4 พ.ย. 2023 เวลา 00:00 • ดนตรี เพลง

เกร็ดเรื่องเพลงลูกทุ่ง โดย วินทร์ เลียววาริณ │ บุปผาสวรรค์ 11

นคร มงคลายน ผู้เกิดมาเพื่อร้องรําทําเพลง
1
นักร้องดัง สุเทพ วงศ์กําแหง ฉายา เสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์ ครวญเพลง นางใจ บนเวที เธอเป็นนางพิมของใครมาก่อน คนทั่วทั้งนคร เขาก็รู้ ทั่วไป...
พอร้องจบ ก็มีนักร้องอีกคนหนึ่งบนเวทีร้องต่อทันที
เธอเคยเดินโชว์กับนิโกรมาก่อน คนทั่วทั้งอุดร เขาก็รู้ทั่วไป ฉันพบเธอทั่วเมืองเหนือและเมืองใต้ พม่า จีน ฝรั่ง ไทย เคยได้กับแม่ทุกคน
อีกครั้งหนึ่งเมื่อสุเทพร้องเพลง จงรัก
โปรดอย่าถาม ว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต นักร้องเสริมคนนี้ก็แปลงเป็น โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต ฉันบอกก็ได้ อดีตฉันเป็นแมงดา
เรียกเสียงฮาลั่นไปทั่วโรง
เช่นกันเมื่อนักร้องดัง ชาญ เย็นแข ร้องเพลง ค่าน้ำนม
ครวญคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
คนร้องเสริมก็แปลงว่า ครวญคิดพินิจยิ่งเพลีย กระป๋องนมของเมีย บางทีก็มีกลิ่นฉุน
2
คนร้องคนนี้ชื่อ นคร มงคลายน
เรียกเพลงชนิดนี้ว่าเพลงแปลง
การแปลงต้องทำทันทีหลังเพลงหลักร้องจบ เพื่อที่คนดูจะรู้ว่ามันคือการล้อเลียน และจะสนุก
1
นักร้องดัง สมยศ ทัศนพันธุ์ ร้องเพลง ขวัญอ่อน ดวงฤดีพี่แทบขาดรอน โธ่เอ๋ยขวัญอ่อน
นครก็ร้องใหม่ว่า ดวงฤดีพี่แทบขาดกลาง โธ่เอ๋ยขาถ่าง กลางแล้วก็เลยเขว
เรียกเสียงฮาลั่นไปทั่วโรง
ไม่เพียงแต่แปลงเพลงไทย เพลงฝรั่งก็หนีไม่พ้นมือเขา
เพลงฝรั่ง My Truly, Truly Fair ดังมากใน 1951 ร้องโดย Guy Mitchell ก็ถูกเขาแปลงเป็นเพลงไทยครื้นเครง ชื่อเพลง อยากกินกาแฟ
ตื่นก็กินกาแฟ เที่ยงก็กินกาแฟ ถึงตอนเย็นก็กินกาแฟ กลางคืนก็กินกาแฟ เช้ากินกาแฟ วันยังค่ำต้องกินกาแฟ อยากจะกินกาแฟทีไร เจ๊กไม่ชงให้กิน เดือนที่แล้วยังไม่เฉ่งบิล ต้องงดกินกาแฟ ไม่มีเงินจะกินกาแฟ เลยต้องกินแต่น้ำ ไม่ว่าเช้าหรือไม่ว่าค่ำ ดื่มน้ำแทนกาแฟ
เพลงฝรั่ง Jingle Bells กลายมาเป็น โจงกระเบนๆ
ทําให้ นคร มงคลายน ได้รับฉายาว่า ราชาเพลงแปลง
นคร มงคลายน จึงมิใช่เป็นแค่นักร้อง หากคือ entertainer
เกิดมาเพื่อร้องรําทําเพลง
2
นคร มงคลายน เป็นชาวกรุงเทพฯ ครอบครัวทำกิจการโรงยาฝิ่น
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ก็ไปเล่นละครเร่ ละครตลกเวที แต่งเพลง เต้นรำเก่ง จนได้รับรางวัลการเต้นรำ เคยเป็นแชมป์ร็อคแอนด์โรลแห่งประเทศไทย
1
เป็นคนอารมณ์ดี สนุกสนาน แต่งเพลงร้องเพลงได้หลายแนว ไปร้องเพลงทุกที่ ทั้งในโรงหนัง ไนต์คลับ
เขาเป็นทั้งนักร้อง นักเต้น โฆษก มีอารมณ์ขัน เป็นคนตลก ชอบทำเรื่องซีเรียสเป็นเรื่องตลก
ช่วงหนึ่งจัดรายการวิทยุที่สถานีวิทยุ ว.พ.ท. และ อสมท คลื่น 1143 กิโลเฮิร์ทซ์ ชื่อรายการ หนุ่มน้อยฝอยข่าว คุยสนุก อุดมด้วยมุขตามสไตล์ของเขา
1
ฝีมือการแปลงเพลงและการแต่งเพลงสนุกของเขา ทำให้เจ้าของสินค้าหลายรายสนใจ จ้างเขาร้องเป็นเพลงโฆษณา
นคร มงคลายน (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม)
สปอตโฆษณาโรงเรียนสอนขับรถ ส.สะพานมอญ เป็นผลงานแรกๆ ของเขา
อยากจะขับรถต้องเรียนเสียก่อน ส. สะพานมอญ สอนให้ได้ผล หากท่านจะคิดเรื่องฟิตเครื่องยนต์ ขอเชิญทุกคนเรียนที่ ส.สะพานมอญ เชี่ยวชาญการขับรถ รู้กฎของการจราจร แก้ไขเครื่องได้แน่นอน สอนลัดรู้เร็วหนักหนา อยากเป็นช่างฟิตมีชีวิตก้าวหน้า ขอเชิญท่านมาเรียนที่ ส. สะพานมอญ อยากเรียนขับรถไปที่ ส.สะพานมอญ ปี๊น ปี๊น อยากเรียนเครื่องยนต์ไปที่ ส. สะพานมอญ ปี๊น ปี๊น บึ้น บึ้น
เล่ากันว่าตอนอัดเสียง ต้องนํารถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในห้องอัดเสียงด้วย เพราะมีเอฟเฟ็กต์เสียงเร่งเครื่องยนต์ แต่เนื่องจากนำรถยนต์ทั้งคันเข้าไปในห้องอัดไม่ได้ จึงใช้รถมอเตอร์ไซค์แทน
1
เพลงสปอตโฆษณาที่ใช้เวลาอัดเสียงนานที่สุดคือ ถ่านไฟฉายตรากบ เพราะต้องจบทุกคำในเวลา 60 วินาทีเป๊ะ
หากเกินไปสักวินาทีเดียว สถานีวิทยุก็คิดราคาเพิ่ม น้อยไปวินาทีเดียวก็ไม่ได้เช่นกัน ผลก็คือต้องร้องหลายเที่ยว แต่ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจใหญ่หลวง
ต้นตระกูลผม แต่บางบรรพ์ หลังย่ำสายัณห์ ดวงตะวันเลี่ยงหลบ จะเดินทางเยื้องย่างไปไหน จำเป็นต้องใช้ จุดไต้จุดคบ ปัจจุบันเห็นจะไม่ดี ขืนจุดไต้ตี ถ้ามีใครมาพบ อาจต้องอายขายหน้าอักโข เขาต้องพากันโห่ ว่าผมโง่บัดซบ
1
ยุคนี้มันต้องทันสมัย เพื่อนผมทั่วไปใช้ถ่านไฟตรากบ ทั้งวิทยุและกระบอกไฟฉาย คุณภาพมากมาย สะดวกสบายครันครบ ถ่านก็มีหลายอย่างวางกอง เขากลับรับรองว่า ต้องแพ้ตรากบ เหตุและผลเขาน่าฟังครับ ขอท่านลองสดับนะท่านที่เคารพ
3
ตามด้วยเสียงพูด คือเขาบอกว่า ถ่านไฟฉายตรากบ ไม่ใช่ของนอกส่งมาขยอกเงินไทย และไม่ใช่ของทำภายในที่โกยกำไรส่งออกนอก ถ่านไฟฉายตรากบทำในเมืองไทย โดยให้เงินกำไรหมุนเวียนอยู่ในเมืองไทย ทำให้ดุลการค้าของไทยดีขึ้น ฉะนั้นนอกจากผมจะเคยชอบตีกบ ชอบกินกบ ชอบเพลงพม่าแทงกบ และชอบเล่นไพ่กบแล้ว เดี๋ยวนี้ผมยังชอบถ่านไฟฉายตรากบอีกด้วย อบ ๆ
2
โฆษณาชิ้นนี้ได้ผลดี ทําให้ถ่านไฟฉายตรากบครองตลาดถ่านไฟฉายในยุคนั้น
อีกสปอตโฆษณาที่เป็นที่จดจำได้ดีก็คือยาทัมใจ ของบริษัท โอสถสภา (เต๊กเฮงหยู) จำกัด
ทัมใจๆๆๆๆๆๆ ยาชั้นดี ปวดหัว ปวดฟัน ปวดนั่น ปวดนี้
มันเริ่มที่นายห้างสวัสดิ์ โอสถานุเคราะห์ และบุตรชายว่าจ้างให้นครแต่งเพลงสปอตโฆษณาให้ ก็แต่งไปให้ บริษัทฯชอบใจ ขั้นต่อไปก็คืออัดเสียงที่บริษัทแผ่นเสียงศรีกรุง
1
คืนหนึ่ง นคร มงคลายน ไปฟังดนตรีฟิลิปปินส์ เล่นเพลง คูบาร์ เซโร คุมบาๆๆๆๆ เชโร ก็เกิดความคิดใหม่ กลับบ้านแต่งเพลงทัมใจใหม่ ปรากฏว่าดีกว่าเดิม
2
บางครั้งงานดีก็ปรากฏแวบเดียว ใช้เวลาไม่นาน
ในสมัยก่อน โรงหนังมักนําวงดนตรีมาแสดงสลับฉากกับการฉายหนัง นคร มงคลายน พยงค์ มุกดา สมยศ ทัศนพันธ์ ก็เป็นคณะที่เข้าออกโรงหนังเป็นประจำ โดยเฉพาะโรงหนังเฉลิมบุรี
โรงหนังในต่างจังหวัดก็นิยมนำคณะนักร้องไปเล่น แต่ นคร มงคลายน ไปไกลกว่าแค่ร้องเพลงเดิมๆ
ครั้งหนึ่งเมื่อไปแสดงที่โรงหนังแห่งหนึ่งในอําเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา วันแรกผู้ชมล้นหลาม แต่วันต่อมาคนลดน้อยลง
เขาจึงคิดหาทางทำให้คนมาทุกวัน
เขาเล่าว่า ผมไปเล่นที่ฉะเชิงเทรา คิดว่าพรุ่งนี้อยากให้คนมาดูกันแน่น ผมก็เลยประกาศว่า รู้สึกดีใจที่ชาวบางปะกง ชาว แปดริ้วมาให้เกียรติผม มาต้อนรับผม เพราะฉะนั้น ผมจะตอบแทนบุญคุณพี่น้องด้วยการแต่งเพลงให้ชาวบางปะกงเป็นที่ระลึกหนึ่งเพลง พรุ่งนี้ขอให้พี่น้องมาฟังดูว่าจะชื่นชอบไหม
1
ครั้นเลิกการแสดง กลับถึงโรงแรม ก็แต่งเพลงริมแม่น้ำ เพราะแสงไฟในโรงแรมไม่สว่าง แต่เนื่องจากยังหนุ่ม สายตาดี ก็เขียนในที่มืดๆ จนเสร็จ ในคืนนั้น ชื่อเพลง บางปะกง
1
คืนรุ่งขึ้นผู้ชมมารอฟังเพลงที่เขาสัญญา เมื่อเขาออกไปร้อง ผู้ชมต่างปรบมือด้วยความชอบใจ
ฝั่งชายน้ำบางปะกง ยามแสงอาทิตย์อัสดง ใกล้จะค่ำลงแล้วหนา แต่บางปะกงนั้นยังคงสวยงามตา คราใกล้สนธยา ยิ่งพาให้เราสุขสันต์ แดดจวนลับลงรำไร มองเห็นเรือน้อยล่องลอยไป ตื่นใจดังยลสวรรค์
เยือกเย็นสายลมพริ้วพรมอย่างนี้ ทุกวันธรรมชาติยามสายันห์ ได้เห็นแล้วลืมไม่ลง แม้จากไปอยู่ไกลแสน ก็ไม่ขอลืมแดนที่เคยปักใจลุ่มหลง จะเฝ้าแต่ฝันถึงอาทิตย์อัสดง
ต่อมาเพลง บางปะกง ร้องโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี กลายเป็นเพลงคลาสสิก และผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราขอใช้เพลงนี้เป็นเพลงประจําจังหวัด
หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นกลยุทธ์เรียกลูกค้าที่ได้ผล ไปเล่นดนตรีที่จังหวัดไหน ก็แต่งเพลงเกี่ยวกับจังหวัดนั้น
ครั้งไปเล่นที่นครนายก ก็แต่งเพลง น้ำตกสาริกา พอรุ่งขึ้นก็ร้องเพลงตามที่สัญญา ต่อมาเพลงนี้ร้องโดย ชรินทร์ นันทนาคร
เมื่อเยือนถึงถิ่นที่เคยได้มา น้ำตกสาริกา นี้ยังตรึงตราใจมั่น จำได้ติดตา เห็นแล้วพาให้สุดตื้นตัน อกเอ๋ยยิ่งคิดยิ่งหวั่น นึกถึงวันมากับยอดชู้
ใต้เงาแสงแดดที่แผดและเผา วันหนึ่งสองเรา ได้มาเคล้าคลอกันอยู่ เสียงน้ำตกซ่า เหมือนเสียงเรียกหายอดพธู ให้รู้ว่าพี่คอยอยู่ แต่ผู้เดียวที่สาริกา
เมื่อไปแสดงที่สงขลาซึ่งกินเวลาสามวัน เขาแต่งเพลง คืนหนึ่งในสงขลา คืนหนึ่งเดือนหงาย ริมหาดทรายชายทะเลสงขลา (เพลงนี้ต่อมา สุเทพ วงศ์กําแหง ขับร้อง)
และเพลง แหลมสน (ต่อมาร้องโดย ชาญ เย็นแข)
แหลมสนเมื่อคราจวนค่ำ ตะวันคล้อยต่ำ ย่ำสนธยา ลมทะเลพราวพลิ้วมาต้องกายา พาหนาวเย็นจนสั่น แหลมสนนี้ยังตรึงใจ ก่อนเคยรักใคร่กับน้องจำมั่น เวลาจวนสายัณห์ ได้เจอะกันแทบทุกวันชื่นฉ่ำ
1
เมื่อไปแสดงที่ภูเก็ต ก็แต่งเพลง หาดสุรินทร์
ฟังเสียงคลื่นและลมครวญคร่ำ ริมฝั่งชายน้ำหาดสุรินทร์
ต่อมาเพลงนี้ ธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง
เพลง หัวหินไม่สิ้นทราย หัวหินคืนหนึ่งนั้น ติดตรึงใจฉัน จำไว้มั่นไม่อาจเลือน อยู่กันสองคนเป็นเพื่อน เปรียบเสมือนอยู่เมืองสวรรค์ แดนวิมานอันสุขสบาย
น้ำคำเธอบอกฉัน ใต้โคมสวรรค์ คืนนั้นเองบนหาดทราย ฝากคำสัญญาไม่คลาย หากหัวหินไม่สิ้นหมดทราย เธอมิคลายจากฉัน
ต่อมาเพลงนี้ร้องโดย สุเทพ วงศ์กำแหง
ชีวิตของ นคร มงคลายน คือชีวิตของคนมีความสุข และส่งต่อความสุขนั้นให้คนอื่น
3
เกิดมาเพื่อร้องรําทําเพลง
โฆษณา