Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Lesson
•
ติดตาม
2 มิ.ย. 2023 เวลา 08:34 • ประวัติศาสตร์
อาทิตย์อัสดงราชวงศ์หมิง สู่รุ่งอรุณแห่งยุคแมนจู ตอน 1/3
จุดเริ่มต้นของราชวงศ์หมิง เริ่มต้นหลังจากกองกำลังต่อต้านมองโกล สามารถโค่นอำนาจราชวงศ์หยวนได้สำเร็จ
ผู้นำของกลุ่มต่อต้าน คือ จูหยวนจาง ต่อมาสถาปนาราชวงศ์หมิง ขึ้นเป็นปฐมจักรพรรดินามว่า หมิงไท่จู่ ซึ่งถือว่าเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 2 ในประวัติศาสตร์จีนที่มาจากสามัญชน องค์แรกคือ พระเจ้าฮั่นเกาจู่ ปฐมจักรพรรดิราชวงศ์ฮั่น
ราชวงศ์หมิง มีจักรพรรดิ 16 องค์
องค์ที่โดดเด่นคือ องค์ที่ 3 หมิงไท่จง เป็นโอรสองค์ที่ 4 ของ หมิงไท่จู่
เป็นผู้สร้างพระราชวังต้องห้าม และเป็นผู้สนับสนุนในการเดินทางสำรวจมหาสมุทรอินเดียของแม่ทัพเจิ่งเหอ ที่เดินทางไปเจอทวีปแอฟริกาตะวันออก และยังมาสำรวจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังสิ้นสุดสมัยพระองค์ จีนก็ยุติการสำรวจโลก..
ถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์โลก ยุคหมิงไท่จง คือยุคก่อนการเดินทางสำรวจโลกของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส, อเมริโก เวสปุชชี และ วาสโก ดากามา เล็กน้อย
เป็นยุคที่ยุโรปเข้าสู่ยุคตื่นรู้ทางปัญญา เป็นยุคก้าวกระโดดของโลกตะวันตก
อีกองค์ที่โดดเด่น คือ พระเจ้าหมิงเสินจง ครองราชย์ยาวนานถึง 57 ปี
ในรัชสมัยนี้ มีหนูเอ่อร์ฮาชื่อ นักรบหนุ่มจากชนเผ่าหนี่ว์เจิน เข้ามารับราชการเป็นขุมพลราชวงศ์หมิง ทำหน้าที่รักษาความสงบนอกด่าน
นักรบหนุ่มคนนี้เป็นลูกของถาเข่อซื่อ เติบโตในจวนของแม่ทัพหลี่เฉิงเหลียง ศึกษาพิชัยสงคราม วรรณกรรมต่างๆ ตามแบบฉบับชาวฮั่น
เป็นคนมีความสามารถ จนบรรดาศักดิ์นายพลมังกรพยัคฆ์ “หลงหู่เจี้ยงจวิ้น”
แต่ระหว่างที่ปู่ และพ่อรับใช้ราชสำนักหมิง พ่อของเขาถูก นิกันไว่หลาน หัวหน้าเผ่าฝ่ายตรงข้ามสังหาร
ด้วยความที่ นิกันไว่หลาน สนิทชิดเชื้อกับราชวงศ์หมิงจึงได้รับการปกป้อง แต่หนูเอ่อร์ฮาชื่อกดดันจนราชสำนักหมิงต้องส่งศัตรูที่ฆ่าพ่อให้หนูเอ่อร์ฮาชื่อ
ตอนนั้นเขาเริ่มคิดว่า ทำไมต้องไปรับใช้คนต่างเผ่า จึงริ่มเลยทะเยอทะยาน คิดแผนที่จะรวมชาวหนี่ว์เจินที่แตกเป็นสามกลุ่ม ให้รวมเป็นหนึ่งเดียว
ต่อมา คือ จักรพรรดิเทียนฉี เป็นแผ่นดินรองสุดท้ายของต้าหมิง กินเวลาประมาณ 7 ปี
