4 มิ.ย. 2023 เวลา 14:42 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023) - สไปเดอร์แมนตะลุย Spider-Verse !

พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความเสียสละอันใหญ่ยิ่ง
กำกับโดย Joaquim Dos Santos, Kemp Powers และ Justin K. Thompson
หลังจากที่รอมานาน ในที่สุดก็ได้ดูสักทีกับ Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023)  หลังจากดูจบ รู้สึกได้เลยว่า นี่เป็นหนึ่งในแอนิเมชันที่แกร่งในปีนี้ และมีแนวโน้มน่าได้เข้าชิงออสการ์พอสมควร
(แต่จะไปขั้นคว้ารางวัลหรือเปล่า ต้องมาลุ้นกันอีกที เพราะ หนังก็มีบางอย่างที่ดร็อปไปจากภาคแรกเช่นกัน)
[ ความรู้สึกหลังชม ]
- ส่วนแรกและเป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดในเรื่อง ขอยกนิ้วให้กับ "งานอาร์ตในเรื่อง"
จุดนี้จริง ๆ แข็งมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ในภาคนี้ก็ยังคงมีงานอาร์ตที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเคย ไม่ว่าจะโทนภาพแนวคอมมิค จังหวะการตัดต่อ และลูกเล่น Super ที่หวือหวาฉูดฉาด เมื่อผสมกับเพลงประกอบในเรื่องสไตล์ Pop / EDM ทำให้มู้ดที่ออกมาแสดงความเป็น "Superhero comics"
ตรงนี้เรียกคะแนนจากฟากนักวิจารณ์ได้เยอะ อย่างน้อยสิ่งที่นำเสนอ ไม่ได้เป็นแค่แอนิเมชันทั่วไปอย่างเรื่องอื่น ๆ แต่สะท้อนอัตลักษณ์ของ "Pop Culture" และ "Street Art" ได้อย่างงดงาม เรียกว่าใช้ความอาร์ตได้คุ้มและสร้างสรรค์มาก
- เนื้อเรื่องภาคนี้ มุ่งตรงไปที่ชีวิตส่วนตัวของ "ไมล์ส โมราเลส" (เด็กหนุ่มที่เป็นสไปดี้ใน verse นี้) และมีพาร์ทดราม่าเยอะกว่าภาคที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ โฟกัสที่ประเด็นเรื่องครอบครัวและชีวิตวัยรุ่นของไมล์สที่เผชิญศึกหนักทั้งชีวิตการเรียน ครอบครัว และบทบาทสไปเดอร์แมน รวมไปถึงความโกลาหลใน Multiverse ที่เกิดขึ้นจากการกระทำบางอย่างของเกว็นและไมล์ส ทำให้ Multiverse ปั่นป่วน
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ไมล์สก็ได้เข้าใจว่า
พลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้แค่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ แต่ยังมาคู่กับความเสียสละอันใหญ่ยิ่ง
Spider-Vese มีกฏเกณฑ์ที่ทำให้ชีวิตของสไปดี้ต่างพบกับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ฉะนั้นแล้ว ไมล์สควรฝืนชะตากรรม หรือยอมรับในเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้
ไม่ว่าทางใด ล้วนเป็นทางที่ยาก !
- โดยภาพรวม ยังรู้สึกประทับใจภาคแรกมากกว่า
เนื่องจากในระยะหลังเราได้เห็นหนังไอเดีย Multiverse มาหลายเรื่อง ทั้งจากตัวแอนิเมชันภาคแรก, Doctor Strange in the Multiverse of Madness และขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ Everything Everywhere All at Once ทำให้ไอเดียนี้ไม่ได้เป็นของใหม่อีกต่อไป และอาจไม่ได้ว้าวเมื่อเทียบกับหนังมัลติเวิร์สยุคแรก ๆ
( อย่างไรก็ตาม หนังมีโชว์ไอเดีย Spider-Verse ในโลกต่าง ๆ อิงตามคอมมิค ซึ่งดีไซน์ได้สร้างสรรค์ จนพอทำให้เราสนุกตามได้ )
จุดถัดมา หนังยาวถึง 2 ชม. 20 นาที และเริ่มเข้าประเด็นหลักช้า เลยรู้สึกว่าหนังค่อนข้างยืด อีกทั้งประเด็นทั้งหมดไม่ได้ถูกปิดในภาคเดียว แต่เราต้องรอชมต่อในภาคถัดไป ทำให้รู้สึกว่า หนังไม่กระชับเท่าไร ไม่ได้สมบูรณ์อย่างที่ภาคแรกเคยทำมา
อย่างสุดท้าย Element ในเรื่องเยอะพอสมควร ระหว่างดูอาจตาลายได้
[ สรุป ]
แม้ภาคแรกจะทำไว้มาตรฐานสูง แต่ Spider-Man: Across the Spider-Verse ก็ทำได้ดีเช่นกัน ถือเป็นแอนิเมชันคุณภาพสูง บทดี ประเด็นเรื่องน่าสนใจ พาร์ทดราม่าเข้มข้น งานดีไซน์สร้างสรรค์
ดังนั้นก็ไม่ควรพลาดรับชม... น่ารอลุ้นในเวทีออสการ์ / ลูกโลกทองคำด้วย
ดูได้บน Netflix!
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
IG: benjireview

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา