7 มิ.ย. 2023 เวลา 03:00

เจาะลึก Drag ในประเทศไทย อาชีพแห่งศิลปะที่ไม่จำกัดเพศ

เดือนมิถุนายนถือว่าเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายของชาว LGBTQ+ ทาง ConNEXT จึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับอาชีพที่ถือว่าเป็นศิลปะความสวยงามและความหลากหลายทางเพศอย่าง Drag Queen ในประเทศไทย ซึ่งเป็นอาชีพที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก กับคุณ Too Calderone (โต แคลเดอโรน หรือ ทู แคลเดอโรน) Drag Queen มืออาชีพในประเทศไทย
🟥 What is “Drag”?
Drag คือ ศิลปะที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นชาวรักต่างเพศ (Heterosexual) หรือ ชาวรักร่วมเพศ (Homosexual) เพราะศิลปะไม่มีเพศและไร้ขีดจำกัด
Drag Queen เริ่มต้นจากการแสดงในโรงละครเพื่อความบันเทิงในสมัยก่อนที่ผู้ชายแต่งตัวและแสดงบทบาทผู้หญิง ปัจจุบันการแต่ง Drag กลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่บอกเล่าเรื่องราวหรือตัวตนผ่านเรือนร่าง เสื้อผ้า หน้า ผม และยังเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้อย่างมากมายจากหลายช่องทางอีกด้วย
Drag มีหลายสาย เช่น สายการแสดง สายประกวด ทำงานเบื้องหลัง นักร้อง หรือแม้แต่เกมเมอร์ เป็นต้น อาชีพนี้สามารถทำอะไรก็ได้เพียงแค่นำความชอบหรือความถนัดมาผสมผสานกับความรักที่มีต่อ Drag
🟥 Too Calderone คือใคร และได้แรงบันดาลใจในการทำอาชีพ Drag มาจากไหน? Drag คืออะไร
Too Calderone เป็น Drag Queen ที่เดบิวต์เป็น Drag เต็มตัวจากโปรเจกต์ #DRAGATHON 1 (2018) ของเพจ Yellow Channel โดย Calderone มาจากศิลปินคนโปรดอย่าง Lady Gaga ช่วง 2011 ที่เธอแต่งเป็น Drag King ชื่อว่า Jo Calderone ซึ่งเป็นการผสมกันระหว่างชื่อเล่นของตัวเองกับนามสกุลจาก Alter Ego หรืออีกตัวตนหนึ่งของ Lady Gaga
Too Calderone คือ Drag Queen สาย Beauty เราเป็นคนที่พยายามหาตัวตน Drag ของเรามานานหลายปี เราเคยแต่งหลายแนวแต่สุดท้ายแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เราแค่อยากทำอะไรที่ทำให้เรารู้สึกสวย แพง และสบายใจ
แรงบันดาลใจในการแต่ง Drag ของเรามาจากการดูรายการ Rupaul’s Drag Race เรารู้สึกอยากทำแบบนั้น อีกทั้งเมื่อก่อนเคยแต่งตัวเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ แต่เมื่อได้เห็นพี่ไจ๋ ซีร่า (@siravariety) Drag Queen ชื่อดังของไทย เลยทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราอยากเป็นแบบเขา เราอยากมีความเป็นตัวแม่ จึงเป็นเหมือนจุดประกายที่ทำให้อยากแต่งตัวเวอร์ๆ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราเป็น Drag Queen จนถึงทุกวันนี้
🟥 Drag VS สถาบันครอบครัว
เริ่มแรกพ่อแม่ไม่สนับสนุนเราเลย เคยทะเลาะกับครอบครัวจนทำร้ายตัวเอง ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรทำตาม สำหรับเราสถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดสำหรับการที่คนคนหนึ่งจะเป็นมนุษย์ได้ แม่เคยพูดคำหนึ่งที่ทำให้เราเจ็บช้ำมากและการที่เราโดนทำร้ายด้วยคำพูดจากครอบครัวจึงทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ เราไม่อยากทำอะไรอีกเลย
