10 มิ.ย. 2023 เวลา 16:29 • กีฬา

Derrick Rose กุหลาบที่ไม่มีวันโรยรา

แฟนบาสทุกคนไม่มีใครไม่รู้จัก เดอริค โรส เขาคือนักบาสระดับซุปเปอร์สตาร์ที่ถูกดราฟท์มาในอันดับหนึ่งและคว้าตำแหน่ง Rookie of the Year ได้ทันทีในปี 2009 เขาคือเจ้าของรางวัล MVP ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA ด้วยวัยเพียง 22 ปี
ในยุครุ่งโรจน์ Derrick Rose คือนักบาสที่มีลีลาการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคนหนึ่งในลีก ความรวดเร็ว ความแข็งแกร่ง ความคล่องตัวที่เหลือเชื่อ การเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันและการจัดระเบียบร่างกายกลางอากาศ ทำให้เขาเป็นคนที่ยากจะป้องกัน ทุกค่ำคืนที่โรสลงเล่น จะมีเพลย์ที่สวยงามติดอันดับไฮทไลท์ประจำวันอยู่เสมอ
จนมีคำกล่าวติดปากที่ใช้ในการบรรยายการเล่นของโรสว่า
“Too Big, Too Strong, Too Fast, Too Good!”
เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเขาตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า ว่องไวกว่า และเก่งกว่า ใครทั้งหมด
Derrick Rose ณ ขณะนั้น ถูกกล่าวขานว่าเป็นพอยต์การ์ดที่มีความครบเครื่องที่สุด ทั้งในเรื่องการจ่ายบอล การอ่านเกม และการทำแต้ม เขาก้าวสู่จุดสูงสุดของอาชีพนักบาสกับชิคาโก บูลส์ในฤดูกาล 2010/2011 ด้วยการทำแต้มเฉลี่ย 25 แต้มต่อเกม พร้อมกับเก็บชัยชนะได้ถึง 62 เกม จนทำให้เขาคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (Most Valuable Player: MVP) จาก NBA ทำสถิติเป็นผู้เล่น MVP ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ด้วยอายุเพียง 22 ปี 191 วัน ซึ่งผู้เล่นจากชิคาโก บูลส์ที่เคยได้รับรางวัลนี้ มีเพียงแค่ตำนานของวงการบาสเกตบอลอย่าง ไมเคิล จอร์แดน เพียงคนเดียวเท่านั้น
…จนกระทั่งในเกมเพลย์ออฟรอบแรกของปี 2012
ทีมชิคาโก บูลส์ กำลังขึ้นนำซิกเซอร์ส 12 คะแนนในควอเตอร์สี่ พร้อมกับเวลาในสนามที่เหลือเพียงไม่ถึงสองนาที เดอริค โรส กำลังจะพาทีมเก็บชัยชนะในเกมแรก เขาเลี้ยงบอลเข้าหาห่วงและกระโดดขาคู่ลอยตัวเปลี่ยนทิศทางจากซ้ายมาขวาเพื่อหลบตัวประกบแบบที่เคยทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เพียงแต่ว่า…ทันทีที่ขาทั้งสองข้างลงมาสัมผัสพื้นในครั้งนี้ ทุกอย่างในชีวิตของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
โรสล้มลงไปกองกับพื้นสนาม เขาพยายามใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองขึ้นมาแต่กลับพบว่าความเจ็บปวดที่เข่าด้านซ้ายมันรุนแรงเกินกว่าที่จะยืนขึ้นมาได้ สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผลการตรวจ MRI ออกมายืนยันข่าวร้ายว่า เอ็นไขว้หน้า (ACL) ของเข่าซ้ายของโรสฉีกขาด ต้องพักฟื้นอย่างต่ำ 8 ถึง 12 เดือน
ชาวเมืองชิคาโกต้องรอนานถึงช่วงเดือนตุลาคมในปี 2013 กว่าเขาจะกลับมาลงเล่นในการแข่งอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน สำหรับชาวเมืองผู้โหยหาสไตล์การเล่นของโรส เช่นเดียวกับที่โรสกระหายบาสเกตบอล และบัดนี้ เจ้าของตำแหน่ง MVP ผู้นี้พร้อมจะกลับมาแล้ว
เกมแรกที่โรสได้ลงเล่นคือเกมที่ต้องพบกับอินเดียนา เพเซอร์ส ในเกมพรีซีซัน ถึงแม้ว่าการเล่นของเขาจะไม่ดุดันเหมือนเดิมมากนัก แต่ก็ถือได้ว่าดูดีขึ้นเรื่อยๆ หลักฐานคือการทำ 22 คะแนนเพียงคนเดียวในการเกมที่เอาชนะดีทรอยต์ พิสตันส์ ณ ขณะนั้น ทุกคนต่างมีความคิดเช่นเดียวกันว่า ช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของชิคาโก บูลส์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง
แต่เพียงแค่ 10 เกมหลังจากนั้น ทุกอย่างก็ต้องจบลง เมื่อโรสบาดเจ็บอีกครั้งในบริเวณเข่าขวาในเกมที่เจอกับพอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส ซึ่งผลการตรวจ MRI ชี้ว่า เขามีอาการหมอนรองกระดูกที่เข่าแตก ต้องได้รับการผ่าตัด และต้องปิดฉากฤดูกาลไปอีกครั้ง สำหรับเดอร์ริก โรส ‘อดีตมิสเตอร์ MVP’ ที่เหลือเพียงแค่ชื่อให้แฟนๆ ต้องคิดถึง
หลังจากนั้น เดอร์ริก โรสไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะนอกจากสภาพร่างกายที่ย่ำแย่จากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สภาพจิตใจของเขาก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ จนสุดท้าย ในปี 2016 ชิคาโก บูลส์จำใจที่จะต้องปล่อยตัวเขาออกไป จากสุดยอด MVP ตอนนี้เขาเป็นแค่นักบาสธรรมดาเพียงเท่านั้น โรสต้องระหกระเหินพเนจรไปตามทีมต่างๆ โดยไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงหรือคืนฟอร์มการเล่นเหมือนตอนที่อยู่กับชิคาโก บูลส์ได้อีกเลย
โรส ล่องลอยอยู่กับการไม่มีทีมและความไม่แน่นอนในอนาคตของอาชีพการเล่นบาสอยู่เกือบหนึ่งเดือน ก่อนที่ทีม มินนิโซตา ทิมเบอร์วูลฟ์ส จะติดต่อมาและร่วมตกลงสัญญากันในวันที่ 8 มีนาคม 2018 ทำให้เขาได้กลับมาเจอกับบรรยากาศเดิมๆ สมัยที่เล่นอยู่บูลส์กับ โค้ช ทอม ธิโบโดว์ และ เพื่อนร่วมทีมเก่า ทั้ง จิมมี่ บัตเลอร์ และ ทาจ กิ๊บสัน
“ผมเพียงแค่อยากได้โอกาสที่จะโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าผมยังเล่นได้” โรส กล่าวไว้เมื่อตอนที่ร่วมทีมครั้งแรก “สิ่งเดียวที่ผมขาดตอนนี้คือ ‘โอกาส’ และ หลังจากที่ผมคุยกับโค้ชธิโบโดว์ ก็ดูเหมือนเขาพร้อมจะให้โอกาสกับผม”
แม้จะได้รับโอกาสอีกครั้ง แต่ภาพการพยายามจะกลับมาและก็ต้องล้มลงไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่ากลายเป็นเรื่องชินตาสำหรับทุกคน
เขาถูกสบประมาท เขาถูกนำมาเป็นภาพล้อเลียนแทนสัญลักษณ์ของนักกีฬาที่อ่อนปวกเปียกและบาดเจ็บง่าย เขาไม่มีบทบาทสำคัญในลีกนี้อีกต่อไปแล้ว เหลือสถานะเป็นแค่นักกีฬาที่ต้องพยายามดิ้นรนหาทีมอยู่หรือไม่ก็โดนปล่อยตัวทิ้งไป
จนโรสในวัย 30 ที่ได้มาอยู่กับทีมมินนิโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ในช่วงปี 2018 เขาได้ละทิ้งความกดดันในฐานะ MVP และเริ่มต้นใหม่ในฐานะของ ‘นักบาสธรรมดา’ จนเขาได้ทำลายสถิติของตัวเอง ด้วยการทำแต้มมากที่สุดในการเล่นอาชีพที่ 50 แต้ม ในเกมที่เจอกับยูทาห์ แจ็ส ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล่นด้วยลีลาที่สุดแสนจะเร้าใจอย่างในอดีต แต่เขาก็ได้หลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาหลังจบเกม
น้ำตาที่ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่เป็นน้ำตาของผู้ชนะ ชัยชนะต่อร่างกายที่ทรยศเขา ชัยชนะต่อแรงกดดันที่ได้รับจากสังคม น้ำตาของความภูมิใจที่แสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า MVP ผู้นี้ยังไม่สิ้นลายไป
ปัจจุบัน โรสยังคงโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดกับทีมนิวยอร์ก นิกส์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุดันหรือน่าตื่นตาตื่นใจเหมือนในอดีต แต่เขาได้พิสูจน์ให้โลกรู้แล้วว่า ฉายา MVP ที่ได้มา ไม่ได้มาจากสไตล์การเล่นหรือพรสวรรค์ส่วนตัว แต่เป็นความทะนงที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ที่แม้จะใหญ่โตสักเท่าไร มิสเตอร์ MVP ผู้นี้จะก้าวข้ามมันไปได้อย่างแน่นอน
โฆษณา