ยุคนี้มีขันทีเว่ยจงเซียน ที่เรียกว่าเลวที่สุดในประวัติศาสตร์จีนก็ว่าได้
ขันทีเว่ยจงเซียนมีฉายาว่า พระเก้าพันปี เพราะ เป็นรองแค่พระหมื่นปี ก็คือจักรพรรดิเทียนฉี
รัชสมัยนี้ กลุ่มแมนจู เริ่มสั่งสมกำลัง และเป็นภัยคุกคามของต้าหมิง
โดยมีแกนนำคนสำคัญ คือ หนูเอ่อร์ฮาชื่อ ซึ่งต่อมาสถาปนาตัวเองเป็นข่านของราชวงศ์ใหม่ที่แยกตัวออกจากราชวงศ์หมิง เรียกว่า “โฮ่วจิน” เพื่อหวนรำลึกถึงศตวรรษที่ 13 ตอนที่ชาวหนี่ว์เจิน สถาปนาราชวงศ์จิน
หนูเอ่อร์ฮาชื่อ พยายามแก้ไขปัญหาความแตกแยกระหว่างแมนจูสามเผ่าพันธ์ุ ด้วยการปรับระบบกองทัพ และใช้ระบบกองธง แต่ละกองธงจะมีการคละกันระหว่างชาวหนี่ว์เจินทั้งสามเผ่าพันธ์ุ เพื่อสลายความแตกแยกที่มี
กองธงที่ว่าจะมีสีเหลือง ขาว แดง น้ำเงิน
ต่อมามีการขยายเป็น 8 กองทัพ ด้วยการส่ขอบเพิ่มจากธงสีพื้น
รวมเป็นกองบัญชาการ 8 กองธง
กลับมาที่ฝั่งต้าหมิง หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเทียนฉี
พระอนุชา คือ พระเจ้าฉงเจิน ขึ้นครองราชย์
แม้พระองค์จะพยายามแก้ปัญหาในราชสำนักด้วยการขับไล่ขันทีเว่ยจงเสียนออกไป ดูเหมือนกับจะเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้ราชสำนักหมิงจากร้ายกลายเป็นดี
แต่การที่พระเจ้าฉงเจิน โฟกัสแต่การเมืองภายในประเทศ ไม่ได้ดูการเติบโตของบรรดาชาติพันธุ์รอบชายแดนของราชวงศ์หมิง จึงนำไปสู่ความพินาศ
อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง ‘อาทิตย์อัสดงที่ราชวงศ์หมิง สู่รุ่งอรุณแห่งยุคแมนจู’
เพราะในกรอบเวลาเดียวกัน หนูเอ่อร์ฮาชื่อก็มีการเคลื่อนพลโจมตีเมืองใหญ่ ๆ 4 เมืองในเมือง 8 เมืองชายแดนสำคัญ ก่อนจะเดินทัพไปยังสมรภูมิหลักที่ชื่อ “ซาเอ๋อร์หู่” ในปี 1626
ที่สมรภูมินี้ หนูเอ่อร์ฮาชื่อ ได้พบแม่ทัพแห่งเหลียวตง ชื่อว่า หยวนฉงฮว่าน
ถึงจะมีคนน้อยกว่ากองทัพหนูเอ่อร์ฮาชื่อ ถึง 10 เท่า แต่เขาเอาเทคโนโลยีปืนใหญ่ จากโปรตุเกส ที่เหนือกว่าของฝ่ายตรงข้าม ทำให้กำชัย หนูเอ่อร์ฮาชื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสในสมรภูมินี้และสิ้นพระชนม์ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น โดยที่ไม่ได้วางตัวรัชทายาทไว้
การสิ้นพระชมม์ของ หนูเอ่อร์ฮาชื่อ ทำให้บรรดาราชนิกูลแข่งขันกัน
แต่ด้วยรูปแบบที่ หนูเอ่อร์ฮาชื่อวางไว้ คือ มีสภาขุนนาง “อี้เจิงต้าเฉินเฮว่ยอี้”
