11 มิ.ย. 2023 เวลา 00:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เมื่อเหล่ามหาเศรษฐีจากSilicon Valleyอยากยืดอายุเพื่อเสพสุขกับกองเงินให้นานที่สุด

เหล่ามหาเศรษฐีที่รวยล้นฟ้าของ Silicon Valley พวกเขาได้ทำการ Disrupted ในหลากหลายวงการ ทั้งการขนส่ง,internet,ecommerce, Social Media หรืออีกมากมาย เพื่อผลักดันตัวเองให้กลายเป็น icon แห่งวงการ
3
แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับพวกเขาเหล่านี้คือ ความเป็นอมตะ หรือ การหลีกหนีจากความตาย
2
มีเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ Bryan Johnson เศรษฐีวัย 45 ปี ที่ต้องการชะลอวัยของตัวเอง โดยใช้การถ่ายเลือดจากลูกชายวัย 17 ปี
3
กระบวนการนี้ น่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นการใช้เลือดหนึ่งลิตรจาก Talmage ลูกคนเล็กและแยกพลาสม่าออกจากเลือดก่อนที่จะฉีดเข้าไปในตัว Bryan อีกครั้ง
7
สิ่งที่แปลกกว่านั้นคือเลือดบางส่วนของ Bryan ถูกถ่ายไปให้ Richard พ่อวัย 70 ของเขา มันได้กลายเป็นการแลกเปลี่ยนพลาสมาหลายชั่วอายุคนครั้งแรกของโลก
1
Bryan , Talmage และ Richard (CR: The Telegraph)
Bryan Johnson ซึ่งร่ำรวยจากการเป็นผู้ก่อตั้ง Braintree บริษัทชำระเงินบนเว็บและมือถือที่ขายให้กับ Paypal เขาเป็นคนหมกมุ่นกับความเป็นหนุ่ม มีรายงานว่าใช้เงินอย่างน้อย 2 ล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อค้นหายาอายุวัฒนะ
2
นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนพลาสมาแล้วนั้น เขายังทำหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารที่เคร่งครัด รูปแบบการรับประทานอาหารและการนอนหลับที่มีความเคร่งครัดสูง และมักจะตรวจสุขภาพบ่อย ๆ
2
Disrupted ความตาย
ต้องบอกว่าการโกงความตายไม่ใช่แนวคิดใหม่ใน Silicon Valley และเหล่าผู้ประกอบการที่ร่ำรวยมหาศาล ต่างมองหาวิธีที่จะยืดอายุขัยของพวกเขาเอง
Jeff Bezos เดิมพันกับ Altos Labs ที่เป็นสตาร์ทอัพด้านการต่อต้านวัยที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและความยืดหยุ่นของเซลล์ด้วยโปรแกรมการฟื้นฟูเซลล์เพื่อรักษาโรค อาการบาดเจ็บ และความพิการที่อาจเกิดขึ้นตลอดชีวิต หรืออีกนัยหนึ่งคือค้นหาวิธีการที่จะย้อนเวลา
Bezos ยังมีการให้ทุนกับ Unity Biotechnology ซึ่งหวังที่จะต่อสู้กับผลกระทบของวัย เช่นเดียวกับ มหาเศรษฐี Peter Thiel ผู้ที่หลงใหลในความเป็นอมตะไม่แพ้กัน
1
ในปี 2012 Thiel ได้เคยกล่าวไว้ว่า “มีคนที่บอกว่าความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต และผมคิดว่าไม่มีอะไรที่จะเกินความจริงไปได้” เขาเชื่อมั่นว่าความตายเป็นปัญหาที่แก้ไขได้
ในปี 2013 ผู้ก่อตั้ง Google Sergey Brin และ Larry Page ได้ช่วยกันเปิดตัว Calico ซึ่งเป็นโครงการที่ติดตามหนูตั้งแต่แรกเกิดจนตายโดยหวังว่าจะพบตัวบ่งชี้ของโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวานและอัลไซเมอร์ โดยเป้าหมายของชุดเทคโนโลยีชีวภาพที่เป็นความลับสุดยอดนี้คือ “การแก้ปัญหาความตาย”
ความหลงใหลในการใช้ชีวิตให้ยาวนานที่สุดได้แผ่ขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะ Cryptocurrency Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้เสนอว่า “อายุที่มากขึ้นเป็นปัญหาทางวิศวกรรม”
ในทวีตเขายังกล่าวอีกว่า “ความชราเป็นหายนะทางมนุษยธรรมที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากเท่ากับสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุก ๆ สองปี”
2
Roger Ver นักลงทุนรายแรกใน Bitcoin และผู้ก่อตั้ง Bitcoin.com ได้ลงทะเบียนเทคโนโลยี “ไครโอนิกส์”เพื่อถูกแช่แข็งด้วยความเย็นแล้ว เพื่อหวังว่าวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าขึ้นในอนาคตจะช่วยชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง
3
เทคโนโลยี “ไครโอนิกส์”เพื่อถูกแช่แข็งด้วยความเย็นแล้ว เพื่อหวังว่าวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าขึ้นในอนาคต (CR:Daily Mail)
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Retro Bioscience ได้รับเงินทุน 180 ล้านดอลลาร์สำหรับภารกิจเพื่อเพิ่มอายุขัยของมนุษย์อีก 10 ปี แหล่งที่มาของการให้ทุนดังกล่าวเป็นปริศนา จนกระทั่ง MIT Technology ได้เปิดเผยว่ามาจาก Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI
1
บทสรุป
มันเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันในสังคมว่า การ Disrupted ความตาย เพื่อให้ชีวิตเป็นอมตะนั้นจะทำไปเพื่ออะไร และมีปัญหาในเรื่องของศีลธรรมหรือไม่
การรักษาเหล่านี้จะพิเศษและมีราคาแพงมาก เป็นเพียงการเอาชีวิตรอดของคนที่รวยที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เอาเปรียบคนหมู่มากกันอยู่แล้ว ทั้งการที่นำเอาข้อมูลส่วนตัวของพวกเราไปขาย ทำลายโครงสร้างทางสังคมของเรา หรืออีกมากมาย ทั้งเอารัดเอาเปรียบคนชนชั้นล่างทุกวิถีทางเพื่อให้คนที่รวย รวยขึ้นไปอีก
2
แน่นอนว่ามันอาจจะทำให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจหากมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงอายุขัยที่ยืนยาวขึ้น
ในขณะที่จำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้น และทรัพยากรต่าง ๆ ร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ แถมยังเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหากการคาดการณ์ถูกต้อง ปัญหาเหล่านี้จะทำลายโลกเราภายในปี 2050 แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่จะมีชีวิตต่อไปอีก 100 ปี หากโลกที่คุณอาศัยอยู่เปรียบดั่งนรกที่กำลังลุกเป็นไฟ
3
References :
หนังสือ It’s OK to Be Angry About Capitalism โดย Senator Bernie Sanders
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
1
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา