Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
2 มิ.ย. 2023 เวลา 14:06 • กีฬา
ยูมะ ซูซุกิ : กองหน้าญี่ปุ่นสายดุ แต่ทีมชาติกลับไม่ต้อนรับ | Main Stand
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในชาติระดับท็อปของวงการฟุตบอลเอเชีย แต่การขาดแคลนกองหน้าตัวจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ยังคงเป็นจุดอ่อนและปัญหาเรื้อรังสำหรับทีมชาติของพวกเขามาโดยตลอด
เช่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่เหล่าแฟนบอลทีมชาติญี่ปุ่นต่างต้องก็ส่ายหัวกับการที่ทีมมีแต่กองหน้าที่ไม่สามารถคาดหวังได้เต็มร้อยสำหรับการจบสกอร์อันนำมาซึ่งประตู จนหลายคนเคยเอ่ยปากว่า ถ้าญี่ปุ่นมีกองหน้าตัวจบสกอร์ที่ดีกว่านี้ พวกเขาคงผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกได้ไปนานแล้ว และตอนนี้ญี่ปุ่นก็กำลังตามหากองหน้าคนนั้นอยู่
อย่างไรก็ตาม บางทีญี่ปุ่นอาจจะไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตามหายอดกองหน้าคนนั้นก็ได้ เพราะในเมื่อพวกเขาเองก็มีกองหน้าอยู่คนหนึ่งที่ทั้งเฉียบคมในการจบสกอร์ และยังพร้อมที่จะเป็นผู้นำในเกมรุกได้อย่าง "ยูมะ ซูซุกิ"
แต่น่าเสียดายที่กองหน้าวัย 27 ปีรายนี้กลับไม่เคยได้รับโอกาสลงสนามในนามทีมชาติเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะอะไร ? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ติดตามเรื่องราวของเขาไปกับ Main Stand
ครบเครื่องเรื่องกองหน้า
เมื่อพูดถึงกองหน้าตัวเป้าชาวญี่ปุ่นที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุด ๆ ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าหลายคนคงจะนึกถึงชื่อของ "เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ" กับผลงาน 23 ประตู จากการลงเล่นให้กับ กลาสโกว์ เซลติก ไป 31 เกมในลีกสูงสุดสกอตแลนด์ พร้อมขึ้นแท่นแข้งญี่ปุ่นคนแรกที่ยิงแตะหลัก 20 ประตูในลีกสูงสุดของทวีปยุโรป
ซึ่งแฟนบอลญี่ปุ่นต่างก็เรียกร้องให้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่นคนปัจจุบัน เลือกใช้งานแข้งวัย 28 ปีรายนี้เป็นหน้าเป้าตัวหลักของทีมเสียที นับตั้งแต่ที่ไร้ชื่อของฟุรุฮาชิในทีมชาติญี่ปุ่นมาตั้งแต่ช่วงฟุตบอลโลก 2022
แต่ทว่ามันไม่ได้มีแค่ฟุรุฮาชิเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เหล่าสาวก "ซามูไรบลูส์" อยากให้ลงเล่นเป็นกองหน้าตัวความหวังในการทำประตูให้กับทีมชาติญี่ปุ่น
เพราะแท้จริงแล้วยังมีกองหน้าอีกหนึ่งคนที่ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้มีกระแสถูกพูดถึงมากเท่า เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ แต่แฟน ๆ ก็อยากเห็นเขาลงสนามในสีเสื้อทีมชาติมานานหลายปีแล้ว จากผลงานต่าง ๆ ที่ได้สร้างไว้ จนสื่อกีฬาหลายสำนักในแดนปลาดิบเคยออกมาตั้งคำถามว่า ทำไมกองหน้ารายนี้ถึงไม่เคยมีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่น เขาคนนี้มีชื่อว่า "ยูมะ ซูซุกิ"
ยูมะ ซูซุกิ เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งเมื่อปี 2003 ด้วยวัย 7 ขวบ กับการขัดเกลาฝีเท้าอยู่ในทีมเยาวชนของ คาชิม่า อันท์เลอร์ส
โดยตอนนั้นระบบอคาเดมีของสโมสรแห่งนี้มีโครงสร้างและปัจจัยต่าง ๆ สำหรับการพัฒนานักเตะเยาวชนที่เพียบพร้อม ทัดเทียมกับหลายสโมสรฟุตบอลในทวีปยุโรป จากการเข้ามาวางรากฐานที่ดีของตำนานแข้งบราซิลอย่าง "ซิโก้" ผู้เคยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค รวมถึงที่ปรึกษาให้กับ คาชิม่า อันท์เลอร์ส ในช่วงที่ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่น เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ๆ เมื่อปี 1992
นั่นจึงไม่แปลกเลยที่ ยูมะ ซูซุกิ จะได้รับการบ่มเพาะฝีเท้าให้มีคุณภาพมาตั้งแต่ยังเล็ก พร้อมกับฉายแววว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมชาติญี่ปุ่นได้ในอนาคต
เขาใช้เวลา 12 ปีไปกับการพัฒนาฝีเท้าของตัวเองในทีมชุดเยาวชน จนกระทั่งได้รับโอกาสขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2015 ด้วยวัย 19 ปี โดยตอนนั้นทีมชุดใหญ่ของ คาชิม่า อันท์เลอร์ส อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขณะนี้
ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้กุนซือทีมชุดใหญ่ต้องผิดหวัง เพราะในปีแรกกับการได้ลงเล่นเกมฟุตบอลระดับอาชีพ เขาก็สามารถทำประตูให้กับทีมได้ตั้งแต่เกมนัดแรกที่ลงสนาม ในเกมเจลีก นัดเปิดบ้านแพ้ กัมบะ โอซาก้า 1-2 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2015 พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ลูวาน คัพ ฤดูกาล 2015 ได้สำเร็จ นับเป็นความสำเร็จแรกของ ยูมะ ซูซุกิ กับการได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่
1
"ผมเฝ้ารอโอกาสที่จะได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่มานาน จนกระทั่งโค้ช (มาซาทาดะ) อิชิอิ ให้โอกาสผมลองเล่นในเกมระดับอาชีพดู ผมต้องขอบคุณโค้ช เพราะสิ่งที่เขาได้มอบให้ผมคือจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอาชีพนักฟุตบอล" ยูมะ ซูซุกิ กล่าวกับ Gekisaka ถึงช่วงเวลาที่ได้ลงสนามในเกมอาชีพเป็นครั้งแรก
"ผมมั่นใจอยู่เสมอว่าถ้าผมได้ลงสนามผมจะสามารถทำประตูให้ทีมได้ ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สามารถทำประตูได้ในเกมระดับอาชีพที่ผมได้ลงเล่นเป็นเกมแรก"
"การทำประตูในเกมนัดนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าจดจำมากสำหรับอาชีพการค้าแข้งของผม"
1
จากนั้นปีต่อมา กองหน้ารายนี้ก็ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าคนสำคัญของทีม พร้อมระเบิดฟอร์ม ซัดไป 14 ประตู จาก 48 เกมทุกรายการ พาทีมประสบความสำเร็จกับการแข่งขันหลายรายการในฤดูกาลนั้น ทั้งแชมป์ เจลีก, แชมป์ เอ็มเพอเรอร์ส คัพ, รองแชมป์ ซุรุงะ แบงก์ แชมเปี้ยนชิพ
และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก หรือฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2016 โดย คาชิม่า อันท์เลอร์ส ได้สิทธิ์เข้าร่วมรายการนี้จากการที่ประเทศญี่ปุ่นถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แล้วได้เชิญแชมป์เจลีกฤดูกาลล่าสุดอย่าง คาชิม่า อันท์เลอร์ส มาลงเล่นด้วย ก่อนที่พวกเขาจะสร้างประวัติศาสตร์ ทะลุเข้าไปถึงรอบชิงได้สำเร็จ โดยตัดสินแชมป์กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด
"ถ้าผมทำประตูได้ในเกมนี้ ผมจะทำท่าดีใจ SIUUU ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้" ยูมะ ซูซุกิ กล่าวกับ Marca ก่อนเกมรอบชิงชนะเลิศ ศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2016
แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้าย ยูมะ ซูซุกิ ก็ไม่สามารถทำประตูได้ในเกมนี้ พร้อมกับพาทีมปราชัยต่อ เรอัล มาดริด ไป 2-4
เมื่อผ่านพ้นปี 2016 ย่างเข้าสู่ฤดูกาล 2017 ยูมะ ซูซุกิ ก็ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นจากฤดูกาลก่อนไว้ได้เป็นอย่างดี เขาลงเล่นไป 31 เกมในทุกรายการ ยิงไป 15 ประตู
และมาถึงจุดพีกที่สุดในฤดูกาล 2018 ที่นอกจากจะทำประตูได้ตามมาตรฐานของตัวเองแล้ว เขายังได้ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอีกขั้นด้วยผลงานการทำแอสซิสต์ให้ทีมที่มากไม่แพ้จำนวนการทำประตู โดยฤดูกาลนี้เขาลงเล่นไป 52 เกมในทุกรายการ ยิงไป 16 ประตู กับอีก 17 แอสซิสต์ พร้อมพา คาชิม่า อันท์เลอร์ส คว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จเป็นสมัยแรกของสโมสร
จากผลงานในฤดูกาลนี้ มันทำให้เราเห็นแล้วว่ากองหน้ารายนี้ไม่ได้มีดีแค่การทำประตูอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำหน้าที่เป็นจอมทัพคอยสร้างสรรค์เกมให้กับทีมได้อีกด้วย
อีกทั้งมันยังเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เขาได้มีโอกาสออกไปค้าแข้งในลีกทวีปยุโรปเป็นครั้งแรก โดยสโมสรที่ได้หยิบยื่นโอกาสค้าแข้งต่างแดนครั้งนี้ให้กับ ยูมะ ซูซุกิ ก็คือ "แซงต์ ทรุยดอง" ทีมฟุตบอลจากลีกเบลเยียม ที่มีเจ้าของทีมเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง
DMM.com
ช่วงเวลาในต่างแดน
ยูมะ ซูซุกิ ออกเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อไปค้าแข้งต่างแดนครั้งแรกกับ แซงต์ ทรุยดอง ในลีกสูงสุดของเบลเยียม ฤดูกาล 2019/20 หลังจากได้รับบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวนานกว่าครึ่งปี ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019
โดยฤดูกาลแรก เขาได้รับโอกาสในการลงเล่นเกมในลีกไป 24 เกม ยิงไป 7 ประตู ก่อนจะปรับตัวเข้ากับการเล่นฟุตบอลในลีกยุโรป แล้วค่อยมาระเบิดฟอร์มแกร่งในฤดูกาลที่สอง ด้วยผลงาน 17 ประตู จาก 34 เกม พร้อมคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสรประจำฤดูกาล 2020/21
"ไม่เลวเลยสำหรับจำนวนประตูที่ผมทำได้ในฤดูกาลนั้น (2020/21) แต่ผมคิดว่าผลงานของผมน่าจะทำให้ทีมจบฤดูกาลอยู่ในอันดับที่สูงกว่านี้หน่อย" ยูมะ ซูซุกิ กล่าวกับ Gekisaka ถึงผลงานของตัวเองและ แซงต์ ทรุยดอง ในฤดูกาล 2020/21
"นั่นคือฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นฟุตบอลอาชีพของผม มันคงจะน่าผิดหวังถ้าผมทำประตูแล้วทีมไม่สามารถเก็บชัยชนะได้"
นอกจากผลงานการทำประตูอันยอดเยี่ยมแล้ว แข้งรายนี้ยังรู้สึกอีกว่าการเดินทางมาค้าแข้งต่างแดนในครั้งนี้ได้ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นกับการลงเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้า เพราะเขาจะสามารถโฟกัสอยู่กับการไล่ล่าประตูได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องการเล่นเพื่อทีมตามแบบฉบับของการเล่นฟุตบอลสไตล์ญี่ปุ่นที่ถือว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
"ความประทับใจของผมกับการได้มาเล่นที่นี่ก็คือ ผมสามารถโฟกัสไปที่ตัวเองได้มากขึ้น สามารถจดจ่อกับการทำประตูได้มากกว่าเมื่อก่อน และไม่ได้รู้สึกว่าการเล่นเพื่อทีมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องพึงระลึกไว้ในใจเสมอเมื่อได้ลงสนาม ถ้าผมโฟกัสไปที่ทีมก่อนผลงานของผมมันคงจะไม่ดีเท่ากับที่เป็นอยู่ในตอนนี้"
1
จากผลงานของเขาในปีที่สองกับ แซงต์ ทรุยดอง มันส่งผลให้หลายทีมในยุโรปเริ่มให้ความสนใจอยากจะดึงตัวดาวเตะสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ไปร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนของปี 2021 เช่น แฮร์ธา เบอร์ลิน ในศึกบุนเดสลีกา, ชาลเก้ 04 ในบุนเดสลีกา 2 หรือ กายารี่ ในกัลโช่ เซเรีย อา
ยูมะ ซูซุกิ มีความต้องการอยากจะเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดของอิตาลี ผ่านการย้ายไปเล่นให้กับกายารี่ในเวลานั้น แต่สุดท้ายทีมดังกล่าวตัดสินใจหันหลังให้กับเขา เนื่องจากไม่พร้อมจะสู้กับราคาค่าตัวของแข้งรายนี้ที่ทาง แซงต์ ทรุยดอง ตั้งเอาไว้ ทำให้ซูซุกิไม่พอใจต้นสังกัดของตัวเองเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นไปประกาศจุดยืนว่าเขาจะต้องได้ย้ายออกจากทีมในตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้
แต่สุดท้ายความต้องการของเขาก็ไม่เป็นไปตามหวัง เมื่อไม่มีทีมไหนเลยสามารถกระชากตัวกองหน้าชาวญี่ปุ่นรายนี้ออกจาก แซงต์ ทรุยดอง ในตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้ได้ และนั่นทำให้ ยูมะ ซูซุกิ ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากจากเรื่องที่ตัวเองได้ก่อไปก่อนหน้านี้ โดยคนในสโมสรแซงต์ ทรุยดอง แฟนบอล หรือสื่อกีฬาในเบลเยียม ต่างออกมาวิจารณ์การประกาศจุดยืนดังกล่าวของเขาว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ให้เกียรติสโมสรต้นสังกัดที่ตัวเองกำลังลงเล่นให้อยู่
ทำให้เขาต้องออกมาขอโทษสโมสรต้นสังกัดและแฟนบอลจากการกระทำที่เห็นแก่ตัว พร้อมกับขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับ แซงต์ ทรุยดอง อีกครั้ง แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะสโมสรได้ตั้งแง่ลบกับเขาไปเป็นที่เรียบร้อยจากจุดยืนที่เขาได้ประกาศออกไป
1
"มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับผมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แม้สิ่งที่ผมได้ทำลงไปมันจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ผมจะต้องยืนหยัดต่อสู้อีกครั้ง ผมจะพยายามอย่างหนักอีกครั้งเพื่อทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรแห่งนี้" ยูมะ ซูซุกิ ขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับ แซงต์ ทรุยดอง อีกครั้ง ผ่านโพสต์ทางอินสตาแกรมของตัวเอง
1
เมื่อต้นสังกัดอย่าง แซงต์ ทรุยดอง ไม่ได้มองว่าเขาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมอีกต่อไป บวกกับไม่มีทีมไหนในยุโรปที่จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมแบบเป็นจริงเป็นจัง ทำให้ท้ายที่สุด ยูมะ ซูซุกิ ก็ต้องเดินทางกลับมาค้าแข้งที่ประเทศบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้งในปี 2022 กับต้นสังกัดเก่าอย่าง คาชิม่า อันท์เลอร์ส
และเขาก็ทำผลงานได้ตามมาตรฐานของตัวเองในการลงเล่นในลีกฟุตบอลญี่ปุ่น ด้วยการทำไป 11 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 39 เกมในทุกรายการให้กับ คาชิม่า อันท์เลอร์ส ฤดูกาล 2022
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลงานการทำประตูและแอสซิสต์อยู่เรื่อย ๆ แต่โอกาสในการได้ลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่นของ ยูมะ ซูซุกิ นั้นก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย จนทำให้เหล่าแฟนบอลเริ่มสงสัยกันแล้วว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
พฤติกรรมเป็นเหตุ
อันที่จริง ยูมะ ซูซุกิ เคยมีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2018 แต่โชคร้ายที่เขาเกิดได้รับบาดเจ็บทำให้ต้องถอนตัวออกจากทีมไปอย่างน่าเสียดาย และหลังจากนั้นแข้งรายนี้ก็ไม่เคยถูกทีมชาติเรียกตัวอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนี้อาจต้องย้อนกลับไปในปี 2020 ปีที่ ยูมะ ซูซุกิ กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงกับทาง แซงต์ ทรุยดอง ในฤดูกาล 2020/21 และด้วยผลงานการทำประตูที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลดังกล่าวทำให้ตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองจะต้องถูก ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่น เรียกติดทีมอย่างแน่นอน
แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อมีการประกาศรายชื่อผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ในช่วงเดือนตุลาคม 2020 ซูซุกิก็พบว่าไม่มีชื่อของเขาปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้เล่น นั่นจึงทำให้เขารู้สึกโกรธกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เลยแอบไปตัดพ้อรวมถึงแซะใครบางคนผ่านทางโพสต์ในทวิตเตอร์ของตัวเอง ก่อนที่จะลบออกไปในเวลาต่อมา
"คุณไม่ชอบคนแบบผมงั้นเหรอ ?"
"ไอ้เวรนี่มันเป็นคนยังไงของมันฟะ ?"
"ถ้างั้นก็อย่ามาให้ความหวังกับผมดิ ไม่อยากเรียกก็บอกมาเลยว่าจะไม่เรียก เสียเวลาว่ะ"
ซึ่งแฟนบอลหลาย ๆ คนต่างก็คาดเดากันว่าคนที่ ยูมะ ซูซุกิ กำลังพูดถึงผ่านข้อความดังกล่าวน่าจะเป็น ฮาจิเมะ โมริยาสุ หลังกุนซือรายนี้ไม่ได้เลือกเขาให้มาติดทีมชาติ
1
แน่นอนว่าเมื่อโพสต์ข้อความนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล มันก็ทำให้แฟนบอลญี่ปุ่นหลายคนรวมถึงนักวิเคราะห์ฟุตบอลญี่ปุ่นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำในครั้งนี้ของ ยูมะ ซูซุกิ ว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่เคารพและเชื่อมั่นในการตัดสินใจเลือกตัวผู้เล่นของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ
ก่อนที่ ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะปิดประตูโอกาสของ ยูมะ ซูซุกิ ในการติดทีมชาติญี่ปุ่น ภายใต้การคุมทีมของเขาไปในที่สุดผ่านโพสต์ ๆ เดียวในทวิตเตอร์ของแข้งรายนี้
และดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่มีความคิดที่จะไปสานความสัมพันธ์ที่ดีกับทางโมริยาสุเพื่อขอโอกาสให้ตัวเองได้ลงสนามในนามทีมชาติญี่ปุ่นอีกด้วย หลังครั้งหนึ่งเขาเคยถูกนักข่าวถามถึงโอกาสที่เขาจะได้ติดทีมชาติญี่ปุ่น โดยซูซุกิก็ได้ตอบคำถามดังกล่าวกับทางนักข่าวคนนั้นว่า
"ผมจะขอเลือกเดินไปตามเส้นทางของผมเอง ผมจะไม่แคร์กับคนที่ไม่ได้สนใจผม"
ในความเป็นจริงโอกาสที่ ยูมะ ซูซุกิ จะถูก ฮาจิเมะ โมริยาสุ เลือกมาใช้งานในตำแหน่งกองหน้าของทีมชาติญี่ปุ่นนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยากมากเสียแล้วในตอนนี้ จากความบาดหมางที่ฝ่ายซูซุกิเป็นคนก่อขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นด้วยฝีเท้าของเขาก็ทำให้เหล่าแฟนบอลส่วนหนึ่งอยากที่จะได้เห็น ยูมะ ซูซุกิ ลงไปละเลงเพลงแข้งของเขาให้ทุกคนได้เห็น ภายใต้ต้นสังกัดที่มีชื่อว่า "ทีมชาติญี่ปุ่น"
3
แตกต่างไม่เหมือนใคร
"เขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพสูง อ่านเกมดี จบสกอร์ได้ทุกรูปแบบ เป็นได้ทั้งคนทำประตูและคนสร้างสรรค์เกม แต่ (ฮาจิเมะ) โมริยาสุ กลับไม่เคยเรียกเขาติดทีมชาติเลย" มาซามุเนะ อุเมะมิยะ นักข่าวสายกีฬาชาวญี่ปุ่น เคยกล่าวถึง ยูมะ ซูซุกิ ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักข่าว Asahi
ความเห็นข้างต้นไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินจริงหากจะพูดถึงฝีเท้าของ ยูมะ ซูซุกิ
กองหน้าญี่ปุ่นวัย 27 ปีรายนี้ถือเป็นนักเตะอีกหนึ่งคนที่มีทั้งแฟนบอลที่อยากเห็นเขาลงเล่นในสีเสื้อทีมชาติและไม่อยากเห็น ด้วยเหตุผลที่เข้าใจได้ทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายที่ไม่อยากให้ ยูมะ ซูซุกิ ลงเล่นให้กับทีมชาตินั้น เหตุผลหลัก ๆ ก็จะเป็นเรื่องของพฤติกรรมของเขาทั้งในและนอกสนามที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก รวมถึงการควบคุมอารมณ์ที่ยังทำได้ไม่ค่อยดีเมื่อได้ลงสนาม จากการที่เขามักจะไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักเตะทีมคู่แข่งระหว่างเกมการแข่งขันอยู่บ่อยครั้ง
โดยสำหรับฟุตบอลญี่ปุ่นนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่อง "ความมีน้ำใจนักกีฬา" เป็นอย่างมาก จากการที่พวกเขาได้รับการปลูกฝังเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กผ่านระบบการศึกษา รวมถึงสังคมญี่ปุ่นที่เป็นสังคมแบบกลุ่ม ทำให้พวกเขามักจะชอบทำสิ่งต่าง ๆ ให้เหมือนกับคนส่วนใหญ่ เพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกว่าเป็นคนที่แตกแถวจากคนอื่น ๆ ในสังคม
ซึ่งนักเตะส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะเล่นฟุตบอลแบบใสสะอาดโดยไม่ติดดาบใส่คู่แข่ง แต่ตรงกันข้ามกับ ยูมะ ซูซุกิ ที่เขามักจะมีการเล่นตุกติกอยู่บ่อย ๆ ระหว่างเกม นั่นจึงไม่แปลกที่แฟนบอลญี่ปุ่นจะรู้สึกไม่ชอบคาแร็กเตอร์ที่เกรี้ยวกราดดุดันไม่ค่อยแคร์ใคร ของ ยูมะ ซูซุกิ สักเท่าไร
ส่วนฝ่ายที่อยากให้ ยูมะ ซูซุกิ ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติก็มองว่าแข้งรายนี้เป็นนักเตะในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างจากกองหน้าญี่ปุ่นคนอื่น ๆ อย่างชัดเจน
โดยกองหน้าตัวเป้าตามแบบฉบับของญี่ปุ่นนั้นจะเป็นกองหน้าสไตล์ "Pressing Forward" ที่เน้นความสำคัญในการใช้พละกำลังไล่วิ่งเพรสซิ่งแดนบน เพื่อฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของกองหลังคู่แข่งมากกว่าที่จะหาลู่ทางในการทำประตู
แต่สำหรับ ยูมะ ซูซุกิ นอกจากจะเล่นเป็นกองหน้าในสไตล์ Pressing Forward ตามแบบที่นักเตะญี่ปุ่นส่วนใหญ่นิยมเล่นกันแล้ว เขายังสามารถเล่นเป็นกองหน้าสไตล์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ทั้งการเป็นกองหน้าตัวพักบอล (Target Man), กองหน้าแบบโป้งปิดบัญชี (Poacher), กองหน้าตัวหลอก (False 9) หรือกองหน้าที่สามารถทำได้ทุกอย่างทั้ง ยิง จ่าย เลี้ยงบอล เก็บบอล และเล่นลูกกลางอากาศ (Complete Forward) เขาก็สามารถทำได้หมด
อีกทั้งนิสัยที่ชอบเล่นตุกติกและยั่วยุผู้เล่นคู่แข่งเองก็เป็นสิ่งที่แฟนบอลอยากจะให้นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นมีเรื่องเหล่านี้ติดตัวอยู่บ้าง ซึ่ง ยูมะ ซูซุกิ เป็นหนึ่งในคนที่สามารถเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยวัย 27 ปี ของ ยูมะ ซูซุกิ มันยังคงทำให้เขาพอเหลือเวลาอยู่บ้างที่จะพยายามหาทางให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในขุนพลของทัพ "ซามูไรบลูส์" ให้ได้ในสักวัน แต่ถ้า ฮาจิเมะ โมริยาสุ ยังคงคุมทีมชาติญี่ปุ่นอยู่ มันก็เป็นเรื่องยากที่เราจะได้เห็นกองหน้ารายนี้ลงตะบันแข้งให้กับทีมชาติของเขา
แหล่งอ้างอิง
https://web.gekisaka.jp/news/world/detail/?331732-331732-fl
https://www.marca.com/en/football/real-madrid/2016/12/17/58545c9d22601dd5028b4659.html
https://web.ultra-soccer.jp/news/view?news_no=402604
https://www.soccerdigestweb.com/news/detail/id=97328
https://www.soccerdigestweb.com/news/detail/id=115578
https://dot.asahi.com/wa/2022092200085.html?page=1
https://sportiva.shueisha.co.jp/clm/football/jleague_other/2022/09/03/post_134/index.php
https://number.bunshun.jp/articles/-/855259
12 บันทึก
15
3
12
15
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย