12 มิ.ย. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปประวัติ จอร์แดน เบลฟอร์ต ผู้ปั่นตลาดหุ้นจนร่ำรวย

เพื่อน ๆ เคยดูหนังเรื่อง The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ที่แสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ กันหรือยังครับ ที่แม้ว่าทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยอบายมุขต่าง ๆ มากมาย แต่หากเรารับชมอย่างตั้งใจ แล้วจะได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตและการลงทุนด้วยเช่นกัน
เพื่อให้ทั้งคนที่เคยดูมาแล้วได้กลับมาทบทวนอีกครั้ง และคนที่ไม่เคยดูได้รู้จักกับเล่ห์เหลี่ยมกลโกงการเงิน วันนี้แอดเลยจะมาสรุปประวัติ จอร์แดน เบลฟอร์ต ว่ามีเรื่องราวน่าสนใจอย่างไร และน่าจะให้ข้อคิดอะไรได้บ้าง
- จอร์แดน เบลฟอร์ต เกิดที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2505 หรือ 61 ปีก่อน ในครอบครัวชนชั้นกลาง ที่มีพ่อแม่เป็นนักบัญชีทั้งคู่
- หลังจากจบมัธยมปลาย และกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เบลฟอร์ตและเพื่อนของเขาหาเงินด้วยการขายไอศกรีมที่ริมชายหาด ซึ่งทำเงินถึง 694,800 บาท
- เมื่อเรียนจบปริญญาด้านชีววิทยา เบลฟอร์ตก็สนใจเรียนทันตแพทย์ต่อ แต่วันแรกที่เรียน คณบดีได้บอกว่า “ยุคทองของทันตกรรมจบลงแล้ว ถ้าคุณมาที่นี่เพียงเพราะต้องการทำเงินเยอะ ๆ คุณมาผิดที่แล้ว” เมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาก็ไม่กลับมาเรียนอีกเลย
- ต่อมาเขาทำงานเป็นเซลล์ขายเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะจากลูกจ้าง มาเป็นเจ้าของธุรกิจในเวลาต่อมา และทำเงินถึง 5,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
- แต่สุดท้ายธุรกิจก็ไปไม่รอด ล้มละลาย เบลฟอร์ตเลยหันมาทำงานหาเงินเป็น “โบรกเกอร์หุ้น” ที่บริษัท Rothschild โดยได้รับความช่วยเหลือจากญาติของเขา
- โชคร้ายซ้ำสอง เมื่อบริษัทหลักทรัพย์ที่เขาทำงานล้มละลาย หลังจากเหตุการณ์ Black Monday หรือวิกฤติตลาดหุ้นล่มสลายจากความผิดพลาดของชุดคำสั่งซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ (Algorithm Trading) ในปี 2530
- อย่างไรก็ดี เบลฟอร์ตมีทักษะและประสบการณ์ในการจูงใจคนจากงานที่เคยทำมาแล้ว เลยสามารถหางานที่อื่นได้ต่อ ซึ่งที่ทำงานต่อมาเป็นบริษัทโบรกเกอร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งแถบชนบท ที่เน้นขายหุ้นราคาถูก หรือ Penny Stock (คล้ายหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าบาทของไทย) โดยที่นั่นเองทำให้เขาได้รู้ว่า หุ้นตัวเล็กพวกนี้ถ้าขายแล้วจะได้ค่าคอมมิชชันถึง 50% เลยทีเดียว
- เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ เบลฟอร์ตเลยหัวหมอปั้นเรื่องราวของหุ้นให้ดูสดใส และจูงใจผู้คนด้วยการพูดถึงโอกาสที่จะเป็นเศรษฐีแบบง่าย ๆ เพื่อให้ผู้คนเข้ามาซื้อหุ้นเยอะ ๆ ตัวเองจะได้ค่าคอมมิชชันมหาศาล
- ต่อมาเบลฟอร์ตได้ขยับตัวเองมาสู่เป็นเจ้าของธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการก่อตั้ง Stratton Oakmont บริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ สามารถดันบริษัทต่าง ๆ เข้ามา IPO หรือเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ถึง 30 กว่าบริษัท
- เบลฟอร์ตและพรรคพวกทำเงินได้มากมายถึง 3,000 กว่าล้านบาทต่อปี เขาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อของราคาแพงเป็นว่าเล่น เช่น เรือยอร์ช รถสปอร์ต และคฤหาสน์ ก่อนที่จะหันไปเสพยาเสพติด
1
- เบลฟอร์ตนอกใจจากภรรยาคนเก่า และมีภรรยาคนใหม่คือนาดีน มาคาลูโซ ซึ่งในหนังแสดงโดยมาร์โกต์ ร็อบบี้นั่นเอง
2
- ชีวิตดูไปได้สวยจนกระทั่ง NASD หรือองค์กรกํากับดูแลด้านการเงินระดับโลก จับตามอง Stratton Oakmont เพราะว่าบริษัทได้ทำสิ่งที่ผิด เช่น การนำบริษัทที่ไม่ดีเข้าตลาดหุ้น โดยสร้างเรื่องราวเพ้อฝัน เกินความเป็นจริง เพื่อดึงดูดนักลงทุน, ใช้กลยุทธ์ลากขึ้นไปเชือด (Pump and Dump) หรือก็คือการดันราคาหุ้นไปสูง ๆ แล้วเทขายทิ้ง, ปลูกฝังพนักงานให้เห็นเงินเป็นพระเจ้า แม้ว่าการได้เงินจะมาจากการหลอกลวงลูกค้าก็ตาม และการฉ้อโกงด้านการเงินอื่น ๆ อีกมากมาย
- ในที่สุด Stratton Oakmont ก็ถูกดำเนินการทางกฎหมาย จนต้องปิดตัวลง ขณะที่ผู้ก่อตั้งอย่างเบลฟอร์ต และเพื่อนพ้องของเขาถูกฟ้องในข้อหาฟอกเงินและการฉ้อโกงหลักทรัพย์
- เบลฟอร์ตถูกจำคุก 22 เดือน และถูกปรับ 3,800 ล้านบาท จากโทษฐานที่ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเป็นมูลค่า 6,900 ล้านบาท
- ส่วนภรรยาอย่างมาคาลูโซ ก็ได้หย่าร้างกันไปแล้ว เพราะทนไม่ไหวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัว และหันมาทำงานเป็นนักบำบัด โดยใช้ประสบการณ์ของเธอช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่กำลังเผชิญความสัมพันธ์ที่ Toxic ผ่านโซเชียลมีเดีย
- ช่วงเวลาที่ติดคุก เพื่อนร่วมห้องขังคนหนึ่งสนับสนุนให้เบลฟอร์ตเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของเขา ซึ่งออกมาเป็นหนังสือที่ชื่อว่า “The Wolf of Wall Street” ก่อนที่จะกลายเป็นหนังให้เราได้รับชมกัน
- ปัจจุบันเบลฟอร์ตหันทำงานสุจริตเป็นนักพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และบริหารบริษัทของตัวเอง ที่รับสอนเทคนิคการตลาดและฝึกอบรมการขายให้กับธุรกิจต่าง ๆ
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำด้านการลงทุน บทวิเคราะห์ หรือการเสนอขายแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
════════════════════                
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน                
════════════════════                
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน                
 
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่                
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest                
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance        
Twitter - https://twitter.com/dimefinance             
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance                
LINE -  https://lin.ee/4W7j4nG                      
#การเงิน #การลงทุน #ฉ้อโกง #ตลาดหุ้น #ปั่นหุ้น #ไดม์   #Dime #Dimeออมได้ลงทุนดี   
-----             
อ้างอิง
โฆษณา