7 มิ.ย. 2023 เวลา 14:25 • ไลฟ์สไตล์

เทียบเมล็ดกาแฟ 2 สายพันธุ์ "Arabica vs Robusta"

ในโพสที่แล้วพวกเรา InfoStory พาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับกายวิภาคของเมล็ดกาแฟเบา ๆ กันไปแล้ว
แต่อีกสิ่งนึงที่เรามักจะสังเกตได้ต่างร้านกาแฟหรือเมนูกาแฟ ที่เค้าจะมีเขียนว่า เมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% หรืออย่างกาแฟกระป๋องเราก็จะคุ้นเคยกับกาแฟโรบัสต้า
ว่าแต่เจ้ากาแฟ 2 สายพันธุ์หลัก ๆ นี้ มันแตกต่างกันยังไงละ ?
ถ้างั้นในโพสนี้ พวกเราขอพาเพื่อน ๆ มารับชมกันเลยดีกว่า !
จากภาพอินโฟกราฟิก เพื่อน ๆ ก็จะคงพอจะเห็นความแตกต่างคร่าว ๆ กันไปแล้ว
จะเห็นได้ว่าความแตกต่างที่สำคัญนอกจากสายพันธุ์ของต้นกาแฟแล้ว ก็จะเป็นในเรื่องของความสูงของการปลูกต้นกาแฟเนอะ เลยทำให้แหล่งปลูกที่มีความโดดเด่นของเมล็ดกาแฟ 2 สายพันธุ์เลยจะค่อนข้างแตกต่างกันแบบกว้าง ๆ ไปเลย
🤔 เอ้ะ ! ว่าแต่… ทำไมระดับความสูงของพื้นที่เพาะปลูกมันถึงมีบทบาทสำคัญละ ?
เท่าที่พวกเราเข้าใจในแบบมือใหม่คือ กาแฟที่ปลูกในพื้นที่ที่สูง (เช่น สายพันธุ์อาราบิก้าปลูกในที่สูงเกิน 900 เมตร) ก็จะทำให้มีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น มีรสสัมผัสออกเปรี้ยว กลิ่นที่หลากหลาย
แต่ปริมาณคาเฟอีนอาจจะไม่ได้สูงเท่ากับกาแฟโรบัสต้า ที่นิยมปลูกในพื้นที่ที่ต่ำกว่า (โรบัสต้าจะมีปริมาณคาเฟอีนที่สูงกว่า 60% เลยย😲)
(เราเข้าใจว่าปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันต่อรสสัมผัสและกลิ่นของกาแฟ ก็จะเป็นเรื่องของสภาพดิน สภาพอากาศของแหล่งที่ปลูก ซึ่งมันก็จะสอดคล้องกันคือ พื้นที่ที่สูงกว่าจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่านั่นเอง)
💡🤓 สั้น ๆ กันสักนิดเกี่ยวกับเรื่องราวของเมล็ดกาแฟ
มนุษย์เราเรียนรู้การนำเมล็ดกาแฟที่อยู่ในผลเชอร์รีกาแฟมาใช้ในการบริโภคครั้งแรก ๆ เมื่อประมาณศตวรรษที่ 15 ในประเทศเยเมน 🇾🇪 ในสมัยแรก ๆ นั้นเค้าหยิบมาเคี้ยวกันเลย ไม่ต้องคั่วไม่ต้องบดอะไรทั้งนั้น
ภาพนี้คือ ไร่กาแฟจากประเทศเยเมนคร้าบ
จนกระทั่งนักบวชชาวเยเมน (ในศาสนาอิสลาม) เค้าก็จะได้คิดค้นวิธีการทำเจ้าเมล็ดกาแฟนี้ให้กลายเป็นเครื่องดื่ม โดยจุดประสงค์ที่นักบวชท่านนี้ต้องการคือ กาแฟช่วยทำให้ร่างกายตื่นเพื่อที่จะได้สวดมนต์ต่อและสามารถทำท่าสื่อสารกับพระเจ้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ฟุบหลับนั่นเอง
ก่อนที่กลุ่มพ่อค้าชาวอาหรับจะนำเจ้าเมล็ดกาแฟไปเผยแพร่ต่อในช่วงศตวรรษที่ 17 ให้กับชาวยุโรป และเริ่มมีการให้ความสนใจในสายพันธุ์และแหล่งกำเนิดของต้นกาแฟ
☕⛰ เมล็ดกาแฟอาราบิก้า (Coffea arabica) อย่างที่เพื่อน ๆ พอจะเห็นภาพกันว่าปลูกยากกว่า มีความหลากหลายเยอะม๊ากกก
และถึงแม้ว่าจะดูมีราคาที่ขยับสูงขึ้นมาหน่อย แต่เพื่อน ๆ อาจจะต้องแปลกใจกันสักเล็กน้อย เพราะว่าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าเนี่ย อาจเรียกได้ว่าเค้าเป็นกาแฟสายพันธุ์ที่ผู้คนบริโภคกันมากที่สุด (ประมาณ 70% ทั่วโลกเลย)
☕💐 ในขณะที่โรบัสต้า (เค้ามีชื่อว่า Coffea canephora นะ) ปลูกได้ไม่ยากเย็นเท่าอาราบิก้า ตัวต้นทนทานต่อโรคมากกว่า และตัวผลของเค้าก็จะให้ผลผลิตที่ค่อนข้างเยอะ
กาแฟชนิดนี้ก็จะมีจุดโดดเด่นสำคัญคือ ความบอดี้แน่นและรสสัมผัสเข้มข้น นิยมนำไปทำเป็นกาแฟพร้อมชง (instant coffee) และพร้อมดื่มบรรจุกระป๋อง บรรจุขวด ดื่มสะดวกรวดเร็ว
สำหรับสายอัดคาเฟอีนเพื่อปั่นงาน เราคิดว่ากาแฟกระป๋องแบบโรบัสต้า ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ (แถมราคาไม่แรงด้วย)
.
🤓 ว่าแต่… ใครเกิดมาก่อนกัน ?! (เหมือนถามไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน…แห่ะ ๆ)
👨‍💻 จากที่พวกเราอ่านมาจากหนังสือ The Little Coffee Know-It-All เค้าได้อ้างอิงว่า มนุษย์ได้ค้นพบกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามาก่อนอาราบิก้า
และมีความเป็นไปได้ว่า สายพันธุ์อาราบิก้าจะเป็นการพัฒนาการมาจากหนึ่งในกาแฟสายพันธุ์ Canephora หรือโรบัสตัาอีกด้วย (แต่เข้าใจเป็นสายพันธุ์โบราณโน่นนเลย)
🕵 ในขณะที่ถ้าค้นหาจากสื่อแหล่งอื่น ๆ เค้าก็จะเขียนกันว่า กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าถูดค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 17 ในขณะที่สายพันธุ์โรบัสต้า ถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 19-20
อันนี้ก็นานาจิตตังกันอีกเช่นเคย…(อารมณ์ว่า รู้แล้วก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรในชีวิตสักเท่าไรเนอะ 555🥲)
.
มองผ่าน ๆ เราอาจจะเข้าใจว่าเจ้ากาแฟเนี่ยมีแค่ 2 สายพันธุ์ แต่ในความจริงแล้ว เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า กาแฟเนี่ย มันมีมากถึง 124 สายพันธุ์เลยนะ 🤩🤩 ! (ที่นับอยู่ในสกุล Coffea)
อย่างเช่น สายพันธุ์เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) ที่มีต้นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา มีลักษณะคล้ายกับโรบัสต้า
และ สายพันธุ์ลิเบอริก้า (Liberica) ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไร มีต้นกำเนิดจากประเทศไลบีเรียและไอวอรีโคสต์ แต่เราคุ้น ๆ ว่าที่มาเลเซียเหมือนจะหากินได้เยอะแยะเลยละ
.
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
หนังสือ The Little Coffee Know-It-All เขียนโดย Shawn Steiman
หนังสือ ประวัติศาสตร์โลกใน 6 แก้ว เขียนโดย Tom Standage
โฆษณา