บันทึกเรื่องราว ตอน คนทุกคนก็เหมือนกับหนังสือเดินได้
ถ้าคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือดีดีสักเล่มคุณลองหันมาศึกษาคนที่อยู่รอบข้างตัวคุณจะดีไหม ?
คนทุกคนก็เหมือนกับหนังหนังสือเดินได้คนทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตนเองเรื่องราวที่ทั้งดีและทั้งร้ายทั้งสุขและทั้งเศร้า หากคุณเปิดใจสักนิดคุณก็ลองอ้าปากถามเค้าดูสิ ว่าเรื่องราวของชีวิตเขาเป็นเช่นไร
คนบนโลกมีหลากหลายประเภท
คุณอยากเป็นคนแบบไหนล่ะคุณก็ทำตัวตีซี้กับคนนั้นสิ อย่างเช่นผมผมอยากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานผมก็ไปถามเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ อย่างเช่นพี่เซต (เค้าเป็นญาติผมสนิทกันตั้งแต่ยังเด็กๆ) ผมก็ถามพี่เค้าว่าทำไมพี่ถึงเป็นคนเก่งอย่างนี้ขนาดตอนสอบเข้ามหาลัยไปสอบผิดที่ไม่ได้สอบหนึ่งวิชายังสอบติดวิศวะ ตอนหลังนี้แกตัดสินใจเป็นเภสัชกรแทนพี่เขาเรียนเก่งมากๆตอนเรียนพี่เขาก็ได้รับเลือกเป็นประธานคณะ(ผมคิดในใจคนอะไรจะเก่งขนาดนี้เก่งทางวิชาการเก่งทั้งการทำกิจกรรม สุดยอด)
พอจบออกมาพี่แกก็ยังเก่งไม่หยุดสามารถสอบติดเข้าทำงานได้ในโรงพยาบาลชื่อดังสวัสดิการดีเลิศ ถือว่าพี่เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆผมก็เลยอยากเป็นแบบพี่เซตบ้าง ผมก็ถามคำถามแกวันนั้นเรานั่งจิบเบียร์กันเบาเบาก็ถามคำถามง่ายๆ อะไรทำให้พี่มาถึงจุดนี้ ? พี่เขาตอบว่าช่วงมอสี่ถึงมอหกพี่เค้าเรียนพิเศษทุกวันไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษเลิกสองถึงสามทุ่มจันทร์ถึงศุกร์พอเลิกเรียนจากการเรียนปกติแล้วตกเย็นก็ไปเรียนพิเศษต่อเลิกสี่ถึงห้าทุ่มพี่เค้าทำแบบนี้เป็นเวลาสามปีเต็มก่อนสอบเข้ามหาลัย
กลับมามองตัวเองในเวลานั้นในช่วงเวลาเดียวกันผมแม่งเลิกเรียนแล้วเอาแต่เตะบอลแซวสาวที่หลังโรงเรียนกลุ้มใจว่าจะจีบสาวที่ตนเองชอบโดยวิธีใดทำอย่างไรนะจะได้มีเงินเยอะๆไปเลี้ยงสาว 55555555 และกลับมาดูที่พี่เซตสิเค้าใช้เวลาช่วงวัยรุ่นที่แสนจะสดใสในมอปลายใช้ไปกับการเรียนแทนเขามีแพชั่นตั้งแต่ยังเด็กเค้ารู้ว่าเค้าทำเพื่ออะไรในตอนนั้นและมันก็ส่งผลดีต่อตัวพี่เขาในตอนนี้ ผมเคยจำได้ตอนมอต้นผมชวนพี่เซตไปเล่นกันแต่พี่เค้าไม่ว่างเพราะต้องนั่งท่องตารางธาตุโอแม่เจ้าโว้ย5555
จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ที่พี่เค้าเป็นคนเก่งล้วนมีเหตุผลมารองรับว่าเหตุใดพี่เขาถึงเป็นเช่นนี้ ผมเองก็ได้รู้ว่าเราอยากจะเป็นอะไรซักอย่างมันก็ต้องแลกด้วยอะไรซักอย่างที่เหน็ดเหนื่อยมากๆเช่นกัน
หลังจากที่ผมถามคนที่ประสบความสำเร็จแล้วผมก็แอบถามคนที่เขาดูไม่มีความสุขในชีวิตเลยเรื่องราวของเขาจะเป็นแบบไหนนะทำไมเค้าถึงเป็นคนนิสัยแบบนี้การที่เราได้รู้เรื่องราวของเขา เราก็นำมาใช้เป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง (ผมแนะนำศึกษาคนที่เราไม่ค่อยชอบไปเลย คนที่เรามองแล้วว่าเป็นคนที่นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย) คนกลุ่มนี้เราอาจจะต้องแกล้งทำเป็นเสแสร้งนิดหน่อยในการสอบถามเรื่องราวเราก็ลองสอบถามเรื่องทั่วไปยกตัวอย่างเช่นเค้าชอบทำอะไร ทำไมถึงมาทำอาชีพนี้ ความสุขของเค้าคืออะไร
คือแต่งชนถามไปงั้นแหละบุคคลเหล่านี้จะพูดในสิ่งที่เค้าคิดมาในแง่ลบและแนวคิดแบบที่คนเค้าไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ขออนุญาตยกตัวอย่างแต่ผมขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อให้ใช้นามสมมติว่าเขาชื่อนายเอก็แล้วกัน นายเอเป็นคนที่ชอบติฉินนินทาหัวหน้าไปวันๆว่าแต่คนอื่นไปวันๆว่าคนอื่นอย่างโน้นอย่างนี้ต่อหน้าก็ทำดีด้วยไม่น่าเชื่อเลยว่านิสัยอย่างนี้ก็มีกับคนที่เป็นผู้ชายผมเห็นแล้วก็ขำ ผมเคยถามพี่เขาเกี่ยวกับเรื่องราวการมีคู่ชีวิต เค้าบอกว่าจะเอามาทำไมเอามาแล้วก็มีแต่หนี้สิน
แสดงว่าเค้าน่าจะเคยผ่านความรักในรูปแบบที่
แย่ๆมาแล้วเลยมีทัศนคติแบบนี้หนังสือเดินทางได้นางสมมตชื่อพี่เอนี้ผมถือว่าเป็นหนังสือแห่งความทุกข์ใจเขาคงผ่านเรื่องราวแย่ๆมาเยอะแยะมากมายจึงบอมเพราะตัวตนให้เป็นคนแบบนี้คนที่คอยต่อว่าคนอื่นติฉิน นินทา หาแต่ข้อเสียของคนอื่นแล้วพอพบเจอก็เอามากระจายข่าว เขาคงไม่ได้รักความรักอย่างแท้จริงเค้าคงไม่ได้คิดที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น
แต่ก็ช่างเค้าปะไรมันก็เรื่องของเขาผมเองก็แวะมาชื่นชมหนังสือเล่มนี้แบบผ่านๆเอามาเป็นอุทาหรณ์ว่าผมจะไม่เป็นแบบหนังสือเล่มนี้ ปล. การที่เราเอาเรื่องแย่ของคนอื่นมาเล่าให้อีกคนฟังมันไม่ใช่หน้าที่ของเราถ้าคนคนนั้นมีนิสัยแย่นิสัยไม่ดีจริงๆอีกคนเขาก็จะมองเห็นเองโดยที่เราไม่ต้องอ้าปากพูดเลยสักนิดชีวิตจริงคุณอย่าทำแบบนั้นนะครับมันไม่งามเลยไม่ใช่หน้าที่ของเรา
การที่ผมเอาเรื่องแย่ๆของบุคคลนามสมมุติที่ชื่อว่าพี่เอก็เป็นเรื่องที่เสียมารยาทเป็นอย่างมากแต่ผมเพียงแต่แค่อยากจะบรรยายให้ท่านผู้อ่านได้เห็นตัวอย่างอย่างชัดเจน
อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าคุณจะเลือกเข้าไปศึกษาอ่านในหนังสือเล่มไหนเล่มที่ประสบความสำเร็จก็มีมากมายจงศึกษาเรื่องราวจากเขาแล้วนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเราเองเล่มที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตก็มีเยอะแยะมากมายก็เข้าไปศึกษาด้วยเช่นกันศึกษาแล้วให้จำไว้เป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เอาเป็นแบบอย่าง
ดูคนให้ดูที่ผลงาน
ดูคนให้ดูที่คำพูดว่าเค้าพูดจริงทำจริงหรือเปล่าใช่ว่าสักแต่พูดและไม่ลงมือทำ
การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
ทุกหนังสือมีเรื่องราวดีดีและเรื่องร้ายไม่มีหนังสือเล่มไหนดีหมดทุกอย่าง 100% บางทีการที่เราหมั่นศึกษาหนังสือเดิมได้แบบนี้ ก็อาจจะเป็นการลดความล้มเหลวของเราเลยก็ได้เพราะมีตัวอย่างที่ทำแล้วล้มเหลว
ดังนั้นตอนนี้คุณพร้อมไปกับผมแล้วหรือยัง ออกไปศึกษาหนังสือเดินได้กันยิ่งเราศึกษามากมายเท่าไหร่เรายิ่งมีข้อมูลต่างๆมากมายเป็นเข็มทิศนำทางในการดำเนินชีวิตของเราไปยังจุดหมายที่เราตั้งไว้ !!!
มองคนให้เป็นหนังสือ เพราะแต่ละคนต่างมีเรื่องราวแตกต่างกันออกไป
มองตัวเราเองให้เป็นหนังสือเช่นกัน เพราะตัวเราเองเนี่ยแหละที่จะมีสิทธิ์ขีดเขียนเรื่องราวต่างๆลงหนังสือแห่งชีวิตหนังสือที่เป็นของเรา
เขียนโดย ฟิล์มเอง
จากมุมมองการมองโลกของคนวัย 25 ปี ❤️
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