ทำให้การเปลี่ยนแปลงแผ่นดินทำได้ค่อนข้างราบรื่น
โดยโอรสองค์ที่ 4 ของพระองค์ หวงไท่จี้ ได้สืบทอดบัลลังก์
9 ปีต่อมา พระองค์เปลี่ยนการเรียกชาติพันธุ์ของตัวเองจากหนี่ว์เจิน เป็นแมนจู
และ 1 ปีต่อมา เปลี่ยนชื่อราชวงศ์โฮว่จิน เป็นราชวงศ์ชิง
ปี 1643 สถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดินามว่า ชิงไท่จง
ตอนนั้นกองกำลังของต้าชิง คุมพื้นที่ของหมิงได้เกือบหมด และเตรียมเคลื่อนทัพรุกกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจของต้าหมิง
ในเวลานั้น กองกำลังแมนจู ไม่ใช่ภัยคุกคามเดียวของต้าหมิง
แต่ยังมีปัญหาภายในอย่างการบริหารแผ่นดินที่เต็มไปด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวง การกดขี่ราษฎร โรคระบาด ความไม่พอใจของราษฎร การก่อตัวของกบฏชาวนา
หมิงจากเดิมที่เห็นแสงสว่างอนาคตร่ำไร กำลังจะปฏิรูปแผ่นดิน แต่หมิงไม่สามารถชดเขยความฟอนเฟะที่มี
ขณะที่ฝั่งแมนจู มีการวางแผนเพื่อล้างแค้น และรุกคืบขยายอำนาจไปสู่จงหยวน
ฝั่งแมนจูรู้ดีว่า การจะโค่นหมิน ต้องจัดการโค่นหยวนฉงฮ่วน เลยออกอุบาย จนทำให้หยวนฉงฮ่วนหลงกลคิดว่าแมนจูน่าจะระดมพล มาล้างแค้นที่เมืองที่หนิงหยวน ที่หนูเอ่อร์ฮาชื่อเคยแพ้ เลยวางกำลังพลไว้ที่นี่
แต่กลายเป็นว่าจักรพรรดิชิงไท่จง เลือกใช้ช่องทางแคบๆ ทางทิศตะวันออกของด่านซานไห่กวนลำเลียงกำลังพลให้เข้าไปใกล้กรุงปักกิ่งให้มากที่สุดก่อน
พอรู้ตัวว่าหลงกล หยวนฉงฮ่วน ก็รีบเดินทัพกลับไปปกป้องกรุงปักกิ่ง
เขาเดินทางไปได้เร็วกว่าฝั่งแมนจู พวกแมนจูเลยกลับไปมือเปล่า
งานนี้ดูผิวเผินเหมือนฝั่งแมนจูจะเสียที แต่จริงๆ ไม่ใช่
เพราะเป้าหมายของฝั่งแมนจู แค่ต้องการให้ราชสำนักของต้าหมิงไม่ไว้วางใจหยวนฉงฮ่วนที่คาดการณ์ผิด และเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจงใจทำให้การป้องกันปักกิ่งหละหลวม และพยายามกลับมาไม่ทันป้องกันกำลังแมนจู
ในเวลานั้น จักรพรรดิฉงเจินที่ครองราชย์ได้ 2 ปี คล้อยตามความคิดขุนนาง ที่มองว่า หยวนฉงฮ่วนไ่ม่ภักดี จนทำให้เกิดเหตุการณ์พลิกผัน
ความไม่ไว้วางใจดังกล่าวจะนำไปสู่จุดพลิกผันอะไร?
ชะตากรรมหยวนฉงฮ่วนจะลงเอยอย่างไร?
แมนจูที่เดินหน้าขยายอิทธิพลจะเป็นอย่างไร?
ติดตามได้ตอนต่อไป
ที่มา : 8 Minute History EP.203
ประวัติศาสตร์
จีน
ความรู้รอบตัว
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย