแม่ "ซ่งหลิงหลาน" สอน "เหรินเทียนเจิน" ก็เหมือนแม่ที่ปฏิบัติกับลูกชายสุดที่รักที่อยู่ในวัยต่อต้านจริงๆ และอีกซีนที่ผมจำได้ คือตอนที่เทียนเจินทะเลาะกับพ่อ แล้วคุณตาเข้ามาปลอบ อ.หลี่เล่นเป็นธรรมชาติและเรียลมาก ทำให้ผมอินไปกับบทโดยอัตโนมัติ ด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์ทุกท่านกับประสบการณ์ตัวเองที่เพิ่มขึ้น การแสดงก็ราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ และผมเองก็มีความมั่นใจมากขึ้นด้วย”
“นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ผมต้องเล่นสเกตบอร์ด เทียนเจินมักจะขึ้นไปฝึกสเกตบอร์ดบนดาดฟ้า ที่ที่เขาจะปลดปล่อยตัวเองจากความเป็นนักเรียนดีเด่น นิ่งๆ มีเหตุผล ไปสู่ความท้าทาย ทะลุออกจากกรอบ และ "ขบถ" เล็กๆ สเกตบอร์ดยังทำให้เขาเข้าใจซุนโถวโถว (แสดงโดยจ้าวลู่ซือ) มากขึ้น และเปิดโอกาสสานสัมพันธ์ในเชิงบวก จากที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ในทีแรก”
“และเพื่อให้เก่งขึ้น ผมก็ต้องฝึกบ่อยๆ ถึงแม้จะทำท่าอันตรายไม่ค่อยได้เพราะเท้าบาดเจ็บอยู่ แต่ผมก็เชี่ยวชาญท่าพื้นฐานได้ไวอยู่นะครับ วินาทีที่ยืนบนบอร์ด ความรู้สึกว่า "ตอนนี้ใจผมคือเทียนเจิน" ก็มาเองอัตโนมัติ”
นักแสดงหน้าใหม่ ต้องเข้าใจตรรกะการแสดงที่ถูกต้องเป็นอันดับแรก
"โห้วล่างเป็นซีรีย์เรื่องแรกที่ผมได้แสดงนำ รู้สึกโชคดีมากที่ได้มีส่วนร่วมในละครคุณภาพแบบนี้ตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางศิลปิน นอกจากจะรวมนักแสดงฝีมือเยี่ยมไว้มากมายแล้ว ขั้นตอนการถ่ายทำก็เป็นมาตรฐาน การได้แลกเปลี่ยนกับผู้กำกับและอาจารย์อาวุโสทั้งหลาย ทำให้ผมค่อยๆเข้าใจคอนเซ็ปต์และตรรกะของการทำละคร และสร้างมาตรฐานกับเฟรมเวิร์คการแสดงทางโทรทัศน์ให้ตัวเอง"
หลัวกับอ.อํู๋กังและอ.เจียงซาน ป่าป๊าหม่าม้าในเรื่อง
"อ.อู๋กังสอนว่า ถ้าอยากเล่นได้ดี ต้องคุ้นเคยกับบทก่อน จุดประสงค์ไม่ใช่แค่ท่องจำบทได้เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจการเดินทางทั้งหมดของตัวละคร การเติบโตกับจุดเปลี่ยนที่สำคัญ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างแต่ละตัวละครด้วย เพราะละครทีวีจะถ่ายทำเป็นฉากๆ บางทีก็ถ่ายฉากหลังก่อนค่อยถ่ายฉากแรก ถ้านักแสดงจำเรื่องที่ว่ามาได้ขึ้นใจ ก็จะแสดงสีหน้าท่าทางและรีแอคได้เร็วและเป๊ะตามบท สื่อสารกับตัวละครอีกฝ่ายได้ดีขึ้น และอาจจะจุดประกายอะไรใหม่ๆได้อีกด้วย"
"ถึงจะเคยมีประสบการณ์แสดงละครเวทีมาก่อน แต่สำหรับงานถ่ายหนังและละคร ผมยังใหม่ เลยมักจะปรึกษาผู้กำกับถึงคอนเซปต์การถ่ายทำและการคิดเผื่อสำหรับการแสดงหน้ากล้องอยู่บ่อยๆ อะไรบ้างที่ต้องให้ความสนใจมากขึ้น อะไรบ้างที่ต้องลงดีเทลเพิ่มเติม อะไรทำนองนั้น"
《英雄无悔》之《最后一个任务》
"หลังถ่ายทำซีรีส์โห้วล่างเสร็จ ผมได้ไปแสดงละครเวทีเรื่อง "ซานเซิงลู่ (ทางสามภพ)" กับ "คั่งจ้านจงเตอเหวินอี้ (ศิลปะวรรณกรรมช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่น)" ที่โรงละครแห่งชาติ 2 เรื่องติดต่อกัน ทำให้มีประสบการณ์มากขึ้น ซึ่งช่วยในการถ่ายทำซีรี่ย์ต่อต้านยาเสพติดเรื่อง "อิงสยงอู๋หุ่ย Heroes without Regref" ตอน "จุ้ยโห้วอี๋เก้อเริ่นอู้ Last Mission" ของผมได้มากเลย"
