8 มิ.ย. 2023 เวลา 08:00 • ประวัติศาสตร์

เริ่มต้นรุ่งอรุณของชาวแมนจู ภายใต้ราชวงศ์ชิง ตอน 3/3

ความเดิมตอนที่แล้ว อู๋ซานกุ้ยตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
ในขณะที่ตัวเองเป็นข้าแผ่นดินต้าหมิง ทำหน้าที่ปกป้องด่านซานไห่กวน แต่ราชวงศ์ของตัวเองกลับถูกโค่นล้มไปโดยกองกำลังของหลี่จื้อเฉิง หรือ ต้าซุน
ขณะเดียวกันตัวของเขาได้รับการรุมจีบจากต้าชิง ให้เปิดด่าน เพื่อให้กองทัพแมนจูบุกเข้ากรุงปักกิ่ง
ส่วนหลี่จื้อเฉิง ก็จับพ่อและครอบครัวของเขา 30 กว่าชีวิตเป็นตัวประกัน
ในระหว่างที่กำลังชั่งใจ เพราะด่านหนึ่งก็ไม่อยากทรยศแผ่นดินเกิด อีกด้านก็ไม่รู้ชะตาตัวเองว่ากลับเข้าปักกิ่งแล้วจะเป็นไง
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย และพลิกเกม เมื่อหลีจื้อเฉิง สั่งประหาร 31 ชีวิตในครอบครัวอู๋ซานกุ้ย
อู๋ซานกุ้ยตัดสินใจแปรพักตร์ เปิดด่านซานไห่กวน เพื่อจับมือกับกองทัพแมนจูในการเข้าปราบปรามกบฏหลี่จื้อเฉิงที่ปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ในเวลานั้น
ใช้เวลาไม่ถึงเดือน สามารถบดขยี้กองกำลังหลี่จื้อเฉิงได้อย่างง่ายดาย
พอรู้ว่าจะแพ้ ก่อนจะออกจากปักกิ่งหลี่จื้อเฉิงส่งให้ทหารปล้นข้าวของมีค่าจากพระราชวังปักกิ่ง และ บริเวณโดยรอบของกรุงปักกิ่ง เพื่อไปตั้งรกรากที่มณฑลซานซี ฐานที่มั่นเดิมต่อไป
กองทัพเคลื่อนเข้าสู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ในวันที่ 4 มิถุนายน 1644 และถือเป็น ‘จุดเริ่มต้นการปกครองแผ่นดินจีนของราชวงศ์ชิง ซึ่งปกครองนานถึง 267 ปี
จักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์ชิง คือ ยุวจักรพรรดิฝูหลิน หรือ จักรพรรดิซุ่นจื้อ ซึ่งขณะนั้นมีพระชมมายุ 6 พรรษา
ในเวลานั้นพวกแมนจูรู้ดีว่า ถ้าเขาเข้าเมืองมาแบบละมุนละม่อม ประนีประนอม ไม่ปล้มสะดม ข่มขืน ฆ่า จะทำให้ชาวฮั่นยอมรับง่ายกว่า
ดังนั้น ก้าวแรก ในการยาตราทัพเข้าปักกิ่ง และขึ้นปกครองราบรื่นกว่าที่คิด
หลังจากนั้นตัวเอ๋อกุ่น หนึ่งในผู้สำเร็จราชการ ​มีคำสั่งให้กองกำลัง 8 ธง ไล่ลาราชนิกูลของราชวงศ์หมิง ปราบกบฎหลี่จื้อเฉิง และกองกำลังฮั่นในส่วนอื่นๆ ทำให้ชาวฮั่นทั้งแผ่นดินต้องสยบให้แมนจู
ฟากกบฎหลี่จื้อเฉิงหลังจากหนีไปซีอาน มณฑลซานซี ก็ต้านทานกองกำลังต้าชิงได้ปีเศษก็แพ้ยับเยิน ปี 1645 ถูกสังหาร หรือ 1 ปี หลังแพ้ที่ปักกิ่ง
กลับมาที่อู๋ซานกุ้ย ได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋อง และแสดงฝีมือให้ราชวงศ์แมนจูต่อเนื่อง ด้วยการเดินตามนโยบายฮั่นปราบฮั่น ในที่สุดได้บรรดาศักดิ์ผิงซีอ๋อง ปกครองมณฑลยูนนาน และปราบปรามกองกำลังต้าหมิงเดิมรวมถึงราชนิกูล
เขาเป็นผู้สังหารหมิงหย่งลี่ ราชนิกูลที่อ้างสิทธิ์การเป็นจักรพรรดิต้าหมิง ต่อจากจักรพรรดิฉงเจิน จนสำเร็จ
