"ประสบการณ์ของผม การรับรู้และสู้กับมะเร็งตับ"
มะเร็งตับเป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ที่ประกอบตับเริ่มเจริญเติบโตอย่างไม่ปกติและก่อให้เกิดเนื้องอกในตับ มะเร็งตับสามารถเป็นมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งตับเซลล์เต็มที่ (Hepatocellular carcinoma) ที่เกิดจากเซลล์ตับ และมะเร็งตับเนื้อเยื่อ (Cholangiocarcinoma) ที่เกิดจากท่อน้ำดีในตับ
มะเร็งตับเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง เนื่องจากมักพบเมื่ออาการแสดงออกมาช้าหรือยังไม่มีอาการเลยในระยะเริ่มต้น ในระยะท้ายของโรค เมื่อมะเร็งตับแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของตับ หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่น เนื้อเยื่อปอดหรือกระเพาะอาหาร สามารถทำให้มีอาการแสดงที่เกิดขึ้น
อาการของมะเร็งตับอาจแปรปรวนไปตามระยะของโรคและส่วนที่ถูกกระทบ อาการที่พบบ่อยได้แก่
1.อาการท้องเสียหรือปัสสาวะสีเหลือง
2.อาการท้องบวมหรือปวดท้อง
2.เบื่ออาหารหรือเกิดความเจ็บแน่นในช่องท้อง
3.อ่อนเพลียหรือน้ำหนักลดลงอย่างไม่อธิบายได้
4.ริมฝีปากหรือผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (สีเจือจาง)
ในการวินิจฉัยโรคมะเร็งตับของผม เริ่มต้นที่ผมรับรู้คือ ผมไปบริจากเลือดตอนเป็นทหารเกณฑ์ เเล้วพบว่าในเลือดของผมพบเชื่อ (Hepatitis B virus, HBV) พอผมเริ่มรู้ว่าตัวเองมีเชื้อก็เริ่มศึกษาโรคนี้มาตลอด พอปลดทหารมาผมก็คิดว่าอยากจะเริ่มรับการรักษา เลยเข้าไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลรัฐในจังหวัด พอพบคุณหมอเเล้วก็ได้รับการนัดหมายเพื่อการตรวจเพิ่มเติม ก็ตรวจค่าเลือดค่าตับทั่วไป 3เดือนเจาะเลือดตรวจทีนึง ค่าเลือดค่าตับผมก็ปกติทุกอย่าง
พอผมอายุ27 คุณหมอบอกเจ้าตัวเชื้อ (Hepatitis B virus, HBV)มันมีจำนวนไม่มากคุณหมอเลยให้ยามากินซึ่งคุณหมอบอกว่ากินซัก1ปีเชื้อก็น่าจะหมดเเล้ว ผมก็กินมาโดยตลอด ผมจะกินตอน3ทุ่ม ก่อนนอน ทุกวัน ในความคิดผมมันคือยาคุมจำนวนไวรัส ผมก็ใช้ชีวิตเรื่อยมาจนอายุ30 ผมได้ไปหาคุณหมอตามปกติทุกครั้ง แต่รอบนี้มันไม่ปกติเหมือนทุกรอบ ค่าตับของผม SGOT- SGPTมันขึ้นมา 100+ ซึ่งคุณหมอก็บอกผมให้ออกกำลังกาย ซึ่งปกติผมก็ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เเล้ว วิ่ง+บอดี้เวท สลับวันเว้นวันพอครบ3เดือนรอบนี้ผมก็มาพบคุณหมอตามปกติ
ซึ่งตอนนี้ ร่างกายผมก็แข็งแรงปกติทุกอย่าง ตอนเช้าผมก็เจาะเลือดตามปกติบ่ายพบคุณหมอ พอได้เจอคุณหมอ คุณหมอบอกว่ารอบนี้ค่าตับผมสูงมาก SGOT-SGPT 316 ซึ่งค่า SGOT และ SGPT คนปกติทั่วไปจะต้องไม่ถึง 40 IU/L เเล้วก็ค่า AFP ผมขึ้นมา 18 คนปกติทั่วไปจะไม่เกิน 0.0-5.8 IU/mL หลังจากนี้คุณหมอก็ได้นัดผมอีกรอบ คือการทำ CT SCAN เพื่อตรวจหาความผิดปกติในตับและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายผลการตรวจจากหลายวิธีนี้ เป็นที่ร้ายแรงเมื่อผมได้รับข้อมูลจากคุณหมอว่าผลตรวจพบมีความสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งตับ
ในที่สุดผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับในระยะที่ยังไม่มีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ขนาดก้อนมะเร็ง [8.9 cm ] การวินิจฉัยโรคมะเร็งตับให้ถูกต้องมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลต่อวิธีการรักษา ผมได้รับคำแนะนำจากคุณหมอเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาที่เหมาะสมและสภาพทางร่างกายของผม การรักษาของผมนั้นคือการทำ TACE หรือ TACE (Transarterial Chemoembolization) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษามะเร็งตับ โดยกระบวนการนี้ใช้การผสมผสานระหว่างการฉีดยาเคมีตรงไปยังหลอดเลือด
ที่ไปเลี้ยงเนื้องอกมะเร็งตับ พร้อมกับการปิดกั้นหลอดเลือดเพื่อยับยั้งการไหลเวียนของเลือดเพื่อยับยั้งการไหลเวียนของเลือดที่ไปยังเนื้องอก นั่นเป็นเพื่อให้ยาเคมีที่ฉีดเข้าไปสามารถสัมผัสและทำงานกับเนื้องอกมะเร็งตับได้อย่างมากที่สุดหลังจากนั้นคุณหมอก็นัดผมมาแอดมิทที่โรงพยาบาลการรักษาผมต้องนอนอยู่โรงพยาบาล2วัน1คืน วันแรกพยาบาลก็มาเปิดเข็มที่แขน เเล้วก็ให้ผมงดอาหารงดน้ำหลังเที่ยงคืนพอตอนเช้าก็ส่งผมเข้าห้องเอ็กซเรย์หลอดเลือด
เข้าไปยังไม่ทันตั้งหลักเลยคุณหมอก็ให้ผมนอนบนเตียงเเล้วก็ใช้เครื่องเครื่องอัลตราซาวด์หาตรงที่ก้อนมะเร็งอยู่เเล้วก็ใช้เข็มทิ่มลงไป(เข็มนี้เป็นอุปกรณ์ตรวจชิ้นเนื้อ)พอเข็มลงไปถึงเนื้อตับ เจ็บขึ้นสมองเลยคับ คุณหมอทำการเอาชิ้นเนื้อในก้อนมะเร็งตับผมไปตรวจด้วย (ผลตรวจชิ้นเนื้อของผมคุณหมอบอกว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ ) หลังจากนั้นก็ทำ TACE ต่อ การส่งสารเคมี (Chemoembolization) ผมจะได้รับสารเคมีที่มีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งตับ การฉีดสารเคมีจะทำให้เซลล์มะเร็งตับที่อยู่ในบริเวณนั้นถูกทำลาย
พอหลังจากทำเสร็จผมก็ขึ้นมาพักบนตึกนอนอีก1คืนเช้าคุณหมอก็ให้กลับบ้าน เเล้วก็นัดดูผลใหม่อีก1เดือน มาทำ CT SCAN กับฟังผลการรักษา พอถึง1เดือนวันนัดผมเช้าผมก็เข้าห้อง CT SCAN บ่ายพบคุณหมอพอได้ฟังผลการรักษาจากคุณหมอก็คือ ยาจับก้อนยังไม่ค่อยดีแต่ก้อนยุบลง เหลือ 7.0CM ให้มาทำอีกรอบ2 คุณหมอก็นัดวันมาทำ Tace รอบ2 หลังจากทำรอบ2เสร็จถึงวันนัดฟังผลการรักษาผมก็มาตามปกติ ผลคือตัวยาจับกับก้อนมะเร็งดีมากประมาณ70% ค่า AFPผม จาก 18 ลดลงเหลือ 2.72 คนปกติทั่วไปจะไม่เกิน 0.0-5.8 IU/mL
ค่า SGOT และ SGPT ก็ลดลงจาก 316 เหลือ 61 แต่ผมไม่รู้ว่าก้อนมะเร็งมันยุบไปเท่าไหร่เพราะคุณหมอไม่บอก แต่คุณหมอบอกว่าก้อนมะเร็งน่าจะยุบไปเยอะเเล้ว เพราะดูจากค่า AFP คุณหมอเลยนัดมาทำ Tace รอบ3 การทำรอบ3นี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อรอฟังผลการรักษาเพราะยังไม่ถึงวันนัด ผมหวังว่าการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวของผมนี้จะให้ความหวังและคำปรึกษาให้กับผู้ที่อาจเผชิญหน้ากับโรคมะเร็งตับ
ผมได้เรียนรู้ถึงความเครียดและความกังวลในกระบวนการรักษา แต่ก็รู้สึกมั่นใจในทางที่ผมกำลังเดินในระหว่างการรักษาผมได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนที่รัก ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยวและมีแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับโรคมะเร็งตับกรุณาอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์และการรับการดูแลทางการแพทย์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับการรับรู้สิ่งที่เราสามารถทำเพื่อส่งเสริมสุขภาพของเราเอง ร่วมกับครอบครัวและผู้รักในชีวิตประจำวันเพื่อสนับสนุนและป้องกันโรคมะเร็งตับและโรคร้ายแรงอื่น ๆ
ในที่สุด ผมเชื่อว่าโรคมะเร็งตับอาจเป็นที่มีให้เกิดความรู้สึกคล้ายกันในผู้คนหลาย ๆ คนและความหวังยังคงอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณหาความสงบและความแข็งแรงในการต่อสู้กับมะเร็งตับและเรื่องราวของคุณ ขอให้คุณสู้ต่อไปและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นที่อาจต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คล้ายกัน ขอให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้เดินทางตามเพียงลําพังเป็นกำลังใจให้นะคับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