ละครเวที “ซานเซิงลู่” และ “คั่งจ้านจงเตอเหวินอี้”
"ซีรีย์ชุด "อิงสยงอู๋หุ่ย" เล่าเรื่องของเหล่าฮีโร่และเจ้าหน้าที่ผู้ปิดทองหลังพระในภารกิจลับต่างๆ เพราะผมเคยเป็นทหารมาก่อน เลยเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมโปรเจ็กต์นี้ และได้แสดงเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดชื่อ "จางอีหยาง""
"ละครเรื่องนี้ถ่ายทำที่สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน หลายฉากถ่ายทำในสถานที่จริง เช่น สุสานของเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดที่เสียชีวิตในหน้าที่ และ ศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด พอได้เห็นข้อความที่ผู้รับการบำบัดเขียนทิ้งไว้บนกำแพง ผมก็เกิดแรงบันดาลใจและได้ไอเดียในการแสดงมาหลายอย่าง"
"เพื่อให้เข้าถึงบทบาทตำรวจปราบปรามยาเสพติด "จางอีหยาง" ผมไปเข้ารับการฝึกฝนร่างกายก่อนเปิดกล้อง และเรียนวิธีจับปืน ถึงจะเคยใช้ปืนไรเฟิ่ลออโตเมติกตอนเป็นทหาร แต่พอเปลี่ยนมาจับปืนพก ก็ไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้นึกถึงชีวิตตอนอายุ 11 ขวบ ที่ต้องฝึกระเบียบเดินแถว จับอาวุธ รวมถึงเครื่องแบบ เครื่องหมายติดปก อก บ่า บั้ง ต่างๆ ขึ้นมาอีกครั้ง"
และเพื่อความสมจริง ถึงจะต้องแต่งหน้าให้ดูแก่ โหด หรือโทรมแค่ไหนก็ไม่เคยปฏิเสธ ในเรื่องนี้หลัวอีโจวใช้รองพื้นสีเบอร์ 9 ซึ่งคล้ำกว่าผิวจริงหลายเท่าตัว "เพราะบทของผมต้องทำงานกลางแดด และในเมื่อไม่มีริ้วรอยก็วาดเพิ่มเข้าไป ง่ายๆแค่นั้น"
"บท "จางอีหยาง" ให้ประสบการณ์ผมเยอะมาก เขามีเส้นทางการเติบโตที่ไม่เหมือนใคร ตอนเพิ่งจบจากโรงเรียนตำรวจ ก็จะยังอ่อนต่อโลกและบุ่มบ่าม จากนั้นก็เผชิญความยากลำบากตอนออกปฏิบัติภารกิจสายลับ จนกลายมาเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่สุขุมและเก่งกาจในที่สุด”
“ตัวละครนี้มีกราฟการเติบโตที่ครบวงจร แบบค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย ผมจึงต้องแสดงมันออกมาให้เห็นทีละขั้น อย่างเช่น ตอนปลอมตัวเป็นสายลับ ก็จะมีบุคลิกอีกแบบ การแยกคาแรกเตอร์แบบนี้เป็นโอกาสฝึกที่ดีมาก เพราะการแสดงก็คือกระบวนการวางซ้อนสกิลที่มีลงไปอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ผมสร้างสรรค์งาน เล่นบทบาทใหม่ ก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ของคาแรกเตอร์ใหม่ที่ต่างออกไปเสมอ เหมือนได้เพิ่มความลุ่มลึกให้กับชีวิต”
“ผมหวังว่าจะได้ลองบทบาทหลากหลายขึ้นอีกในอนาคต เลยพร้อมที่จะท้าทาย ทดลอง และสัมผัส เพื่อที่จะได้เก่งขึ้นเร็วๆและมีผลงานดีๆให้ทุกคนได้บอกต่อมากขึ้นครับ"
แปลจาก หนังสือครบรอบ 10 ปีเย่าเค่อฉวนเหมย ตีพิมพ์ต้นปี 2023
เหมือนเดิมนะคะ ฝากเพจไว้ในอ้อมใจ แชร์ ไลค์ เม้นท์ ได้ และส่งบทความมาให้ช่วยแปลได้นะคะ ขอแค่ไม่ก๊อปไปลงที่อื่นโดยไม่รับอนุญาต ฝากสนับสนุนหลัวอีโจวกันไปนานๆน้าาาา
โฆษณา