4 มิ.ย. 2023 เวลา 13:23 • ไลฟ์สไตล์

ก่อนที่จะเขียนเรื่องนี้ เราได้ผ่านชีวิตช่วงหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนมาก่อน

ฟังดูแล้วอาจจะตลกเหมือนกัน เพราะว่าชีวิตอีกไม่กี่ปีก็จะอายุ 30 แล้ว แต่ว่ายังเป็นคนหนึ่งที่หลงทางกับความหมาย คุณค่าในตัวเอง และเส้นทางอาชีพที่ตัวเองอยากทำ
เราเป็นคนที่ผ่านจุดหักเหในชีวิตมาหลายเรื่อง ทั้งการเรียน ความรัก การทำงาน
เป็นปัญหาที่ทับซ้อนจนไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไร
แล้วก็ไม่เข้าใจว่าชีวิตมันต้องขนาดนี้เลยหรอ ?
ทำไมเราหันมองชีวิตคนอื่นข้างๆ เขาก็ดูเรียบง่ายและมีความสุขดี
เหมือนยังมีแค่เราที่ต้องแกะเงื่อนปมในอดีต
และคอยแซะปัญหาที่เกาะอยู่ในตรงไหนสักที่ของอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง
ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกก็เหมือนกับมีอะไรสักอย่างที่เหมือนเมฆหมอกมาคลุมความคิดของเรา
ทำให้เราไม่สามารถหาคำตอบจากเรื่องที่เราเจอได้
แล้วเราก็เคยคิดท้อใจว่า หรือว่าโชคชะตามันลิขิตทุกอย่างไว้แล้ว
ให้เราต้องเจอ ต้องทน และยอมเป็นคนแพ้ที่ไม่สามารถชนะได้
จนไม่นานมานี้ เราคิดว่าเราได้ไปสะดุดกับชุดความหวังมา 1 ก้อนใหญ่ๆ
ความรู้สึกนั้นคือ คำว่า “ชีวิตเราเป็นไปตามที่เราคิด”
เมื่อก่อนก็เคยได้ยินคำๆนี้มาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรามีมุมมองต่อคำพูดนี้สักเท่าไหร่
เพราะเมื่อก่อน เวลาที่เราได้ยินคำนี้แล้วเรารู้สึกว่าเรามีความคาดหวังกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
แต่ตอนนี้ เราได้ตกผลึกประสบการณ์บางส่วนได้ว่า
“ชีวิตเป็นไปตามที่เราคิด”
มันไม่ได้หมายความว่าเราต้องได้ทุกสิ่งหรือสมหวังทุกอย่าง ในเวลาเดียว
แต่มันหมายถึงวิธีคิดที่เราจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น วิธีที่เราจะเลือกตัดสินใจ ต่อเหตุการณ์ต่างๆ
ที่ไม่เป็นไปดั่งหวัง หรือความเจ็บปวด การสูญเสีย
ไม่มีใครบอกเราเรื่องความเจ็บปวดของชีวิต
เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเจออะไรที่ไม่คาดคิด เราเลยรู้สึกเสียศูนย์
หรือบางคนอาจจะหนักว่านั้น คือเสียตัวเองไปเลย เสียสิ่งที่ตัวเองภูมิใจ
ยิ่งเราผ่านเรื่องที่เลวร้ายมามาก เรายิ่งกลัว
ยิ่งเรากลัวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสูญเสียอิสรภาพที่จะใช้ชีวิตมากเท่านั้น
เพราะฉะนั้นที่เราตั้งหัวข้อนี้ ก็เหมือนกับคนที่คอยพกร่มอยู่ตลอดเวลา
มันเหมือนคนที่คอยระแวงในสิ่งที่ยังไม่เกิด เพราะกลัวว่าจะถูกหักหลัง เจ็บปวด
หรือทุ่มเทไปแล้วสุดท้ายต้องล้มเหลว ผิดหวังเหมือนอย่างเคย
ความกลัวในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจจะฆ่าชีวิตเราทิ้งไปเลยก็ได้
ถ้างั้นลองคิดว่า เราอาจจะมีชีวิตอยู่แค่วันนี้วันสุดท้าย
ความสุขหรือความทุกข์ มันจะไม่มีเหลืออีกต่อไป
สิ่งที่จะทำให้เราไม่ได้ใช้ชีวิตอีก มันคือ ความตาย ซึ่งคือจุดจบที่เราทุกคนต้องไปเจอ
สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีอะไร…
มีแค่ตัวเรากับความคิด
“ชีวิตเป็นไปตามที่เราคิด”
ถ้าเราคิดว่าทุกสิ่งถูกกำหนดไว้เแล้ว ใช่ มันก็จะเป็นไปตามนั้น เราจะไม่อยากทำอะไร
แต่ถ้าเราคิดว่าเรามีโอกาสที่ใช้ชีวิต เราจะไม่ยอมไม่มีความสุข
ไม่มีใครทำให้เราบอบช้ำได้เท่าตัวเราเอง เราจะไม่ยอมยกอำนาจนี้ให้ใคร
ก็จะไม่มีใครทำร้ายเราได้ เพราะเราคือคนที่รับผิดชอบ ความคิด ความรู้สึกของตัวเอง
อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
อะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น ต่อให้กลัวหรือระแวงแค่ไหน เราก็ไม่มีทางรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่
สิ่งสำคัญคือ ถ้ากลัวเราจะกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุข และร่องความคิดลบๆก็จะทำงานชัดขึ้น
ตอนนี้เราคิดอะไรอยู่ แล้วความรู้สึกของเรา สงบ หรือมีความสบายใจหรือยัง?
สิ่งนี้แหละ คือสิ่งที่จะดึงเราให้ค่อยๆออกมาจากร่มของความกลัว ความวิตก
และกลับกลายมาเป็นคนที่กล้าหาญ พร้อมรับมือกับทุกสิ่งในชีวิตได้ดีกว่าเดิมมากขึ้น
รักตัวเองให้เป็น แล้วชีวิตจะเป็นไปในแบบที่เราคิด…
โฆษณา