มื้อที่เห็นนี้ราคา2000เยน หรือประมาณ500บาท
ข้าพเจ้าจินตนาการมันจะเต็มไปด้วยความอลังการงานสร้างระดับมาสเตอร์พีซ สิ่งที่ได้มา
คือเต้าหู้แผ่นเย็นชืดชนิด ปลาย่างเค็มตัดรสด้วยมะนาว เต้าหูแผ่นต้ม ซุปผักบุ้งใส่เต้าหู้แผ่น และซุปหัวหอมสไลด์ ทีจะเห็นผักสดอยู่หนึ่งใบไม่แน่ใจว่ากินได้มั้ย และผักดองเค็ม ผักคลุกน้ำมันงาเป็นเครื่องเคียง เนื่องจากเมนูเป็นอาหารดั้งเดิมของคนที่นี่ มีเพียงรูปวาดและภาษาญี่ปุนเกินคาดเดา ข้าพเจ้าจึงสุ่มชี้สั่งไป
..
ข้าพเจ้าไม่สามารถกินมูมมามด้วยความหิวได้ เนื่องจากจับตะเกียบยังหล่น ได้แต่บริกรรมหยิบหนอ ได้แล้วหนอ พิจารณาหนอ มันคืออิหยังวะ
ค่อยๆเคี้ยวหาความอร่อยมันอยู่ตรงไหน เพื่อจะได้มีกำลังใจในการกินคำต่อไป
..
แต่เมื่อกินนานๆก็รู้สึกอร่อยอย่างเย็นใจ ในลูกเล่นที่ไม่เข้ากัน และงงในรสชาติแบบญี่ปู้นญี่ปุ่น
..
กินมาหลากหลายเมนู ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเนื้อก็เป็นเนื้อไปเลยจนรู้สึกว่าพรุ่งนี้จะถ่ายออกมั้ย เซตไร้ผักก็หาวิญญาณเนื้อไม่ได้ เมนูเส้นก็เส้นเต็มที่ ทุกเมนูหาผักสดแนมไม่ค่อยมี คงจะมีแต่จะมีพิซซ่าญี่ปุ่นโอโคโนมิยากิ(Okonomiyaki) ที่ใส่ผกระหล่ำปลีหั่นฝอยเยอะอลังการ
..
ทำให้หวนคิดถึงผักไทยหลากชนิดที่แถมมากับลาบ ส้มตำ เราทิ้งกันอย่างบ้าคลั่ง
แต่เมื่ออยู่ที่ญี่ปุ่น ข้าพเจ้ากินซะเกลี้ยง เพราะราคาค่อนข้างสูง และมีผักเลือกให้กินไม่มากชนิด
ที่เห็นจนชินตา กระหล่ำปลี แครอท หัวไชเท้า และต้นหอม ทุกอย่างคือหั่นฝอย
..
ที่นั่นดินดีมากปลูกอะไรก็โต คุณภาพดี แต่พื้นที่เพาะปลูกแค่12-15%และส่วนใหญ่ใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าว และด้วยมาตรฐานสูงการคัดเลือกผักเข้าตลาดจคงมีเกณฑ์เยอะราคาจึงสูง ผักที่พิการไม่ได้ขนาดราว30-40% แม้รสชาติไม่ด้อยกว่าขึ้นห้างก็ถูกทิ้งที่จุดเกิดเหตุบางส่วนแปรรูปเป็นผักดองกลายเป็นเครื่องเคียงแทนผักสดให้เรากินนั่นเอง
..
เขาคงไม่ใช่ชอบผักดองแต่ผักสดมันแพงนี่ครับ😊