ตอนที่ 5 : กลับมาเป็นดั่ง “แสงสว่าง” ที่สามารถมอบให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้
ก่อนที่เราจะสามารถเข้าใจผู้อื่นให้สื่อสารตรงกันได้ อันดับแรกของการเยียวยา คือ "การเริ่มต้นจากตัวเอง" 🔎✨ ยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็น ยอมรับข้อเสีย ยอมรับด้านมืดของตน ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่โทษตนเอง ไม่คิดทำร้ายตนเอง มีสติ และตระหนักถึงผลของทุก ๆ การกระทำของตนเอง กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวอยู่เสมอ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มรู้สึกตัวว่า พฤติกรรมเริ่มควบคุมไม้ได้ ให้ตั้งสติ ถอยตัวเองออกมา 1 ก้าว แล้วมองดูว่า อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงกระตุ้นให้เราต้องเผยด้านที่เราไม่อยากเป็นนี้ขึ้นมา
สังเกตปัจจัยใดที่กำลังเป็นตัว “กระตุ้น” ปมบาดแผลของเรา ใช่สถานการณ์ ผู้คน หรือ สิ่งใดกันแน่ การที่เรา “ทราบต้นเหตุ” ของการแสดงพฤติกรรมของเรา มันจะช่วยให้เรารักษาแผลทางใจได้อย่างตรงจุด และถูกต้อง
.
ป่วยทางใจ ก็เหมือนกับป่วยทางกาย หากเรารักษาจากปลายเหตุ ก็ยากที่จะหายขาดได้ อาจกลับมาเป็นซ้ำได้เสมอ เมื่อถูกกระตุ้น แม้อาการที่ไม่น่ารักเหล่านี้จะหายไปแล้วในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาก็ตาม มันสามารถกลับมาได้เสมอ ถ้าเราไม่ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
เมื่อเราสังเกตตนเองซ้ำ ๆ จะสังเกตได้ว่า หลาย ๆ พฤติกรรมของเรา บางทีมักมีสาเหตุหลายประการ ซ้ำซ้อน จนเราอาจสับสนได้ ว่าพฤติกรรมไหน เกิดจากอะไรกันแน่ ต้องคอยหมั่นสังเกตตนเองให้ดี
เมื่อเราคิดว่า เราพบต้นเหตุ ของนิสัยที่ไม่น่ารัก นิสัยใดนิสัยหนึ่ง ให้ทำการจดบันทึกไว้ รวบรวมหลาย ๆ ข้อมูล ทุกครั้งที่คิดได้ การเขียนออกมาจะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น เมื่อเรามีความคิดที่วุ่นวาย ซับซ้อนภายในหัว แต่ละพฤติกรรมของเรา มีที่มาแตกต่างกัน ค่อย ๆ แก้ไปทีละอย่าง
.
ฉันไม่อาจแนะนำวิธีการเยียวยารักษาได้ทั้งหมด เพราะมนุษย์แต่ละคน ต่างคนต่างมีเรื่องราว และมีความทุกข์ทางใจที่แตกต่างกัน ไม่เท่ากัน หลาย ๆ สาเหตุ จะใช้เพียงความรู้ และความเข้าใจ นั้นไม่เพียงพอ มันต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และแรงผลักดันในตัวของผู้ต้องการรักษาเองด้วย
บางครั้งเราก็ต้องก้าวข้ามผ่านความกลัวด้วยตนเอง บางครั้งเราก็ต้องพยายามปล่อยวาง และให้อภัยสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวของเราเอง ความรู้สึกภายใน จะใช้เพียงความคิด หรือ สมอง มาตัดสิน ลบล้าง แทนกันไม่ได้
.
ความกลัว ความเจ็บปวด ภายในที่ฝังรากลึก จะหายไปได้ ก็ด้วย "การที่เราเริ่มที่จะกลับมารักตนเอง" 💖🌷🫀เมื่อถึงขีดสุดที่คนเราเริ่มจะรับไม่ได้กับสิ่งที่ตนเป็นอยู่ จะเกิดความรู้สึก "อยากเปลี่ยนแปลง"✨จงให้โอกาสตนเองได้แก้ตัวในการเป็นคนใหม่ อนุญาตให้ตนเองได้รับการเยียวยา อนุญาตให้เรื่องราวดี ๆ ได้เริ่มเกิดขึ้นกับชีวิตทีละเล็ก ทีละน้อย ค่อย ๆ มองหาข้อดีในสถานการณ์ที่เป็นอยู่
บอกกับตัวเองว่า ฉันคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่านี้ ฉันเป็นคนที่ดีได้มากกว่านี้ ฉันไม่อนุญาตให้ใคร หรืออะไร เข้ามาทำร้ายฉันได้อีก ฉันขออโหสิกรรมให้กับทุก ๆ คนที่เคยทำไม่ดีกับฉัน ฉันขอโทษขอขมากับสิ่งที่ฉันได้ทำผิดไป
ขอให้ทุกท่านโปรดอโหสิกรรมให้กับฉันด้วย ฉันให้อภัยทุก ๆ คนที่ทำผิดกับฉัน และฉันก็ให้อภัยกับความผิดพลาดของตนเองในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดด้วย
.
บอกว่าตัวเองซ้ำ ๆ ว่า ตอนนี้ฉันเป็นคนใหม่แล้ว ทุกอย่างต้องดีขึ้นได้แน่นอน เพราะ อดีต ฉันอนุญาตให้ตนเองได้ลองผิดลองถูก ตอนนี้ เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งไหนถูกแล้ว ฉันจะไม่ทำผิดซ้ำอีก ฉันคือคนที่สามารถพัฒนาเป็นคนที่ดีขึ้นได้เสมอ
ยิ่งฉันได้เริ่มรักตนเอง เป็นคนที่ดียิ่ง ๆ ขึ้น ในทุก ๆ วัน ฉันก็ยิ่งมองเห็นความงดงามภายในที่อยู่ภายในตัวฉันเอง ฉันภาคภูมิใจกับสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ มันดีมาก และฉันจะใช้ความรัก ความเมตตาที่ฉันมีให้กับตนเองนี้ มอบให้แก่ผู้คนรอบข้างของฉัน และผู้คนทุก ๆ คนที่ฉันพบเจอ
.
ใช้สายตาของความรัก ความจริงใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เฉกเช่นนี้ มอบให้กับผู้คน สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ธรรมชาติ ดั่งความรักที่ไร้เงื่อนไข ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเช่นไร เราย่อมรัก และมีเมตตาธรรมให้กับเขาเหล่านั้นอยู่เสมอ ให้อภัย ไม่ตัดสินพิพากษา ไม่ทำร้ายการใดต่อกันอีก
ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเข้าใจของธรรมชาติ
เมื่อเราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่จะต้องเกิดได้ มีเพียงมุมมองความคิดของเราเท่านั้น ที่จะทำให้อยู่กับมันได้ โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของความทุกข์ ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็นอดีตผ่านไปแล้ว ไม่ตื่นตระหนกกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไว้วางใจตนเอง เยียวยาตนเองด้วยใจที่คิดเช่นนี้
ย่อมคืนความเป็นอิสระแด่ความทุกข์ทั้งปวงให้กับใจของตนเองได้ :)
💞☁️🕊️☁️💞
เมื่อรักตนเองได้เช่นนี้แล้ว ไม่ยากเลยที่จะเข้าสู่กระบวนการที่ 2 นั่นก็คือ
"กระบวนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนอื่น ๆ"
(หากเรายังเยียวยาตนเองไม่ได้ ย่อมส่งผลกระทบกับคนอื่น ๆ ดั่งที่ฉันเคยได้อธิบายในตอนข้างต้น)
.
เมื่อเราตระหนักได้แล้วว่า การมีความสัมพันธ์ที่ดี มันต้องเริ่มต้นจากตัวเราเอง ตัวเราที่ได้รับการเยียวยาเรียบร้อยแล้ว ได้เรียนรู้และเข้าใจ ถึงกระบวนการสร้างปมบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นกับตน มันทำให้เราสามารถเรียนรู้ และเข้าใจในมุมมองความคิด ตลอดจนพฤติกรรมของคนอื่น ๆ ที่แสดงออกมาได้มากขึ้น
เพราะเมื่อเราได้ย้อนกลับมามองตนเอง เราได้สำรวจความคิด สำรวจความรู้สึกของเราเอง เราค้นพบแล้วว่า เมื่อใดที่เรารู้สึกขัดแย้งกับสถานการณ์ หรือใครก็ตาม ที่ทำให้เรารู้สึกแย่ มันเกิดมาจาก แผลภายในที่เราไม่เคยได้รับการเยียวยา
เช่นกันเมื่อเราไปแสดงพฤติกรรมใด ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับเรานี้ แสดงว่า เขาก็ต้องมีอะไรบางอย่างที่ไปกระตุ้นแผลของเค้าเหมือนกัน
.
สิ่งต่าง ๆ จะทำให้เรามองเห็นความจริงเลยว่า ที่แท้มนุษย์เรา กับ คนอื่น ๆ ทุกคนแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ทุกคนต่างมีเรื่องราว ต่างมีเบื้องหลังของพฤติกรรม กันทั้งนั้น
ทุกคนสามารถมีทั้งรอยยิ้ม และ น้ำตาซ่อนอยู่ภายในได้กันหมด มันไม่ใช่เรื่องที่มีเพียงเรานะ ที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ภายในใจน่ะ ชีวิตมนุษย์ถูกท้าทายจากบริบทที่เราเป็นอยู่เสมอ เรื่องราวต่าง ๆ มากมายเหล่านี้ล้วนมีคำสอนให้เราเราได้เข้าใจ
.
แม้แต่ 🌹🌹 "กุหลาบ"🌹🌹 อันแสนสวย ที่มนุษย์เราต่างให้มันเป็นตัวแทนของความรักเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่สวยงาม แต่เราจะสนใจเพียงแค่ความสวยงามของดอก เพียงอย่างเดียว อย่างนั้นหรือ
กุหลาบดอกนี้ ก็เหมือนกับชีวิตรักของคนเรา แม้เราอยากจะได้ ความรักที่ดี และสวยงามเหมือนดอกของมัน มากเพียงไหน หากเราไม่ “ทำความรู้จัก และเข้าใจในความเป็นดอกกุหลาบ” ว่า ดอกกุหลาบจะเกิดขึ้นมาได้ ย่อมต้องมีราก มีลำต้น มีใบ มีหนาม หากเราไม่หมั่นดูแล คอยให้สารอาหารที่ดี ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ลืมตัดหนามที่ก้าน ความร้ายกาจของหนามมันก็อาจกลับมาทำร้ายตัวเราเองได้
.
ดั่งอันความรักนี้ สามารถทำให้คนเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และบางครั้งมันก็สามารถทำให้คนเป็นคนที่น่ากลัวขึ้นได้เหมือนกัน
หากเราลืมขจัดหนามที่พยายามเข้ามาทำร้ายชีวิตรักของเรา อันเสี้ยนหนามนี้ก็ไม่ได้มาจากที่ไหน มันเป็นหนามที่ปักอยู่ในใจเรา ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น แม้เราเลือกที่จะตัดมันออกได้ แต่กลับไม่ทำ คมหนามของกุหลาบ ที่คอยทิ่มแทงอยู่อย่างนี้ เชื่อว่าชีวิตก็คงจะไม่มีความสุขเป็นแน่
.
ความรักที่สวยงาม
จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเราสนใจเพียงแค่ ความสวยงามของมัน
แต่ความรักที่สวยงามจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเราเอาใจใส่ และตั้งใจที่จะสร้างมันให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก 💕✨
Alienaire
จงปลุกดอกกุหลาบที่สวยงาม
ด้วยความเข้าใจในความเป็นดอกกุหลาบ หมั่นดูแล ตัดกิ่ง ตัดหนาม
เติมน้ำ เติมปุ๋ยที่ดี และเหมาะสม
เพื่อให้ได้ ผลลัพธ์ที่งดงาม🌹
Alienaire
.
ชีวิตของเรา เราสามารถเลือก และออกแบบรูปแบบความสัมพันธ์ได้นะคะ ว่าต้องการให้ดำเนินไปในทิศทางไหน หากต้องการประสบความสำเร็จในความรัก ต้องการความรักในรูปแบบที่ดี
“การแสดงออกทางความรัก” ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยล่ะค่ะ
เพราะการแสดงออกทางความรัก ถือเป็น “สื่อกลางในการสื่อสารของความรู้สึก” ที่เราได้มีให้อีกฝ่ายนึง มนุษย์เรามักจะรับรู้ได้ว่า เค้ารักเรามากเพียงไหน ก็มักจะรับรู้จาก การกระทำของอีกฝ่ายที่มีต่อเรา นั่นแหละค่ะ สำคัญมาก
.
หากเราต้องการให้ ชีวิตเต็มไปด้วย รูปแบบความสัมพันธ์ที่มาจากความรักที่ดี ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ ระหว่างพี่น้อง ระหว่างเพื่อน ระหว่างคู่รัก หรือผู้คนในชีวิต เราก็ต้องเริ่มเป็น ผู้ให้ความรักที่ดีเสียก่อน
การเป็นผู้ให้ที่ดี คือ ให้ในรูปแบบที่เราไม่เดือดร้อน ให้ด้วยความเต็มใจที่อยากจะมอบให้ โดยไม่คาดหวัง ว่าจะได้รับ ความรักที่ดีตอบแทนกลับมาหรือไม่ ให้ด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เป็นตัวตนที่ตนพยายามสร้างขึ้น ให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเป็นธรรมชาติของตัวตนของเรา
.
เมื่อให้ สิ่งที่ดีกับคนอื่นแล้ว ก็ไม่ต้องกลับมาคิดมากกับตนเอง ไม่ว่าผลลัพธ์ทางความสัมพันธ์จะเป็นเช่นไร เราได้มอบความรักที่ดีกับคน ๆ หนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจภายหลัง หากมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราอยากจะให้มันเป็น ก็คิดเสียว่า เราทำดีที่สุดแล้ว
การกระทำที่ดี ย่อมส่งผลให้เกิด ผลลัพธ์ที่ดี เมื่อเราแสดงออกทางความรักในทิศทางที่ดี ก็ย่อมส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่เราแสดงพฤติกรรมออกไปในทางที่ไม่ดี ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ขึ้น จุดบอดตรงนี้สามารถทำลายความสัมพันธ์นั้นให้จบลงได้
.
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า การกระทำที่เราแสดงออกไปนั้น จะส่งผลดี หรือ ส่งผลร้าย กระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา วิธีตรวจสอบตนเองนั้น ทำได้ไม่ยาก
🏵️🌿 เราสามารถทำได้ด้วยการสวมบทบาท
“เป็นเขาคนนั้น” แล้วลอง “พิจารณาการกระทำของตนเอง” จากด้านที่เราสวมร่างเป็นเขา ณ ขณะนั้น นั่นเอง
.
เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เราเป็นคนที่ทำให้ความสัมพันธ์นี้มันแย่ลง เพราะเราเองรึเปล่า เราจะเห็นด้านที่เราเผลอไปกระทำการใดในรูปแบบ Toxic กับอีกคนไหม ถามตัวเราเองว่า ชอบให้คนอื่นมากระทำแบบนี้ แบบที่เรากระทำกับคนอื่นหรือไม่ ควรต้องปรับปรุงด้านใด
หากเรามองเห็นตนเองแล้วว่า 💬
เรามักชอบ บังคับ คนอื่น
ก็คิดดูว่า เราชอบให้คนอื่นมาบังคับ หรือควบคุมเราไหม
หากเรามักชอบ โวยวาย โมโหร้าย ใส่คนอื่น
ก็คิดดูว่า แล้วเราชอบเวลาที่คนอื่นมาโมโหร้ายใส่ตัวเราเองไหม
หากเรามักชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น แบบไม่ถนอมน้ำใจผู้อื่น
ก็คิดดูว่า แล้วหากมีคนมาทำแบบเดียวกันกับเรา แบบที่เราไปทำเค้าแบบนั้น เราจะรู้สึกแย่หรือไม่
…
☀️☀️☀️☀️☀️☀️☀️☀️
🔑 : "การเริ่มต้นพิจารณาการกระทำของตนเอง หมั่นตรวจสอบพฤติกรรมตัวเองอยู่เสมอ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความพันธ์ที่ดีอย่างยั่งยืน ระยะยาว"
☀️☀️☀️☀️☀️☀️☀️☀️
จริงน่ะหรือ?
.
ลองคิดไปพร้อมกันดูค่ะ ว่าถ้าหาก คู่สานสัมพันธ์ของเรา เค้านิสัยดีมากเลย มอบความรักที่ดีให้กับคุณมาโดยตลอดแต่กลับเป็นเราที่ Toxic ใส่เค้าเสียเอง ทุกท่านว่า เค้าคนนั้นจะมีความสุขไหมคะ
ถึงแม้เค้าคนนั้น จะรักเรามาก และเลือกให้อภัยเรามาตลอดทุกครั้งที่เราแสดงพฤติกรรมที่ไม่น่ารักกับเค้า แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ที่คนเราอดทนต่อไม่ไหวกับสิ่งที่ทำร้ายหัวใจกันเรื่อยมา เค้าก็คงเลือกที่จะเดินจากไป และยุติความสัมพันธ์นี้ลงไปในท้ายที่สุดอยู่ดี เพราะใจเค้าพังไปหมดแล้ว
.
ดังจะเห็นว่า การสานความสัมพันธ์ที่ดี มีความรักที่ดีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่มันต้องช่วยกันสร้างขึ้นมาจากคนทั้งสองฝ่าย หยิบยื่นแต่สิ่งที่ดีให้แก่กัน โดยอยู่บนพื้นฐานของการไม่ทำร้าย ร่างกาย หรือ จิตใจ ซึ่งกันและกัน
♥️ ความรักที่ดี ♥️
ต้อง "ไม่ใช่" ความรักที่เล่นเกมกัน ต่างคน ต่างแข่งขัน เหมือนเกมต่อสู้ เพื่อ "การเอาชนะ"
แต่ความรักที่ดี มันคือ พื้นที่แห่งการแสดง ความรัก ความเมตตา ความปราถนาดี เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน อย่างที่ทั้งสองยินดี ยินยอม และยอมรับ ในการกระทำของกันและกัน ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนความสุขให้กันทั้งสองฝ่าย มิใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความทุกข์มาทดแทน
.
นอกจากนี้ การแสดงออกทางความรัก ด้วยใจที่เป็นมิตรกับคนรอบข้าง กับผู้คนที่เราได้พบเจอ แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราก็สามารถทำได้ พลังงานที่เราส่งออกไปผ่าน น้ำเสียง คำพูด และการกระทำ สามารถส่งไปถึงผู้คนที่เค้ากำลังสื่อสารกับเราได้
การยิ้ม การขอบคุณ การขอโทษ ทุกอย่างทำด้วยความเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืน จริงใจต่อเพื่อนมนุษย์ ย่อมทำให้ผู้ฟังเหล่านั้นรู้สึกดีตามไปด้วย
การส่งต่อพลังงานดี ๆ ย่อมทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ไม่เพียงแค่เราจะมีความสุขกับสิ่งที่เราได้มอบให้กับผู้อื่น แต่ความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้ยังส่งต่อไปยัง ผู้คนที่เราได้พบเจออีกด้วย เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราได้ฝึกขัดเกลาตนเองให้เป็นคนที่ดีมากขึ้น เป็นมิตรมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น อ่อนโยนมากขึ้น มันก็สามารถ Made my day คน ๆ หนึ่งได้เหมือนกันนะ ^^
.
หากลองมองในมุมกว้างขึ้นอีกนิด เมื่อเราส่งพลังงานดี ๆ กับคน ๆ หนึ่ง เราพูดจาดีกับเค้า เราขอบคุณและส่งยิ้มให้เค้า ที่ช่วยเหลือเราอย่างจริงใจ เค้าคนนั้นอาจใจฟู รู้สึกดี มีกำลังใจที่ดีในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่นนี้ การทำงานของเค้าในวันนั้นเลยรู้สึกมีความสุขมากขึ้น
ทุกอย่างราบรื่นขึ้น อารมณ์ดีขึ้น และส่งต่อพลังดี ๆ เหล่านี้ไปยัง เพื่อนร่วมงาน และผู้คนที่พบเจอเค้า ตกเย็นเค้าก็ยังคงมีความสุข ส่งต่อความสุขนี้ไปยังครอบครัว และคนที่บ้านเค้าได้ เพราะวันนี้เจอแต่เรื่องราวที่ดี
.
เห็นไหมล่ะ ว่าการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราสามารถมอบให้กับคนอื่น ๆ ได้ โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย ก็สามารถแผ่ขยายพลังงานบวก สร้างระบบนิเวศที่ดีให้แก่ผู้คน และสังคมที่เราเจอได้อีกมาก ไม่เพียงแค่ 1 คน แต่จาก 1 จะกลายเป็น 2 จาก 2 จะเป็น 4 ไปเรื่อย ๆ
สังคมที่ดี เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ จากการแสดงออกที่ดี มีจิตใจที่เมตตาต่อกัน เริ่มต้นง่าย ๆ ได้จากตัวเราเอง พัฒนาตนจากความคิด แล้ว ความคิด จะนำมาซึ่งการตัดสินใจ ในการแสดงออกของการกระทำ คิดให้ตรงกับใจ ใจที่เป็นสุข
.
อยากให้ความสัมพันธ์กับผู้คน กับครอบครัว กับคนรัก ดีแบบไหน จงปฏิบัติตนให้เป็นเช่นนั้น กับพวกเขาก่อนเสมอ ลิขิตความสัมพันธ์ด้วยตนเอง แล้วผลลัพธ์จะยอดเยี่ยมเช่นนั้น เฉกเช่นนี้ที่ปฏิบัติกับทุก ๆ คน
✨🎐แล้ววันหนึ่ง พลังงานดี ๆ ต่าง ๆ จะส่งกลับคืนมายังตัวเราเองแน่นอนค่ะ
ทุกอย่าง
คือ "การแลกเปลี่ยนพลังงาน"
พลังงานของความรักที่ส่งให้กันได้นี้
ต่างเป็น "วงโคจรเดียวกัน"
เหมือนกับ อากาศที่เราหายใจร่วมกัน
เราทุกคน
คือ "แหล่งกำเนิดพลังงานความรัก
ที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน" 💞🕊️✨🌿
Alienaire
.
มาร่วมสร้างสังคมที่น่ารักไปด้วยกันนะคะ :)
Alienaire 🥰 - End - 🌿💚✨🌈🌷
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