แต่แล้ววันหนึ่งแม่ก็เดินเข้ามาหาเราแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร แม่ยอมรับได้” หลังจากนั้น เราก็รู้สึกเหมือนว่าเราปลดล็อคทุกอย่าง ทุกวันนี้พ่อกับแม่เป็นคนพาเราไปออกงาน เป็นคนช่วยแต่งตัว ช่วยยัดสะโพก ช่วยติดวิก
กุญแจสำคัญในการถูกยอมรับการครอบครัว คือ การเปิดอกพูดคุย
เราเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับครอบครัว แต่บางครั้งคนเป็นพ่อเป็นแม่เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นอะไร เราแค่ต้องพูดออกมา รอบแรกอาจจะยอมรับไม่ได้ แต่ถ้าผ่านไปเรื่อยๆ เขาก็ต้องยอมรับได้อยู่แล้ว เพราะเรายังเป็นลูกเขาเหมือนเดิมไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เรารู้สึกว่า ครอบครัวคือด่านสุดท้ายของการเป็น LGBTQ+ ถ้าครอบครัวเรายอมรับได้ เราไม่ต้องไปสนใจใครเลย ตอนนี้รู้สึกภูมิใจในตัวเอง รักตัวเองและครอบครัวมาก
🟥 เวลาแต่ง Drag ออกไปที่สาธารณะ เราไม่เคยรู้สึกระแวงหรือหวาดกกลัวว่าจะโดนดูถูกหรือเหยียดเพศ
เราไม่สใจความคิดของใคร สนใจแค่คำพูดแง่บวกเท่านั้น เพราะถ้าเรามัวแต่เก็บคำพูดของทุกคนมาใส่ใจ เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตของเราจริงๆ ฉะนั้น เวลาแต่ง Drag เราจะสนุกและมั่นใจอย่างมีขอบเขต
การทำอาชีพ Drag Queen ช่วยให้เราสามารถแสดงออกในสิ่งที่โดยปกติแล้วเราไม่ได้ทำ
การแต่ง Drag ทำการแสดงทำให้เราสามารถเล่นสนุกกับคนดูได้ สำหรับเราการแต่ง Drag สามารถทำได้หลายอย่างแบบที่ไม่มีขีดจำกัดว่าเราต้องทำอะไรหรือแบบไหน เรารู้สึกว่าแค่อยากทำในสิ่งที่เราต้องการซึ่งตอนแต่งตัวเป็นผู้ชายไม่ได้ทำ
🟥 ข้อดีและข้อเสียของอาชีพ Drag ในประเทศไทย
สำหรับเราการเป็น Drag Queen ทำให้เรางานเยอะขึ้น เวลาคนเห็นศิลปะการแต่ง Drag และความสามารถของเรา เขาชอบ เขาก็จ้างงานเรา เช่น จ้างทำผม ทำวิก แต่งหน้า ส่วนข้อเสียจากประสบการณ์ที่เราเจอมา คือ มักจะโดน Drag Queen ด้วยกันดูถูก เช่น เธอแต่งหน้าไม่สวย เธอลบคิ้วไม่เนียน วิกไม่สวย ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่น่ารักเลย เราควรจะให้พลังงานบวกกันมากกว่า
🟥 อยากให้คนไทยเปิดใจกับอาชีพ Drag มากขึ้นในอนาคต
เราคิดว่าสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ดีอยู่แล้ว แต่เราแค่อยากให้ทุกคนเปิดใจกับคำว่า Drag มากขึ้น ในความเป็นจริง Drag สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ในรายการ Rupaul’s Drag Race มี Drag Queen ได้ไปเดินแบบ ขึ้นปกนิตยสาร เป็นนักข่าวและอีกหลายๆ อย่างที่มากกว่าการเป็นนางโชว์ ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และกระบวนการมากมายจนกว่าจะมาเป็น Drag
ถ้าอาชีพนี้ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับมากกว่านี้ในเมืองไทยจะเป็นอะไรที่ดีมาก เวลาพูดถึง Drag Queen เราอยากให้คนไทยนึกถึงคนที่มีความสามารถ งานละเอียด และความเป็น Perfectionist เพราะคนไทยฝืมือไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่แค่ว่าช่องทางสำหรับ Drag ในประเทศไทยยังไม่มากพอ
