9 มิ.ย. 2023 เวลา 17:40 • ท่องเที่ยว
โตเกียว

Tokyo check! รีวิวเที่ยวโตเกียว 3 คืน 5 วัน

ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวที่มีการแพลนไว้ตั้งแต่ปี 2021 แต่ดันมีโควิดขึ้นมาเลยถูกเลื่อนมาเป็นปี 2023 แทน โตเกียวหรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ มหานครเกียวโต เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่โด่งดังของโลก ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลกเป็นอย่างมากและนี่คือจุดเริ่มต้นของฉันในโตเกียว
การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของฉัน รอบนี้ไปช่วงปลายเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่ซากุระเริ่มบานไปจนถึงบานเต็มที่ในโตเกียว อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ไม่ร้อนแต่ลมแรงสุดๆ จังหวะลมพัดคือหนาวมาก
☆ first day : วันแรกของเราเริ่มในวันที่ 26 มี.ค. เราตื่นเต้นมากเตรียมตัว เก็บกระเป๋าเรียบร้อยและเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 20.00 เพื่อทานข้าว รอเวลาโหลดกระเป๋า เราเอากระเป๋าไปแค่ใบใหญ่ใบเดียวเพื่อโหลดและ carry bag อีก 1 ใบสำหรับใส่เสื้อกันหนาวไว้ห่มบนเครื่องกับของจุกจิกติดตัว ฉันยืนรอโหลดกระเป๋านานมากจนไม่มีเวลาเดินเล่นในgateเลย เสียดายช็อกโกแลตที่ไม่ได้ซื้อสุดๆ โหลดกระเป๋าเสร็จก็ต้องรีบเดินไปขึ้นเครื่องเพราะไฟล์ทออกตอน 23.50 แค่นี้ก็กินเวลาไปหนึ่งวันแล้ว
♡ second day : เช้าวันที่สองเป็นช่วงที่ต้องเริ่มปรับตัวแล้ว พี่แอร์โฮสเตสมาปลุกให้กินข้าวตอนตีสาม t-t เป็นมื้อแรกของวัน ได้กินข้าวไก่เทอริยากิที่จองไว้ตั้งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากกินข้าวเสร็จไม่นานเครื่องก็บินเข้าน่านฟ้าญี่ปุ่นแล้ว โชคดีมากที่ได้นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้ายทำให้เห็นภูเขาฟูจิก่อนถึงสนามบินนาริตะ พอจัดการธุระที่สนามบินเสร็จก็ถึงเวลาเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ วันที่ไปถึงซากุระยังไม่ค่อยบานและรถติดมาก กินเวลาเกือบ3ชม.เพราะคนเข้าเมืองเยอะ ระหว่างทางก็นั่งดูข้างทางไปด้วย
D-2
วันแรกในญี่ปุ่นเริ่มจากการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ที่มีชื่อเสียงด้านน้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟ , ทะเลสาบอาชิ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวบนเรือโจรสลัดที่มีต้นแบบมาจากการ์ตูนเรื่อง One Piece ตอนอยู่บนดาดฟ้าเรือสามารถมองเห็นป่ารอบข้างและทะเลสาบสวยมาก แต่ลมแรงสุดๆหนาวมือมากหลังจากนั้นก็เดินทางสู่โกเทมบะ เอาท์เล็ต แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ในย่านนี้ มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้าและแบรนด์เนมต่างๆ เดินจนขาลากแต่มีมุมให้ถ่ายรูป พอช็อปปิ้งเสร็จก็กลับที่พัก มื้อเย็นวันนี้เป็นบุฟเฟ่ต์ขาปูพร้อมแช่ออนเซ็น
☆ third day : วันที่สองในญี่ปุ่น มีฝนตกเบาๆ อากาศเลยหนาวมาก ~5°C เรายืมร่มของโรงแรมไปเดินเล่นริมทะเลสาบหน้าโรงแรมและถ่ายรูปนิดหน่อยก่อนออกเดินทางไปถ่ายรูปบนภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 โชคดีที่หิมะยังละลายไม่หมดเลยได้ถ่ายรูปกับหิมะด้วย อากาศยังหนาวเหมือนเดิมพอถ่ายรูปเสร็จก็ไปที่หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก ที่หมู่บ้านนี้สวยมาก มีของพื้นบ้านขายและมีบ่อปลาตรงกลางหมู่บ้านที่มีเกิดจากหิมะบนยอดเขาละลายไหลผ่านภูเขาไฟฟูจิและผุดเป็นตาน้ำที่หมู่บ้านนี้ ชาวบ้านเชื่อว่าบ่อน้ำนี้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
D-3
