Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Sarawut
•
ติดตาม
7 มิ.ย. 2023 เวลา 03:45 • ความคิดเห็น
ภาพนี้บอกอะไรเราได้บ้าง ?
สมัยก่อนเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ผมเคยพบกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีลูกติด เธอหนีจากสามี มาอาศัยในหอพักห้องเล็กๆ ในจังหวัดเชียงราย เพราะสามีติดยาเสพติดและมีพฤติกรรมรุนแรงทำร้ายร่างกาย
เธอไม่มีงานประจำทำ แต่อาศัยรับจ้างทั่วไป เช่นรับจ้างทำความสะอาดบ้านเป็นต้น เพื่อหาเงินจ่ายค่าห้องและส่งลูกเรียน เธอมีร่างกายผอมมาก เพราะรายได้ไม่ค่อยดี บวกกับต้องอดอาหารเพื่อซื้ออาหารให้ลูกกิน
ผมตัดสินใจ ไปหางานทำที่จังหวัดเชียงราย ตอนนั้นผมได้งานเป็น PC น้ำยาเดทตอล ซึ่งจะต้องเดินทางดูแลสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งตอนนั้นผมมีรายได้จากการทำงานประจำเดือนละเกือบ 20,000 บาทและเพิ่มขึ้นทุกปีจนขึ้นมา 20,000 นิดๆ
1
ผมตัดสินใจมาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น โดยการช่วยจ่ายค่าหอพัก และหาความรู้ในการเปิดร้านหมูปิ้งใน YouTube ผมลองผิดลองถูกกับแฟนของผม ผมก็เลยลงทุนซื้อวัตถุดิบเพื่อที่เธอจะได้มีความรู้ในการประกอบอาชีพ ในช่วงนั้นที่เธอยังไม่มีรายได้ ผมก็จะช่วยเหลือค่าเล่าเรียนของลูกสาวเธอ และจ่ายค่าห้องไปพลางๆ
ช่วงที่อยู่ด้วยกัน เธอค่อนข้างสงสัยในตัวผมมากในหลายๆเรื่อง เช่น ผมมักจะสอนลูกของเธอว่า พ่อของหนูมีคนเดียวนะ ไม่ว่าพ่อจะเป็นยังไง หนูต้องรักพ่อนะคะ เธอพยายามให้ลูกเรียกผมว่าพ่อ แต่ผมไม่อนุญาต เธอถามผมว่าเพราะอะไร ผมให้คำตอบว่า พ่อของลูกต้องมีคนเดียวและเขาต้องยอมรับความจริงให้ได้ เธอเริ่มทะเลาะกับผมแม้แต่เรื่องsex เธอบอกผมว่าไม่เคยเห็นใครที่ไหนที่อยู่ด้วยกัน แล้วเบื่อกันเร็วขนาดนี้ ทำไมเราถึงไม่มีอะไรกันเลย ทั้งๆที่เป็นแฟนกันแท้ๆ ผมให้คำตอบเธอว่า ผมเหนื่อย ผมทำงานหนัก ผมก็เลยอยากพักผ่อน
เวลาผ่านไป ร้านหมูปิ้งที่เราช่วยกันเปิด เริ่มขายดีขึ้น เธอเริ่มมีรายได้ที่ค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับผมแล้ว
บางวันผมเห็นเธอนั่งร้องไห้ที่ตรงบันได บอกว่าเธอไม่มีความสุขกับชีวิตของเราเลย บอกว่าผมไม่เหมือนเดิม ผมเปลี่ยนไป
และทะเลาะกันหนักขึ้น จากการที่ผมพยายามให้ลูกสาวโทรคุยกับพ่อของเขาบ่อยๆ แต่แฟนของผมก็พยายามกีดกัน ไม่ให้ลูกคุยกับพ่อ ผมให้คำตอบว่าผมไม่เห็นด้วย ไม่ว่าพ่อของเขาจะเป็นคนอย่างไร เราไม่มีสิทธิ์ไปกีดกัน หรือไปสอนให้เด็กไม่รักพ่อ แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นคนไม่ดีแค่ไหนก็ตาม เด็กจะต้องยอมรับความจริง แล้วอยู่กับสิ่งที่เขาเป็นโดยไม่หนีปัญหา แม้ว่าไม่ได้ผูกพันกับพ่อที่แท้จริง แต่เราควรสอนเด็กให้รู้จักสายเลือดตัวเอง ถึงแม้ในบั้นปลายเด็กจะไม่ได้รักพ่อก็ตาม
จากนั้นผมตัดสินใจแยกกันอยู่ โดยที่ผมไปเช่าห้องอีกที่หนึ่ง ในช่วงนั้นหากมีอะไรขาดเหลือบกพร่อง ผมก็จะช่วยเหลือบางครั้ง ในขณะที่ร้านหมูปิ้งยังไม่อยู่ตัวเท่าไหร่ ประมาณ 3-4 เดือน
ช่วงหลังแฟนผมเก็บเงินได้มาก ก็เลยย้ายที่อยู่ ไปเช่าตึกแถว เปิดร้านขายส้มตำหมูปิ้งไก่ย่าง และตอนที่โควิดระบาดก็สมัครขายทางเดลิเวอรี่ เธอมีเงินเก็บ และซื้อรถมอเตอร์ไซค์มือสอง scoopy i ไว้ขับส่งลูกไปโรงเรียน แล้วก็สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องมีผมอีกแล้ว
เธอมีครอบครัวใหม่ เป็นคนที่ดีกว่าผมมาก จากนั้นผมตัดสินใจทำงานต่อ1-2 ปี แล้วผมก็ลาออกจากงานกลับบ้านที่เชียงใหม่
ปัจจุบันผมอยู่บ้านว่างงาน ทำงานเล็กๆน้อยๆไม่ได้ร่ำรวยอะไร และผมไม่อยากมีครอบครัว ผมอยู่แบบนี้ก็สบายใจดี มันเบากายเบาใจบอกไม่ถูก รู้สึกมีความสุขที่สุดที่เป็นแบบนี้
มองย้อนกลับไป สิ่งที่ผมทำ ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สามารถช่วยชีวิตใครคนหนึ่งได้ แม้ว่าช่วงชีวิตหนึ่ง ผมจะทำได้แค่ครั้งเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุด
ผมไม่อาจให้เด็กเรียกผมว่าพ่อได้ เพราะผมไม่ใช่พ่อที่ดี และผมอยากให้เด็กรู้ความจริงว่าใครคือพ่อของหนู ผมไม่อยากมีsexกับแฟนของผม เพราะผมคิดถึงหัวใจของคนที่เป็นพ่อของเด็ก คงไม่มีผู้ชายคนไหนที่อยากให้แฟนของตัวเองไปมีsexกับผู้ชายคนอื่น และผมรู้ดีว่า ผมคงอยู่ตรงนี้อีกไม่นาน ก็เลยไม่อยากเหยียบย่ำดอกไม้ ก็เลยพยายามรักษาไว้เพื่อให้คนอื่นที่คู่ควรได้ครอบครอง
2
แม้ว่าช่วงที่จากกัน เธอจะเศร้าสลดเสียใจและลูกสาวเธอก็มักจะถามบ่อยๆว่า น้าออมไปไหนอ่ะแม่ ทำไมถึงไม่มา แม้ว่ามันจะมีสิ่งที่น่าเศร้าอยู่บ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ปัจจุบันเธอมีครอบครัวที่ดี
ลูกสาวก็เริ่มเติบโตแล้ว
เธอยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
อย่างสง่างาม
และผมก็ดีใจมาก
แนวคิด
ความคิดเห็น
ปรัชญา
1 บันทึก
21
3
3
1
21
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย