7 มิ.ย. 2023 เวลา 06:52 • ประวัติศาสตร์

กบฏหลี่จื้อเฉิงบุกพระราชวังต้องห้าม สิ้นสุดราชวงศ์หมิง ตอน 2/3

หลังจาก "หยวนฉงฮ่วน" แม่ทัพคนสำคัญที่เป็นเหมือนผนังทองแดงกำแพงเหล็กของราชวงศ์หมิง เสียท่ากองทัพแมนจู จนถูกมองว่าไม่ภักดี
ที่สุดเขาถูกประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยมด้วยวิธี “หลิงฉือ” หรือ การลงทัณฑ์ด้วยการเฉือนเนื้อ 1,000 ครั้ง
“งานทำชั่วชีวิต ว่างเปล่า
สำเร็จครึ่งชีวา เพียงฝัน
สิ้นชีวีไป มิไร้ขุนพล
ภักดีมั่นคง ปกป้อง เหลียวตง”
หยวนฉงฮ่วน ร่ายกวีก่อนตาย
หลังจากการเสียชีวิตของหยวนฉงฮ่วน ผ่านไป 100 ปี จักรพรรดิแมนจู นามว่า จักรพรรดิชิงเกาจง (เฉียงหลง) ซาบซึ้งตระหนักถึงความภักดี ประกาศเกียรติคุณงามความดี ทั้งที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านบรรบุรุษของพระองค์
โดยให้ยุติการประฌามหยวนฉงฮ่วน และพยายามตามหาทายาทของหยวนฉงฮ่วน เพื่อปูนบำเหน็จ แต่ก็ไม่พบทายาทของเขาอีกเลย
กลับมาที่การล้มล้างราชวงศ์หมิง
ในเวลานั้น มีอู๋ซานกุ๋ย เป็นแม่ทัพที่ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อปกป้องซานไห่กวน ซึ่งเป็นปราการสำคัญของต้าหมิงในการป้องกันอารยชนจากตอนเหนือ อย่างแมนจู
แม้เขาจะได้รับการทาบทามจากแมนจู ให้มาสวามิภักดิ์ต่อต้าชิงหลายครั้ง
แต่อู๋ซานกุ๋ยก็ไม่หวั่นไหวต่อลาภยศ สรรเสริญที่ฝ่ายแมนจูเสนอให้
ยังคงรักษาด่าน เพื่อปกป้องมาตุภูมิที่ไร้เสถียรภาพเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นนอกจากราชสำนักต้าชิง
อีกหนึ่งภัยคุกคามของราชวงศ์หมิง คือ ภัยคุกคามในประเทศ ทั้งความยากจน การฉ้อราษฎร์บังหลวง โรคระบาด และ กบฎชาวนาในหลายพื้นที่
กองกำลังที่แข็งแกร่งสุดในเวลานั้น คือ กองกำลังจากกบฏซานซี นำโดยหลี่จื้อเฉิง ซึ่งไม่พอใจราชสำนักมาตั้งแต่เด็ก จึงก่อกบฎมาเรื่อยๆ จนสามารถประชิดกรุงปักกิ่ง
ปัญหาของราชสำนักในเวลานั้น คือ ไม่รู้จะโยกกำลังพลอย่างไร เพราะเจอทั้งฝั่งแมนจู กบฏชาวนา และ กบฏจื้อเฉิง
ยิ่งในเวลานั้นหงเฉิงโฉว แม่ทัพคนสำคัญที่เดิมเป็นผู้บังคับบัญชาของอู๋ซานกุ้ยก็ไปสวามิภักดิ์แมนจูแล้ว
แต่แล้วท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังทวีความดุเดือด ก็เหมือนได้พักยก
เมื่อจักรพรรดิชิงไท่จงสวรรคตในปี 1643
ด้วยความที่จักรพรรดิชิงไท่จงไม่ได้วางตัวผู้สืบทอดราชบัลลังก์ไว้ ราชสำนักต้าชิงจึงเกิดสูญญากาศทางอำนาจ ต้องหาผู้นำใหม่
แคนดิเดตคนสำคัญ คือ ไต้ซ่าน เป็นพี่ชายของจักรพรรดิชิงไท่จงที่เพิ่งสวรรคต
เป็นโอรสของปฐมจักรพรรดิหนูเอ่อร์ฮาชื่อ ที่อาวุโสสุด
อีกสองคน คือน้องชายของจักรพรรดิชิงไท่จง คือ ตัวเอ๋อกุ่น และตัวตั๋ว
สองพระองค์นี้เป็นโอรสองค์ที่ 14 และ 15 ของปฐมจักรพรรดิหนูเอ่อร์ฮาชื่อ
อีกคนคือ หาวเก๋อ เป็นโอรสองค์โตของจักรพรรดิชิงไท่จง
ในตอนนั้นเป็นช่วงเกมการเมือง เพราะแม้ตัวเอ๋อกุ่น จะถูกทาบทามให้ขึ้นครองบัลลังก์ แต่ก็ปฏิเสธบอกว่าตำแหน่งนี้ควรเป็นของโอรสจักรพรรดิชิงไท่จง
แต่แทนที่จะมอบให้หาวเก๋อ ดันเสนอฝูหลิน โอรสที่เกิดจากองค์หญิงโป๋เออร์จี้จี้เทอ ปูมู่ปูไท่ (พระนางเสี้ยวจวงไมเฮา) ซึ่งตอนนั้นเพิ่ง 5 ชันษาขึ้นมาเป็นยุวจักรพรรดิ
โดยมีผู้สำเร็จราชการ 2 พระองค์ คือ ตัวเอ๋อกุ่น พระเจ้าอา และ จี๋เอ่อร์ฮาหลาง หลานลุงของจักรพรรดิหนูเอ่อร์ฮาชื่อ หรือพูดง่ายๆ คือ พ่อเป็นน้องของจักรพรรดิหนูเอ่อร์ฮาชื่อ
 
กลับมาที่ฝั่งกองกำลังกบฏหลี่จื้อเฉิง สถาปนาตัวเองเป็น “ฉ่วงอ๋อง” สามารถขยายอิทธิพล จนเข้าไปถึงพระราชวังต้องห้ามได้สำเร็จ ในวันที่ 24 เมษายน 1644
พระจักรพรรดิฉงเจินเลือกที่จะสังหารพระธิดาและนางสนมจนหมดสิ้น เพราะคิดว่า ถ้าไม่งั้นจะตกเป็นนางบำเรอของกองทัพกบฎ หลังจากนั้นก็ผูกพระศอสวรรคตในวันนั้น เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์หมิง
ในช่วงที่เข้าสู่ภาวะสูญญากาศทางการเมือง “ฉ่วงอ๋อง” สถาปนาราชวงศ์ต้าซุน พฤติกรรมของกองทัพต้าซุน ไม่ต่างจากโจร ปล้นได้ปล้น ฆ่าได้ฆ่า ข่มขืนได้ก็ข่มขืน ชาวปักกิ่งก็พยายามอพยพหนี
หลังจากทราบข่าวการล่มสลายของราชวงศ์หมิง
หงเฉิงโจว อดีตแม่ทัพ และฟ่านเหวินเฉิง อดีตขุนนางของต้าหมิง ให้คำแนะนำราชสำนักแมนจูให้ประกาศโองการแห่งฟ้าว่า “ต้าชิงคือผู้ที่สวรรค์บัญชาให้เข้าไปปราบกบฏในปักกิ่ง และสถาปนาให้แมนจูปกครองแผ่นดินจีนต่อไป”
แต่แน่นอนว่า การที่ฝ่ายแมนจู จะเข้าไปปักกิ่งได้ยังต้องพบกับด่านสำคัญด้านตะวันออกของกำแพงเมืองจีนที่ชื่อซานไห่กวน ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของอู๋ซานกุ้ย
คำถามคือ อู๋ซานกุ้ยจะตัดสินใจอย่างไร จะอยู่ปกป้องด่านซานไห่กวนโดยไม่รู้อนาคต?
จะยังคงจุดยืนว่าเป็นชาวฮั๋น ปกป้องด่านจากการรุกรานของคนนอก แต่ก็ต้อง
รับใช้กบฏที่โค่นราชวงศ์หมิง ที่อาจจะมองว่าเขาเป็นกากเดนจากราชวงศ์เดิม
หรือจะสวามิภักดิ์กับแมนจู ซึ่งเขาอาจจะถูกว่าเป็นคนขายชาติ แต่จะมียศฐาบันดาศักดิ์ในฐานะขุนนางบู๊แห่งราชสำนักต้าชิง ในยุคบุกเบิกแผ่นดิน
ในเวลานั้น หลี่จื้อเฉิง ส่งคนไปเจรจากับอู๋ซานกุ้ย โดยควบคุม คนในครอบครัว 31 ชีวิตของเขาไว้ และบังคับให้พ่อของเขาเขียนจดหมายให้ลูกชายยอมจำนนต่อต้าซุน ร่วมกันต่อต้านแมนจูออกจากแผ่นดินหมิง
แล้วแม่ทัพอู๋ซานกุ้ยจะตัดสินใจอย่างไร ?
ติดตามได้ในตอนต่อไป
ที่มา : 8 Minute History EP.204
โฆษณา