หลังจากเดินซื้อของฝากที่หมู่บ้านเสร็จก็เป็นช่วงที่เราชอบที่สุดของวันนี้คือการชงชาญี่ปุ่นหรือ Sado ซึ่งมีขั้นตอนมากมาย ทั้งการชงชา การดื่มชา ตอนที่ฝนน้ำชาเมื่อยมือมากและลุ้นว่าชาเขียวจะขมมั้ย สรุปดื่มไปก็ขมนั่นแหละ55555555555555 ต้องรีบกินขนมตามเลย บริเวณที่เรียนชงชาติดริมทะเลสาบและดอกซากุระก็บานเยอะแล้ว วิวสวยมากๆ เราเลยอดไม่ได้ที่จะเดินเล่นถ่ายรูปและเดินทางเข้าโตเกียวไปยังโอไดบะ ซึ่งเป็นห้างที่มีชื่อเสียงเช่นกันเพราะมีหุ่นกันดั้มสูงเท่าตึกตั้งอยู่ เป็นจุดถ่ายรูปที่ผู้คนมามากมาย
นอกจากหุ่นกันดั้มหน้าห้างแล้วก็ยังมีสวนทิวลิปและต้นซากุระที่บานเต็มที่เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูป อากาศในโตเกียวช่วงปลายมีนาจะไม่หนาวเท่ายามานาชิ เดินเล่นถ่ายรูปได้สบายๆเลย ภายในห้างมีร้านค้ามากมายทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ตู้กดกาชาปอง ร้านโมเดลต่างๆและที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวคือร้านขายกันดั้มขนาดใหญ่ มีเล่าประวัติผู้คิดค้นกันดั้มแต่ละตัว ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันและวางขายกันดั้มหลายรุ่น หลังจากเดินซื้อของแล้วก็จัดการเช็คอินที่โรงแรมและเดินทางไปย่านชิบูย่าแหล่งช็อปปิ้งอีกแหล่งที่โด่งดังมาก
การเดินทางไปชิบูย่าไม่ใช่เรื่องยากเลยแค่ขึ้นรถไฟลงสถานีชิบูย่าก็จะเจอกับผู้คนมากมายที่มาเดินช็อปปิ้ง ตอนกลางคืนอากาศลดลงจากตอนกลางวันแต่เป็นอากาศหนาวที่ทนได้ ช่วงที่เราเดินเล่นจะเจอศิลปินชาวญี่ปุ่นเดินถือกระดานวาดรูปหลายคนเลย เจอวัยรุ่นที่มาโยนโบว์ลิ่งที่ห้างด้วย เราเดินเลือกร้านอาหารจนมาเจอร้านทงคัตสึ เราสั่งเป็นทงคัตสึชีสซึ่งคนญี่ปุ่นให้เยอะมากๆๆไๆๆ กินไม่หมดเลย t-t หลังจากอิ่มแล้วก็เป็นเวลาที่ร้านต่างๆเริ่มปิดเราเลยตัดสินใจกลับไปถ่ายรูปซากุระหน้าโรงแรมแทน สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลยแหละ
♡ fourth day : วันนี้เราตื่นเช้ามากเพื่อเดินทางไป disney land สถานที่ยอดนิยมของคนทุกวัยที่มาญี่ปุ่น การเดินทางก็ง่ายเช่นกันแค่เปลี่ยนสายรถไฟมาลงที่ maihama ก็จะมีทางเชื่อมเดินมา พอได้เข้าไปข้างในดิสนีย์แลนด์ ไม่รู้สึกผิดหวังเลย ข้างในสวยมากๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก แบ่งเป็นโซนต่างๆใหญ่สุดๆ + กับวันนั้นไม่มีแดดเลยทำให้เดินเที่ยวได้สบายๆ ไม่ร้อนมาก เราตัดใจไม่เล่นเครื่องเล่นหลายๆอย่างที่อยากเล่นเพราะคนเยอะมากเลยเดินถ่ายรูปแทน แต่ก็มีได้ขึ้นรถไฟทัวร์ดิสนีย์ ล่องเรือสำราญและซื้อของลิขสิทธิ์มากมาย
D-4
เราซื้อตุ๊กตาสติชและไปถ่ายรูปที่โซนของสติชเพราะเป็นดิสนีย์เรื่องโปรดที่สุด ตอนแรกตั้งใจจะซื้อหมวกของไมค์และกระเป๋ากรีนแมนเพราะเป็นตัวละครที่ชอบรองลงมาแต่ร้านบอกว่าหมดแล้วเลยซื้อเข็มกลัดมาแทน พอค่ำๆก็กินข้าวและเดินเที่ยวดูหอนาฬิกา เราตั้งใจว่าจะอยู่จนถึงเวลาพาเหรดรอบดึกแต่ฝนดันตกเลยถูกยกเลิก เสียดายมากๆ ฝนตกหนักมากจนต้องรีบเดินขึ้นรถไฟกลับโรงแรมไปสระผม แต่แค่นี้ก็รู้สึกคุ้มมากๆ เพราะได้ไปกินโมจิเอเลี่ยนที่อยากกินมานาน หวานๆหนึบๆ แล้วก็ชูโรสไส้ช็อกโกแลตกรอบๆ แต่จืดไปนิดไม่ค่อยหวานเหมือนกินแบบดิป
☆ last day : วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวญี่ปุ่นเสียดายมากที่กลับไฟล์ทเช้า เลยทำได้แค่เดินถ่ายรูปหน้าโรงแรมแล้วต้องไปสนามบิน
ขากลับคนเยอะมากอาจจะเพราะไฟล์ทเช้าและเป็นวันสุดสัปดาห์คนเลยกลับประเทศกัน ขากลับก็โชคดีอีกแล้วเพราะได้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวา เครื่องขึ้นแค่15นาทีก็เห็นภูเขาไฟฟูจิจิ๋วๆอีกรอบก่อนกลับไทย เครื่องบินมาถึงสุวรรณภูมิตอน 14.30 ก็เป็นอันจบทริปโตเกียวรอบนี้ พอถึงไทยแล้วร้อนมาก ถอดโค้ทด่วน! เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลยตอนไปเที่ยว เรามีความสุขมากๆ หวังว่าจะได้กลับไปอีกในอนาคต
D-5
26 - 30 มี.ค. 2023
instagram : imabluemoonzxt
โฆษณา