🟥 การร่วมงาน Rainbow Runway for Equality ที่ Central World ทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่สนับสนุน LGBTQ+ Community
Drag
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเข้าร่วมเดิน Rainbow Runway for Equality สิ่งที่ได้จากงานนี้ คือ ความร้อนและความเอือด! คนไปร่วมงานเยอะมาก รวมถึงดารานักแสดงด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Community นี้อบอุ่นมากและมีคนที่สนับสนุนพวกเราเยอะมากเช่นกัน
🟥 สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นกับ LGBTQ+ Community ของประเทศไทยในอนาคต คือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม
เราอยากเห็นกฎหมายสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้น เพราะชายจริงหญิงแท้สามารถเซ็นเอกสารสำคัญต่างๆ ได้ แล้วพวกเราชาว LGBTQ+ ทำไมถึงทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราก็เป็นคนเหมือนกัน เราเสียภาษีเหมือนกันแต่ไม่มีกฎหมายอะไรมารองรับเรา เราก็คิดเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร จนตอนนี้เราก็ยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้รับสิทธิตรงนี้
อยากบอกเด็กๆ คนรุ่นใหม่ หรือใครก็ตามที่อยากก้าวเข้าสู่วงการ Drag ว่า ถ้าอยากทำก็เริ่มเลย!
เริ่มเลย! ไม่ต้องกลัวความผิดพลาด เพราะไม่มีใครทำได้สมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรก จงฝึกไปเรื่อยๆ ที่เรารู้สึกว่าเราช้าเพราะว่าเราไม่เริ่มสักที ฉะนั้น เพียงแค่เริ่มทำนั่นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเกิดการพัฒนา
🟥 จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของตน
เราเคยไปแคสต์ Drag Race Thailand ถึง 2 ครั้งแต่ไม่ผ่านเข้ารอบ เราเข้าใจว่าเพราะอะไรเราถึงไม่ผ่าน เราไม่โทษใครนอกจากตัวเอง เพราะเราเตรียมตัวไม่ดีพอ แต่ข้อดีที่เราได้จากตรงนี้ คือ เราผลักดันตัวเองมากขึ้น ฝึกแต่งหน้า ทำวิก ทำชุด ฝึกทุกอย่างที่เราเคยทำพลาด
เราเป็นคนที่เคยทำพลาดหลายครั้ง เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำพลาด เราเคยแสดงโชว์แล้วพลาด ซึ่งทำให้เราเฟลมากๆ จนทำให้อยากเลิกแต่ง Drag ไปเลย แต่เรายังไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ จึงนำโชว์เดิมมาทำซ้ำและแก้ไขในสิ่งที่เคยทำพลาดไป หลังจากจบการแสดงในวันนั้นเราได้รับคำชมจากคนดู ทำให้มีไฟมากขึ้น
🟥 คำแนะนำสำหรับเด็กๆ และคนรุ่นใหม่ใน LGBTQ+ Community ที่ยังกลัวหรือขาดความมั่นใจกับการเปิดเผยตัวตนของตัวเอง
อยากแนะนำว่า ไม่ต้องคิดอะไร คิดเพียงแค่ว่าเราเป็นคนคนหนึ่งบนโลกใบนี้ ทุกคนเท่าเทียมกัน เราแค่เป็นตัวเองและเป็นคนดี เพียงแค่นี้ทุกคนก็จะยอมรับในตัวเรา ไม่มีอะไรต้องคิดมาก การเป็น LGBTQ+ น่ารักจะตาย!
อ่านบทความได้ที่ : bit.ly/3P246rw
มาร่วม CONNEXT THE DOT ก้าวสู่โลกการทำงานอย่างมั่นใจไปด้วยกัน
——————————————————

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา