ราคาอันแสนแพง ที่สหรัฐฯและพวกต้องจ่าย จากการแบน Huawei ...
..
100,000 ล้านดอลล่าร์ คือตัวเลขความเสียหายที่ถูกผู้เชี่ยวชาญในหลายอุตสาหกรรมประเมินไว้
จากการตัดสินใจคว่ำบาตร Huawei บริษัทเทคโนโลยีจากจีน ของสหรัฐฯและพันธมิตร
10,000 ล้านดอลล่าร์ คือค่าเสียหายเบื้องต้น สำหรับทุกองค์กร หน่วยงาน และบุคคล ที่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เคยเป็นของ Huawei ทั้งหมด
เมื่อนับรวมความเสียหายด้านจำนวนผู้แข่งขันและการแข่งขันด้านราคาที่น้อยลงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การเข้าถึง 5G ที่ช้าลง ต้นทุนราคาอุปกรณ์ของบริษัทคู่แข่งของ Huawei ที่แพงกว่า..
ตัวเลขผลกระทบทั้งหมดย่อม มีมากกว่าที่ประเมินขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
แต่สหรัฐฯ บอกว่า ไม่ว่าความเสียหายจะเป็นเท่าไร มันก็คุ้มค่า เมื่อมองในแง่ของความมั่นคงของชาติ
หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ Huawei ในปี 2019 ผลกระทบไม่เพียงเกิดขึ้นแต่เฉพาะกับสหรัฐฯ เท่านั้น
ความล่าช้าของการเปิดตัว 5G ในยุโรป ที่ถูกเลื่อนออกไปนานถึง 15 เดือน สร้างความเสียหายเป็นเงินราว 55 พันล้านยูโร
เฉพาะอังกฤษประเทศเดียว ก็เกิดความเสียหายจากการปรับสเปค จนทำให้ 5G ล่าช้าไปปีครึ่ง เสียเงินไปอีก 6.8 พันล้านปอนด์
และจากผลการศึกษาของสถาบันเศรษฐศาสตร์ของอ็อกฟอร์ด พบว่า ตัวเลขต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการไม่ใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในการพัฒนา 5G ของประเทศชั้นนำของโลก อาทิ ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อินเดียและสหรัฐฯ อยู่ที่ 16-19%
ซึ่งจะทำให้ตัวเลข GDP หายไปมากถึง 105.5 พันล้านดอลล่าร์ ภายใน 5 ปี
เป็นที่ทราบกันดีว่าโดยเฉลี่ยแล้ว อุปกรณ์ของ Huawei มีราคาถูกกว่าคู่แข่งราว ๆ 20% แต่นั่นไม่ได้แปลว่า Huawei ไม่มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า
ปัจจัยที่ Huawei ครองส่วนแบ่งตลาดได้สูง เพราะคุณภาพของอุปกรณ์ของพวกเขา มันคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป
สัดส่วนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ยังคงมีนัยสำคัญในหลายประเทศในยุโรป
เมื่อดูจากตาราง ประเทศอย่างเยอรมนี อิตาลีและสหราชอาณาจักร พึ่งพาอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ประมาณ 40-60% ของทั้งหมด
จึงมีคำกล่าวที่ว่า ยุโรปพึ่งพาอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารจากจีน ยิ่งกว่าพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเสียอีก
ความหวั่นวิตกว่า รัฐบาลจีนซึ่งครอบงำบริษัทสัญชาติจีนได้ถูกต้องตามกฎหมาย จะใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลผ่านอุปกรณ์ของ Huawei
ทำให้สหรัฐฯและพันธมิตร ต้องยอมจ่ายค่าเสียหายเรื่องนี้ในราคาแสนแพง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะเทคโนโลยีการสื่อสาร คือชีวิตประจำวันของทุกประเทศ
มันไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ แต่มันคือความมั่นคงของชาติ
ด้วยเหตุผลนี้เอง จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จึงมุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีการสื่อสารของตัวเอง ตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
เพื่อลดความเสี่ยงจากการต้องพึ่งพาจากประเทศใด ประเทศหนึ่ง
References;
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 32
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