ในปี 1662 เขาได้ปกครองมณฑลกุ้ยโจวด้วย แต่ถูกสั่งห้ามเข้าราชธานีที่ปักกิ่ง ต้องประจำอยู่ห่างไกลที่มณฑลยูนนาน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะที่ปักกิ่งอยู่ตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่าห่างไกลแบบทะแยงมุมแผ่นดินจีน
นอกจากนี้ ราชสำนักต้าชิง เก็บบุตรชายคนโตของอู๋ซานกุ้ยไว้เป็นตัวประกันที่ปักกิ่ง
เพื่อป้องกันการแข็งข้อ
7 ปีแรกของราชวงศ์ชิง คือ การทำให้ชาวฮั่นยอมรับศักราชใหม่
โดยราชสำนักมีมาตรการ ‘ไม่ตัดผมก็ต้องตัดหัว’ เพื่อให้ชาวฮั่นโกนผมด้านหน้าและไว้ผมเปียเหมือนกับชาวแมนจู
มาตรการนี้ เริ่มต้นที่หยางโจว​ มีการสังหารชาวฮั่นที่ต่อต้านแมนจูเป็นจำนวนหลักหมื่น
ในแง่การปกครอง ช่วงแรก ตัวเอ๋อกุ่น ผู้สำเร็จราชการแทนเป็นผู้นำในการปกครอง
ต่อมาเขาเสียชีวิตเพราะตกจากหลังม้าขณะล่าสัตว์ ในวัย 39 ปี
วันเดียวกันกับที่ตัวเอ๋อกุ่นตาย บรรดาผู้นำเหล่าทัพธงขาว ที่สนับสนุนตัวเอ๋อกุ่นอย่างอ๋าวป้ายจับตัวอาจี้เก๋อ อนุชาตัวเอ๋อกุ่น เพราะกลัวว่าจะมีการยึดอำนาจการสำเร็จราชการต่อ
ในเวลานั้นอ๋าวไป้ รู้ดีกว่า ต้าชิงเข้าสู่ยุคที่พระจักรพรรดิซุ่นจื้อ ต้องปกครองแผ่นดินด้วยตัวเอง
เช่นเดียวกับ จี๋เอ่อร์ฮาหลาง ที่เป็นผู้สำเร็จราชการอีกคน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีบทบาท เป็นแค่ไม้ประดับ ก็ระดมกำลังธงเหลือง ธงเหลืองขอบน้ำเงิน เข้าให้การสนับสนับการครองราชย์ของจักรพรรดิ์ซุ่นซุ่นจื้อ ในวัย 12 ชันษา
ซึ่งมีพระนางเสี้ยวจวงไทเฮา พระมารดา เป็นผู้คอยถวายคำแนะนำ พร้อมด้วยขุนศึกแมนจูรุ่นเก่า อย่างสั่วหนี ขุนศึกสามแผ่นดิน อ้าวป้าย ขุนศึกสองแผ่นดิน ร่วมบุกเบิกต้าชิง
ต่อมา พระจักรพรรดิซุ่นจื้อ สวรรคตในวัย 23 พรรษา ด้วยโรคฝีดาษ
โอรสของพระองค์ ขึ้นครองราชย์ในวัย 6 พรรษา เป็นพระเจ้าชิงซื่อจง (จักรพรรดิคังซี) ครองราชย์ 61 ปี และแผ่นดินจีนเป็นปึกแผ่นในยุคนี้
ในปี 1673 รัชสมัยคังซี พระองค์วางแผนการผนึกอำนาจด้วยการดึงอำนาจออกจากมือของสามฟ่านอ๋อง ซึ่งประกอบด้วยอู๋ซานกุ้ยและอีกสองแม่ทัพของต้าหมิงเดิม ที่แปรพักตร์มาช่วยต้าชิง จนได้เป็นฟ่านอ๋อง ปกครองรัฐบริวาร
แผนการของพระองค์นำไปสู่ความขัดแย้ง ที่สุดจักรพรรดิคังซี ส่งกองทัพไปปราบฟ่านอ๋องทั้งสามคน อู๋ซานกุ้ย พยายามต่อต้านราชสำนักชิงแต่ไร้ผล ที่สุด เสียชีวิตในปี 1681 ด้วยวัย 65 ปี
ปิดท้ายด้วยข้อมูลน่าสนใจ หนึ่งในบุคคลที่มีความสำคัญ คือ พระนางเสี้ยวจวงไทเฮา เพราะนอกจากพระองค์จะ ชุบเลี้ยงพระนัดดา หรือจักรพรรดิคังซี หลังพระโอรสสวรรคต และยังเป็นผู้วางรากฐานความมั่นคงให้ราชวงศ์แมนจูในยุคต้น
จนมีคำกล่าว่า “ราชวงศ์นี้นี้รุ่งก็เพราะไทเฮา ดับสูญก็เพราะไทเฮา
แน่นอนว่า หมายถึง ไทเฮาที่ทำให้ราชวงศ์รุ่ง ก็คือ พระนางเสี้ยวจวงไทเฮา
ส่วนที่ทำให้ราชวงศ์ดับสูญ ก็หมายถึงพระนางซูสีไทเฮา ช่วงปลายราชวงศ์ชิงที่เผชิญทั้งแรงกดดันของตะวันตก และสนิมที่กินเนื้อในของต้าชิง
ที่มา : 8 Minute History EP.205
โฆษณา