2 มิ.ย. 2023 เวลา 13:00 • การ์ตูน

แนะนำมังงะ – Akane Banashi (อาคาเนะ พลิกตำนานวงการราคุโกะ)

ถือว่าเป็นบรรยากาศใหม่สำหรับผมที่จะโยกจากการแนะนำหรือพูดถึงอนิเมะมาแนะนำและพูดถึงมังงะ แน่นอนว่าด้วยความเป็นโอตาคุอย่างผม สามอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Manga, Anime, และ Game (หรือ MAG) และแน่นอนว่าอีกไม่นานก็คงมีการเขียนเกี่ยวกับเกมส์ แต่ครั้งนี้ ขอพูดถึงมังงะเรื่องที่ผมจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยในตอนนี้ นั่นคือ Akane Banashi หรือ อาคาเนะ พลิกตำนานวงการราคุโกะ
ไม่นานมานี้ ระหว่างนั่งรถกลับบ้านจากงาน ผมท่องอินเตอรเน็ตอยู่ตามปกติ และพบว่ามีโฆษณามังงะหนึ่งที่ชื่อและภาพที่คุ้นตา นั่นคือ มังงะอาคาเนะ บานาชิ ที่แปลและตีพิมพ์เป็นภาษาไทย ผมคิดได้โดยทันทีว่า นี่คือโอกาสที่ดีที่จะเขียนแนะนำมังงะที่มีเนื้อเรื่องแปลกใหม่และการดำเนินเนื้อหาชั้นยอดอย่างเรื่องนี้ และเป็นการสนับสนุนอีกทางหนึ่งในฐานะแฟนคลับที่อยากให้การผลิตมังงะเรื่องนี้ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้ค้นพบด้วยตัวเอง และยินดีอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคนแรก ๆ ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัวหลังจากเลื่อนมาเป็นปี ๆ เพราะเหตุการณ์โควิด คืนสุดท้ายที่โอซาก้า ระหว่างเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเพื่อขนมยามค่ำคืน ผมเหลือบไปเห็นชั้นขายนิตยาสาร และเกิดความคิดดี ๆ ขึ้นมา
Weekly Jump
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ทำไมผมไม่ซื้อ Shounen Jump ประจำสัปดาห์ที่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นที่ระลึกละ และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ จัดการซื้อมาเรียบร้อย แต่อ่านไม่ออกสักคำ ภาพหน้าปกของฉบับนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่รู้จัก แต่ลายเส้นสะดุดตาและทำให้ผมสนใจอย่างมาก อ่านชื่อเรื่องแล้วพบว่ามันคือ Akane Banashi
เมื่อเห็นหน้าปกและตัวละครอาคาเนะแล้ว ผมก็ชื่นชมลายเส้นและการออกแบบตัวละครที่งดงาม ผมนั่นคือส่วนสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจลองไปหาอ่านดู ก่อนที่จะเข้าถึงเนื้อหาของเรื่อง ผมพบว่าการทำลายเส้นสวย ๆ ออกมาเป็นการโฆษณาให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ เข้าถึงมากขึ้นอย่างหนึ่งเลย อารมณ์คล้าย ๆ กับตอนที่ผมลองเล่น Nier: Automata เพราะชอบ 2B
2b แห่งยอด JRPG Neir: Automata
รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นการหลอกล่อให้เข้าเสพเนื้อหาด้วยสิ่งสวย ๆ งาม ๆ แต่เมื่อเข้าถึงสิ่งที่เรื่องราวต้องการจะนำเสนอแล้ว ก็ยินดีโดนหลอกครับ เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน รู้สึกยินดีที่ตนมีความนิยมชมชอบลายเส้นแบบนี้
ปรากฏว่าไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่ในตอนนั้น แต่คนที่พูดถึงก็มีการเสียงชื่นชมและแนะนำเรื่องนี้อย่างล้นหลาม ผมไปหาอ่านทันที และกลายเป็นว่า ติดอย่างจริงจัง แม้ว่าเดินทางกลับมาที่ไทยแล้ว ก็ตามอ่านต่อ และใช้เวลานั่งอ่านทั้งวัน จบทีละบทก็ยืนขึ้น ยืดตัวและพูดกับตัวเองว่า “ช่างเป็นมังงะที่ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้” และอยากให้มีคนเข้าถึงเรื่องนี้มากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนมังงะดี ๆ แบบนี้
อาคาเนะ บานาชิ เป็นเรื่องที่แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ที่ผมเคยอ่าน เพราะองค์ประกอบสำคัญของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากองค์ความรู้ที่ผมมีอยู่ แต่เมื่อวิเคราะห์เล็กน้อยแล้วว่าทำไมเรื่องนี้อยู่ในนิตยาสาร Weekly Jump ผมก็คิดได้ว่า จริง ๆ เรื่องนี้มันคือโชวเน็นดี ๆ นี่เอง และไม่ต่างจากมังงะโชวเน็นเรื่องอื่น ๆ แต่เปลี่ยนจากการต่อสู้ด้วยพลัง หรือการแข่งขันกีฬาแห่งมิตรภาพ เป็นการแสดงวาทศิลป์แห่งราคุโกะ
ราคุโกะคืออะไร ราคุโกะคือศิลปะทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้านการเล่าเรื่องโดยมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น การอยู่บนเวทีเพียงคนเดียว นั่งในท่าเซย์ซะบนผืนผ้า โดยไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากพัดกระดาษ เรื่องเล่า และฝีมือการแสดงเรื่องราวเหล่านั้นผ่านวาจา นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดและองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถติดตามและเรียนรู้ได้จากมังงะเรื่องนี้
ภาพจาก: https://journal.rikumo.com/journal/japanese-comedy-the-art-of-rakugo
หนึ่งในเรื่องที่ผมเพิ่งจะรู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของราคุโกะ คือมุกชื่อญี่ปุ่นยาว ๆ ที่ปรากฏอยู่ในเรื่องแขนกลคนแปรธาตุ ฉากที่คิง และ สการ์ถามชื่อกัน และเนื้อเพลงของอนิเมะเรื่อง Joshiraku ที่ร้องว่า จูเกะมุ จูเกมุ โกโคะ โนะ สุริคิเระ ไคจาริ ซุเกียว โนะ ซุเกียวมัตสึ อึนไรมัตสึ ฟุไรมัตสึ คูเนะรุโทโคโระ นิ สุมุโทโคโระ ยาบุราโควจิ โนะ บุราโควจิ ไปโปะไปโปะ ไปโปะ โนะ ชูวรินกัง ชูวรินกัง โนะ กูรินได กูรินได โนะ ปอนโปโคปี โนะ โปนโปโคนา โนะ โชวคิวเมย์ โนะ โชวสุเคะ
Jugemu Jugemu
ผมที่เคยสนใจด้านวาทศิลป์อย่างมากในช่วงมัธยมปลาย จนเป็นต้นเหตุให้เกิดความสนใจด้านการเมืองขึ้นมาและเรียนต่อทางด้านกฎหมาย ทำให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด การแสดงราคุโกะโดยทั่วไปแล้วเป็นการเล่าเรื่องเดิม ๆ ที่รู้จักกันอยู่แล้วเพื่ออารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่นอารมณ์ขัน
ผมติดตามและชื่นชมการแสดง Stand-up Comedy อย่างมาก และคิดว่ามันเป็นศิลปะและความสามารถที่วิเศษ ในการเล่าเรื่องราวธรรมดา ๆ แต่กลับสามารถเดิมสีสันต์ในผู้ชมฟังและเกิดเสียงหัวเราะได้ การชม Stand-up Comedy เลยกลายเป็นสิ่งที่ผมติดตามเป็นพิเศษ เช่น Dave Chappelle, Kevin Hart, Rickie Gervais, Fluffy, Trevor Noah, Akaash Singh, หรือ Robin Williams
Robin Williams: Live at the Met Special ปี 1986 ภาพจาก: https://www.antiquestradegazette.com/news/2018/art-and-memorabilia-collection-of-us-comedian-and-actor-robin-williams-to-be-auctioned-at-sotheby-s/
การแสดงราคุโกะมีการใช้เทคนิคหลายอย่างที่ทำให้เรื่องราวที่ถูกเล่ามาแล้วไม่รู้กี่ครั้งจากหลายปากของคนมากมายมีความสดใหม่และให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน มังงะเรื่องนี้ แม้ว่าจะไม่มีเสียงพากษ์อย่างที่เป็นข้อได้เปรียบของอนิเมะ แต่กลับสามารถดังอารมณ์ออกมาได้เหมือนกำลังนั่งฟังคนเล่าเรื่องอยู่จริง ๆ นับเป็นความพิเศษที่ยิ่งใหญ่ของมังงะเรื่องนี้เลย
แน่นอนว่า หากเมื่อมังงะเรื่องนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น และดูทรงแล้วมีทีท่าที่จะมีคนสนใจและเข้าถึงมากขึ้น เรื่องนี้ไม่พ้นน่าจะได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมะอย่างแน่นอน และไม่ใช่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ใช้ราคุโกะเป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่เรายังมีเรื่อง Shouwa Genroku Rakugo Shinjuu แล้วด้วย ดังนั้น คงไม่แปลกที่เรื่องราวเกี่ยวกับราคุโกะ อย่างเรื่องอาคาเนะ บานาชิ จะได้รับการปฏิบัติและดัดแปลงเป็นอนิเมะบ้าง และหากทำออกมาได้อย่างดี การแสดงราคุโกะในอาคาเนะ บานาชิคงจะน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
Shouwa Genroku Rakugo Shinjuu
เรื่องราวดำเนินผ่านตัวละครเอก ชื่ออาคาเนะ ซึ่งก็คือนางเอกของเรื่องนั่นเอง เรื่องเริ่มต้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพ่อของเธอ ที่มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นปรมาจารย์ด้านราคุโกะ แต่ในขณะที่กำลังสอบผ่านการแสดงราคุโกะ และทำได้ดีเยี่ยมด้วย เขากลับถูกไล่ออกจากโรงเรียนราคุโกะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งยุค พร้อมกับนักแสดงคนอื่น ๆ ในรายการเดียวกัน เหตุการณ์นั้นทำให้พ่อของอาคาเนะออกจากวงการราคุโกะ และสร้างบาดแผลให้แก่อาคาเนะที่ติดตามและชื่นชมฝีมือของพ่ออย่างมาก
อาคาเนะตั้งเป้าหมายให้ตนได้เป็นราคุกะ และมีความฝันอย่างเดียวกันกับพ่อของเธอ นอกจากนั้น ยังตั้งใจที่จะได้รับรู้คำตอบว่าทำไมครูใหญ่ของโรงเรียนราคุโกะไล่พ่อของเธอออก เธอจึงเข้ารับการอบรมกับอาจารย์ของพ่อ เพื่อที่จะไปเผชิญหน้ากับคน ๆ นั้น ผู้ซึ่งเป็นผู้รันวงการราคุโกะแห่งยุคสมัย และเพื่อให้ได้รับคำตอบนั้น
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า อาคาเนะได้รับคำตอบนั้นหลังจากนั้นไม่นานนัก แต่คำตอบนั้นคืออะไร ขอให้ไปรับชมกันเอง แม้ว่าจะได้รับคำตอบนั้นแล้ว การเดินทางของอาคาเนะกลับยังไม่สิ้นสุดลง แต่กลับกลายเป็นแรงกระตุ้นของอาคาเนะ และสร้างเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ความพิเศษของเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นโชวเน็นที่มีเนื้อหาสดใหม่ วิธีการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ตัวละครที่อยากจะเอาใจช่วย และความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ยังมีองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมอย่างที่โชวเน็นเรื่องอื่น ๆ ไม่ค่อยจะมีอีกด้วย ในฐานะที่ผมสนใจทางด้านการศึกษา องค์ประกอบนี้กลายเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย และผมเห็นว่าเป็นหัวใจของเรื่องอาคาเนะ บานาชิ นั่นคือ การเรียนรู้
สิ่งที่อาจารย์ของอาคาเนะกล่าวแก่อาคาเนะคือ อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ เพราะมีอะไรอีกมากมายที่เธอจะต้องศึกษาต่อไป คำพูดนี้เป็นคำพูดอย่างเดียวกันกับที่อาจารย์ของผมเองเคยพูดกับผม และนั่นคือเรื่องราวของมังงะเรื่องนี้ นั่นคือ เรื่องราวแห่งการศึกษาและการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบ การศึกษาหาความรู้จากที่หนึ่ง ประกอบกับความรู้ที่มีอยู่ก่อนหน้า ผสมกับมุมมองของตนเอง เพื่อสร้างองค์ความรู้และความสามารถใหม่ ๆ เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปเพื่อศึกษาและต่อยอดเป็นสิ่งใหม่ ๆ ต่อไป
ผมดีใจที่เมื่อเดินตามร้านมังงะแล้วเห็นปกอาคาเนะ พลิกตำนานวงการราคุโกะอยู่ตามชั้น ตอนนี้ในประเทศไทยสามารถหยิบจับและอ่านมังงะเรื่องนี้ได้แล้ว โดยสำนักพิมพ์ Siam Inter ไปตำกันครับ มันดี มาร่วมกับส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่พูดอย่างโอ้อวดได้ เมื่อมีการประกาศทำอาคาเนะ บานาชิเป็นอนิเมะ ว่า ฮ่า ๆ เรื่องนี้ดี เคยอ่านมังงะมาก่อนแล้ว!
ยังไงก็ตาม ขอฝากเรื่อง Akane Banashi หรือ อาคาเนะ พลิกตำนานวงการราคุโกะ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจกันด้วยครับ สุดท้ายแล้วจะชอบหรือไม่ หรือจะเป็นแนวที่สนใจหรือไม่ แต่หากไม่ลองอ่านดูก็คงไม่รู้ใช่ไหมละครับ
โฆษณา