สอนลูกด้วยใจ ให้ประสบความสำเร็จ
ผมพึ่งจะแต่งงานมาไม่นาน ก็มีความคิดว่าอยากจะมีลูก ซึ่งการเลี้ยงลูกก็เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม (แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับทุกคนที่ยังไม่เคยมีลูก) และมันต้องใช้อะไรหลาย ๆ อย่าง เพื่อที่จะต้องเลี้ยงลูกคนหนึ่งขึ้นมา
ถ้าผมเลือกที่จะมีลูกแล้ว ผมก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด
แต่ในใจลึก ๆ ผมกลับมีความกังวลใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ว่าผมจะเลี้ยงลูกให้มีความสุขได้อย่างไร หรือว่าจะสอนเขาให้เข้าใจโลกได้อย่างไร
มันเป็นคำถามที่ผมถามกับตัวเองทุกครั้ง ที่ผมนึกถึงเรื่องการมีลูกเสมอ
ผมได้ไปเห็นหนังสือ "เลี้ยงลูกให้ทันโลก" ผมก็คิดว่าผมควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ถึงแม้ผมจะยังไม่มีลูกก็ตาม
ผมอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องในอนาคต แต่ผมก็อยากจะเตรียมการไว้ในระดับหนึ่ง ถ้าวันนั้นมาถึง อย่างน้อยสิ่งที่ผมได้อ่านจากเล่มนี้ น่าจะมีประโยชน์กับผมและลูกของผมด้วย
"หนังสือเล่มนี้ตั้งใจจะบอกอะไร"
ความคิดที่อยากจะมีลูกของผม ก็ต้องบอกว่ามีความลังเลอยู่บ้าง ว่าจะมีดีไหม ขนาดตัวผมยังปรับตัวไม่ทันกับโลกที่เป็นอยู่ตอนนี้
โลกที่เป็นอยู่ตอนนี้ จะเห็นเลยว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วกว่าตอนที่ผมเป็นเด็ก
เราได้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด สมัยนี้ก็เทคโนโลยี AI ก็เริ่มที่จะมีบทบาทมากขึ้น
และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ คนที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องเป็นคนที่สามารถปรับตัวได้
ดังนั้น ก่อนที่ผมจะสอนลูกให้ปรับตัวให้ทันได้ ก็ต้องเริ่มจากผมก่อน ผมต้องมี Mindset ที่ปรับตัวเข้ากับโลกให้ได้เสียก่อน
นี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ
ส่วนถ้าใครไม่รู้ว่า เราจะมีวิธีสอนให้ลูกเข้าใจในเรื่องนี้ได้อย่างไร ในหนังสือเล่มนี้ จะมีข้อคิดในการสอนลูก ๆ
"บทเนื้อหาที่ผมชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้"
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ ไม่ได้เป็นหนังสือที่จะสอนวิธีการเลี้ยงดูลูก แต่จะเกี่ยวกับการที่คนเป็นพ่อแม่จะปรับเปลี่ยนความคิดที่เกี่ยวกับการสอนลูก
และเนื้อหาที่ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนที่สุด ก็คือ "อย่าเป็นพ่อแม่ประเภทนี้"
สำหรับผม เป็นเนื้อหาที่ต้องเตือนใจผมเลย ในตอนที่ผมมีลูก และจะต้องเลี้ยง ต้องสอนเขา
"พ่อแม่ประเภทนี้" คือประเภทไหน?
ผมคิดว่า หลาย ๆ คนน่าจะเคยเจอประสบการณ์แบบนี้เหมือน ๆ กัน ก็คือตอนที่เราอยากจะทำอะไร แต่พ่อแม่กลับห้ามไม่ให้เราทำสิ่งนั้น
หากวันหนึ่งผมได้กลายเป็นพ่อคน แล้วลูกมาขอคำปรึกษากับผม ว่าเขาอยากจะทำบางสิ่งบางอย่าง
ถ้าผมไปแนะนำ หรือไปห้ามเขาไม่ให้ทำ เพราะผมคิดว่าเขาทำไปก็ล้มเหลว มันก็น่าจะเป็นความหวังดีของผมที่มีต่อลูก ถูกไหมครับ?
แต่ถ้าสิ่งที่เขาอยากจะทำ มันมีโอกาสที่จะสำเร็จละ แสดงว่าการที่ผมไปห้ามเขาไม่ให้ทำ ผมก็กลายเป็นคนที่หยุดความฝันของลูกไปทันที
คำถามข้อนี้ ผมยังคงตอบตัวเองไม่ได้ตอนนี้ แล้วสำหรับคนอื่นล่ะ คิดว่าอย่างไรบ้าง?
"ความรู้สึกหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ"
หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ ความรู้สึกที่ผมเคยกังวลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกมีน้อยลง
ไม่ได้หมายถึงว่า การอ่านหนังสือเล่มนี้ จะทำให้ผมมั่นใจในการเลี้ยงลูกมากขึ้นนะครับ
แต่ทำให้ผมเห็นตัวผมเองว่า ตัวผมจะเป็นพ่อที่จะสนับสนุนเขาได้ ให้ความรักกับเขา และเคียงข้างกับเขา
ถึงแม้โลกในตอนนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน หรือเร็วแค่ไหน ผมและลูกก็ต้องปรับตัวไปด้วยกัน เพื่อที่จะประสบความสำเร็จไปด้วยกันทั้งคู่ครับ
หากใครที่เป็นพ่อแม่ หรือจะยังไม่ได้เป็น ผมอยากแนะนำให้ลองซื้อหนังสือ "เลี้ยงลูกให้ทันโลก" มาอ่าน เพื่อที่จะกลายเป็นพ่อแม่ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนความฝันของลูก ๆ
เพราะผมเชื่อว่า เวลาที่พ่อแม่เห็นลูกประสบความสำเร็จ หรือสามารถทำตามความฝันของเขาได้ พ่อแม่จะรู้สึกภูมิใจในตัวลูกและมีความสุข
Credit
ผู้เขียน คุณรวิศ หาญอุตสาหะ เป็น CEO ของบริษัทศรีจันทร์สหโอสถจำกัด และเป็น CEO ของ Mission to the Moon Media
รวมทั้งเป็นนักเขียน และทำ Podcast ลงทุกวัน ๆ ละ 2 ตอน
และที่สำคัญ คุณรวิศก็เป็นคุณพ่อ มีลูกแล้ว 2 คน ถึงแม้จะมีงานเยอะแค่ไหนก็ตาม ก็ยังส่วนในการสนับสนุนความฝันของลูก ๆ เสมอ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
