2 มิ.ย. 2023 เวลา 09:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Kristjan Kullamägi จาก9000เป็น80ล้านใน8ปี

Kristjan Kullamägi เป็นเทรดเดอร์ชาวสวีเดนที่เทรดในตลาดหุ้นUSA
ความน่าสนใจของ Kullamägi คือ เขาสามารถปั้นportจาก 9,000 USD ในปี 2013 เป็น 82 M. USD ในปี 2021
เขามีCAGR ปี2013-2019 อยู่ที่ 268%
Kullamägi เริ่มต้นการเทรดในช่วงปี2011 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเรียน Biomedical Laboratory Science ในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเขาอายุ 23 ปี เริ่มต้นด้วยเงิน 5,000 USD และเป็นการเล่นแบบday trade
เขาเสียเงินไปเกือบทั้งหมดและต้องเริ่มต้นใหม่ 2-3ครั้งในช่วง 2ปีแรก แต่เขาไม่ยอมแพ้ หลังจากศึกษาการเทรดอย่างหนัก Kullamägi ได้กำไรครั้งแรกในปี2013
ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เข้าเปลี่ยนจากการday tradeเป็น swing trade เพราะการday tradeเป็นเรื่องที่เหนื่อยมากและเขาก็มองเห็นศักภาพการเติบโตที่ดีกว่าในการเป็นswing trader
Setupที่ Kullamägi ใช้หลักๆมี 3 setup คือ
- Breakout
- The Episodic Pivot(EP)
- The Parabolic short (or long)
… Breakout…
หุ้นที่จะเข้าเกณฑ์ Breakout ของ Kullamägi คือหุ้นที่มี ADR (average daily range) 20วันมากกว่า 5% (ADRคือค่าเฉลี่ยของการเคลื่อนไหวของราคาในรอบ X วัน แปลว่าหุ้นที่ Kullamägi เลือกโดยมากจะเป็นหุ้นที่พุ่งขึ้นมาแรงๆ แบบ High tight flag *winner stock)
หุ้นที่เข้าเกณฑ์โดยมากจะเป็นหุ้นที่ขึ้นมา 30 - 100%
หลังจากนั้นก็จะรอหุ้นพักตัว2สัปดาห์ - 2เดือน โดยเลี้ยงตัวอยู่บนเส้นMA10 20 หรือ 50 และทำการเข้าซื้อเมื่อเกิดการ Breakout โดยว่าง stoploss ไว้ที่ราคาต่ำสุดของแท่งbreakout และ stoplossไม่ควรเกิน 5%
…The Episodic Pivot(EP…
EPคือการเปิดgapขึ้นพร้อมกับข่าวที่กระทบต่อราคาหุ้น ข่าวที่ Kullamägi ให้ความสำคัญสุดคือข่าวผลประกอบการของบริษัท
การเติบโตของกำไรที่ก้าวกระโดดของบริษัทที่มาพร้อมกับการการโดดของราคาและvolume โดยgapที่เกิดขึ้นควรมากกว่า10% จะทำให้หุ้นมีโอกาสที่จะวิ่งไปได้ไกลมากๆ
จุดเข้าซื้อของEPคือ High ของแท่งเปิด 1นาที 5นาที หรือ 1 ชั่วโมงแรก และตั้ง stoploss ที่ราคาต่ำสุดของแท่งgap
…The Parabolic short (or long)…
Kullamägi มองว่าราคาหุ้นเหมือนกับหนังยาง ถ้าถูกยืดไปแรงก็มีสิทธิ์ที่จะดีดกลับแรง setupนี้เป็นsetupที่ค่อนข้างเสี่ยงถ้าหากทำผิดหรือไม่ยอมstoplossตามแผน
Setupนี้ส่วนมากจะเป็นการshort นานๆทีถึงจะมีsetup longเกิดขึ้น
หุ้นที่จะเกิด Parabolic short จะต้องขึ้น 50-100%ในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ในกรณีที่เป็นbig cap
หรือขึ้น300 -1000% ในกรณีที่เป็นsmall cap
ในช่วงที่ต้องจับตาคือช่วงที่หุ้นขึ้นเยอะๆเป็นแท่งยาวๆติดต่อกัน 3 - 5 วัน+ จนราคาหุ้นวิ่งหนีMA10ไปไกล
รอจนเกิดแท่งกลับตัวแดงแรงในtimeframe 5 นาทีแล้วเปิดshort โดยว่างstoplossไว้ที่ highของวัน โดยเป้าราคาอยู่ที่MA10หรือ20
ในแต่ละการเทรด Kullamägi จะใช้ risk อยู่ที่0.25-1% แต่ตอนที่พอร์ตยังต่ำกว่า1Mเขาใช้riskประมาณ 0.5-1.5%
ความเสียหายหนักที่สุดในช่วงหลังของเขาคือ drawdown 50% ในปี 2014 แต่ในช่วงหลัง Kullamägi มี drawdown ในแต่ละปีอยู่ที่ระดับ 15-20%
Kullamägi เลือกที่จะใช้swing trade แทนการ day trade เพราะนอกจากการday tradeจะเหนื่อยมากแล้วยังต้องการwin rate ระดับ 50% แต่RRRอยู่ในระดับต่ำแค่ 2-3 เท่าของrisk มัยากมากที่จะดันRRRไประดับ10เท่าของrisk
ในขณะที่swing trade นั้น Kullamägi ตั้งเป้าว่าทุกเทรดควรมีRRR 5-10 เท่าของrisk โดยที่มีwin rateอยู่ที่ระดับ30% (ปี2019 win rate 25%)
หลังจากการซื้อแล้ว 3-5วัน Kullamägi จะขายหุ้น 1/2 หรือ 1/3 แล้วขายส่วนที่เหลือในจุดbreakevenหรือเมื่อปิดหลุดMA10
วิธีการนี้เป็นการที่ทำให้เค้าสามารถได้homerun ซึ่งในbull market หุ้นจำนวนมากสามารถวิ่งได้ในระดับ 10-20 เท่าของ risk ถ้าเราเลือกหุ้นที่มีsetupที่ดี
โฆษณา