12 มิ.ย. 2023 เวลา 13:00 • เกม

แนะนำเกม – 13 Sentinels: Aegis Rim (ไม่สปอย)

ช่องนี้ใช้เพื่อแนะนำอนิเมะไปแล้ว แนะนำมังงะไปแล้ว ยังเหลือแนะนำเกมอยู่ หลังจากใช้เวลาคิดเพียงนาทีเดียวว่าจะแนะนำเกมอะไรเป็นเกมแรก ก็คิดได้ทันทีว่าจะต้องแนะนำให้มีคนเล่นเกมนี้มากขึ้น เกมนั้นคือ 13 Sentinels: Aegis Rim (แนะนำโดยไม่มีการสปอยเนื้อหาของเกม)
ตอนแรกผมคิดว่าจะลงโพสเพียงบอกว่า ให้ไปเล่น โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลย ซึ่งก็ทำไปแล้ว เหตุมาจากว่า อยากจะบอกกล่าวให้คนได้รู้จักชื่อเกมนี้มากขึ้น เผื่อจะมีคนสนใจขึ้นมา นอกจากนั้น เพราะว่าไม่อยากจะเขียนอะไรที่จะเป็นการสปอยประสบการณ์การเล่นเกมนี้เลย และที่สำคัญที่สุด เพราะคิดว่าตัวผมคงไม่สามารถที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับเกมนี้ให้มันสมราคากับความเป็น Masterpiece นี้ได้เลย
(เมื่อผมเล่นเกมนี้เสร็จแล้ว ก็เลยท่องอินเตอร์เน็ตไปดูว่าคนอื่น ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง หรือรีวิวเกมนี้แบบไหน ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่รีวิวอยากมาก ๆ และแต่ละคนก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดึงผู้เล่นให้สนใจเกมนี้กันทั้งนั้น ซึ่งเป็นความพยายามที่น่าชื่นชมครับ)
13 Sentinels: Aegis Rim
13 Sentinels: Aegis Rim เป็นเกมจากค่าย Vanillaware และผลิตโดยค่าย Atlus เผยแพร่ให้เล่นบนเครื่อง PS4 ครั้งแรกเมื่อปี 2019 ซึ่งถือว่าเป็นเกมที่เก่าแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเกมนี้จะได้ขึ้นแท่นเป็นตำนานแน่นอน
สุดยอดเกมนี้ใช้เวลาพัฒนา 6 ปี และผู้พัฒนาบอกว่าจะต้องลดเนื้อหาของเกมจากความคิดเริ่มแรกไปประมาณ 50% ซึ่งดูจากเนื้อเรื่องของผลงานนี้แล้ว หากจะพัฒนาเนื้อหาส่วนที่ตัดไปทั้งหมด คงจะต้องใช้เวลานานเกินไปกว่าจะเผยแพร่ให้สาธารณะได้เล่นกัน และเมื่อได้เล่นเนื้อหาของเกมนี้จนจบ คิดได้ว่า “ยังมีอะไรมากกว่านี้อีกเหรอ!”
การพูดถึงเนื้อเรื่องของเกมนี้ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สปอย และมากไปกว่านั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอธิบายเนื้อหาของเรื่องในเวลาอันสั้น ให้กระชับ เข้าใจง่าย และมีอธิพลต่อจิตใจ แต่ผมอยากให้คนได้รับประสบการณ์ที่เกมนี้ให้อย่างสดใหม่ที่สุด ดังนั้น ผมจะไม่ทำการเล่าเนื้อหาของเกมนี้ เพียงแต่จะพูดถึงพื้นฐานของเกมโดยคร่าว (ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ยืดยาว เพราะมันมีอะไรน่าชื่นชมเยอะเหลือเกินครับ)
13 Sentinels: Aegis Rim เป็นเกม JRPG และมีลักษณะเกมเป็น Visual Novel ผู้เล่นจะต้องเล่น ตัวละครเอกของเรื่องทั้งหมด 13 ตัวละครเพื่อที่จะได้เรียนรู้เนื้อเรื่องของเกมที่เป็นปริศนา และลำดับการเล่นตัวละครนี้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นเองว่าจะเลือกเล่นตัวละครไหนก่อนหลัง (แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเล็กน้อยในการเลือกตัวละครที่จะเล่น เช่น จะต้องเล่นเนื้อเรื่องของตัวละครหนึ่งไปถึงระดับหนึ่งก่อนจะสามารถเล่นเนื้อเรื่องของอีกตัวละครได้)
หน้าเลือกตัวละครที่จะดำเนินเรื่องในเกม
ดังนั้น ประสบการณ์การเสพเนื้อเรื่องของเกมของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป เนื่องจากเหตุการณ์ของเกมเป็นปริศนาต่อผู้เล่นและตัวละครในเกม ข้อมูลและลำดับการได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเสพเนื้อเรื่อง เพราะเศษข้อมูลที่ได้มาจะทำให้ผู้เล่นประกอบเป็นทฤษฎีที่แตกต่างกันว่าอะไรเกิดขึ้นในโลกที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ ทำให้มีทฤษฎีและประสบการณ์ทางอารมณ์ที่หลากหลาย แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างหนึ่งอย่างเดียวกันก็ตาม
เกมเปิดด้วยการเล่าเรื่องราวของตัวละคร 13 ตัว ที่อาศัยอยู่ต่างยุคสมัยกันในประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 5 ยุคสมัย ห่างกัน 20 ปี การใช้ชีวิตของตัวละครในโลกนั้นต้องสะดุดลงเมื่อมีไคจูเครื่องจักรกลบุกเมืองเพื่อทำลายล้าง ตัวละครทั้ง 13 คนจึงต้องร่วมกันขับเครื่องจักรหุ่นยนต์ที่เรียกว่า Sentinels ต่อสู้กับเครื่องจักรชั่วร้ายเหล่านั้น
ซึ่งแน่นอนว่า หากตัวละครต่าง ๆ อยู่ต่างยุคสมัยกันแล้วจะต้องต่อสู้ร่วมกัน มันย่อมจะต้องมีองค์ประกอบของการท่องเวลาอยู่ด้วย!
เกมแบ่งออกเป็น 3 โหมด ซึ่งผู้เล่นสามารถสลับไปมาได้อย่างสะดวก ระหว่างโหมด Destruction, Remembrance, และ Analysis
Destruction, Remembrance, Analysis
โหมด Analysis เป็นส่วนที่เก็บชิ้นส่วนข้อมูลต่างจากที่เราพบเจอมา โดยเรียงตามลำดับเหตุการณ์ ดังนั้น หากผู้เล่นดำเนินไปแล้ว และอยากจะกลับมาตรวจสอบข้อมูล ก็สามารถกระทำได้โดยง่าย เพราะเนื้อเรื่องของเกมมีความซับซ้อนอย่างมาก และตัวเกมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้การเข้าใจและผูกโยงเรื่องราวของเกมให้เป็นเรื่องยุ่งยาก เกมแทบจะป้อนข้อมูลให้เราย่อยง่าย แต่ด้วยความเป็นปริศนา และเรื่องราวที่ซับซ้อน ทำให้แม้ว่าจะวางข้อมูลที่ได้รับไว้ต่อหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผูกโยงเรื่องราวให้รับรู้ความจริงทั้งหมด
โหมด Destruction คือส่วนการต่อสู้ของเกม ซึ่งเป็นแบบ Real-time Strategy เราจะต้องเลือกตัวละครจำนวนหนึ่งจาก 13 ตัว เพื่อลงสนามรบ ต่อสู้กับไคจู เพื่อปกป้อง Aegis ดังนั้นจึงมีองค์ประกอบของ Tower-defence ซึ่งสำหรับบางคนแล้วอาจจะไม่ใช่แนว ผมเองก็มีความกังวลแนวการต่อสู้แบบนี้อยู่บ้าง (แม้ว่าจะชอบแนวคล้ายกันอย่าง Turn-based Strategy เกมก็ตาม) แต่เมื่อเล่นเกมจบไปแล้ว ก็ยังกลับมานั่งเล่นเฉพาะโหมด Destruction อยู่เรื่อย ๆ
โหมด Destruction
เนื้อความและประเด็นหลักของเกมนี้อยู่ที่โหมด Remembrance ซึ่งเป็นส่วน Visual Novel ของเกม เป็นโหมดที่ให้ผู้เล่นดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของตัวละคร 13 ตัวตามลำดับที่ผู้เล่นเลือก เพื่อสืบสาวราวเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนั้น เก็บข้อมูลเพื่อใช้ปะติดปะต่อเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อ (และเหนือจินตนาการ) โดยผู้เล่นจะต้องเล่นเป็นหนึ่งในตัวละคร ดำเนินเรื่องผ่านการเก็บเบาะแสข้อมูลโดยการพูดคุยกับตัวละครต่าง ๆ ผ่านข้อมูลที่ได้รับมาแล้วก่อนหน้านั้น
โหมด Remembrance ของเกม
แม้ว่าเกมจะนำเสนอให้ดูเหมือนว่ามีหลายตอนจบ โดยการแสดงเส้นเรื่องในรูปแบบ Flow-chart ลักษณะคล้าย ๆ กับ Detroit: Become Human แต่ทั้งหมดจะมาบรรจบที่จุดเดียวอยู่ดี เพราะฉะนั้น เมื่อเห็นว่าตัวละครหนึ่งมีหลายเส้นเรื่องให้เล่น นั่นคือ จะต้องเล่นเรื่องของตัวละครนั้นให้ครบทุกเส้นเรื่อง ก่อนจะสามารถดำเนินเกมต่อไปได้ ซึ่งหมายความว่าอาจจะต้องเล่นเรื่องราวของตัวละครนั้นซ้ำหลายรอบ
จุดนี้อาจจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าจะน่าเบื่อ ซึ่งรวมถึงผมด้วยในตอนแรกที่เห็นว่าจะต้องเล่นซ้ำเพื่อให้ได้ข้อมูลครบทั้งหมดจากทุกเส้นเรื่อง แต่กลายเป็นว่ามันเป็นความน่าตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะข้อมูลที่ได้รับจากเส้นเรื่องหนึ่งทำเอาขนลุกทุกครั้ง และทำให้วางจอยไม่ได้ กลายเป็นว่าตื่นเต้นที่จะไปดำเนินเรื่องราวในอีกเส้นเรื่องหนึ่งต่อทันที
การเล่นในโหมด Remembrance
ผมไม่สามารถอธิบายเนื้อเรื่องของเกมนี้ได้เลย ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากจะสปอยเนื้อหาของเกมนี้ แต่เพราะมันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เนื้อหามีความซับซ้อนมาก ไม่ใช่ว่าเข้าใจยาก แต่เพราะว่าข้อมูลที่ได้รับระหว่างการเล่น (และลำดับการดำเนินเรื่องของผู้เล่น) ทำให้ผู้เล่นสร้างทฤษฎีต่าง ๆ ออกมาเพื่อประกอบเป็นเรื่องราว แต่กลายเป็นว่า ข้อมูลที่ได้รับมา กลับเป็นเศษเสี้ยวของข้อมูลอีกชิ้น ซึ่งทำให้ทุกครั้งที่เราคิดว่าเราเข้าใจเรื่องราวแล้ว เพียงแค่ประโยคเดียวของตัวละครหนึ่งก็ทำให้เราต้องโละทิ้งทฤษฎีทั้งหมด
ความรู้สึกเวลาเล่นเกมนี้ จะเป็นประมาณว่า 1) “เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ห้ะ อะไรนะ?” ไปที่ 2) “อ๋า โอเค Make sense พอจะเข้าใจละ” สักพักก็ 3) “โอเค เข้าใจละ เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง” สิบวินาทีต่อมาเมื่อมีตัวละครหนึ่งพูดอะไรสักอย่างก็ 4) “เดี๋ยวนะ ช้าก่อน ว่าอะไรนะ” แล้วก็วนกลับไปที่ข้อ 1) ใหม่อีกรอบ วนไป จนไปถึงตอนจบ เมื่อเนื้อเรื่องกระจ่างขึ้นเรื่อย ๆ ก็ 5) “เอาจริงดิ เห้ย มันแบบนี้เองเหรอ บ้าไปแล้ว! ใครเขียนเรื่องนี้เนี่ย พระเจ้าอ่อ?”
13 Sentinels: Aegis Rim บอกเล่าเรื่องราวของ 13 ตัวละครที่อาศัยอยู่ต่างยุคสมัย ต่างบุคลิก ต่างประสบการณ์ ต่างความคิด และต่างอุดมคติ ในเนื้อเรื่องของแต่ละตัวละครมีการสรรเสริญเรื่องราวแนวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแนว Slice-of-life เกี่ยวกับเรื่องราวในโรงเรียน เรื่องราวรักแรก และความรักที่เป็นพิษ เรื่องราวนักเลงตีกัน แนวการย้อนเวลาแบบ Back to the Future หรือการติดอยู่ในหลูบเวลาแบบ Groundhog Day รวมถึงแนวการสืบสวนสอบสวน และอื่น ๆ อีกมากมาย
แน่นอนว่าจะต้องมีเนื้อเรื่องแบบ Mecha อยู่ด้วย (ภาพนี้ไม่ใช่การสปอยแต่อย่างใด)
ทำให้เรื่องราวของเกมนี้มีความหลากหลายทำให้ผู้เล่นสัมผัสหลากหลายอารมณ์และความรู้สึก ตัวละครเขียนออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมีความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีบุคลิกและคุณลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บทพูดและการแสดงของนักพากษ์แสดงอารมณ์ออกมาได้ถึงรสถึงอารมณ์ ทั้งในเสียงอังกฤษและญี่ปุ่น (ซึ่งผมสลับไปมาระหว่างทั้งสอง) ทำให้ผู้เล่นอดใจไม่ได้ที่จะเอ็นดู หลงรัก และอยากเอาใจช่วยให้ทั้งหมดประสบความสำเร็จ
เรื่องราวโดยรวมแล้วคือ Sci-fi และผมเองก็เป็นแฟนคลับหนังแนวนี้ และโปรดเชื่อผมหากผมจะบอกว่า 13 Sentinels: Aegis Rim เป็น Sci-fi ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เท่าที่เคยมีมา มันไม่เพียงเป็น Sci-fi ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในสื่อการละเล่นอย่างเกม แต่เป็น Sci-fi ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกสื่อบันเทิง ดังนั้นผมจะไม่พูดอะไรต่อไปอีก เพราะอยากจะให้ทุกท่านสัมผัส Sci-fi ที่น่าทึ่งที่สุด แบบมือหนึ่ง
บางฉากบางตอนก็ทำเอาขนลุก
เกมนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงรักศิลปะการเล่าเรื่อง ทำให้ผมศึกษาเพิ่มเติมและมีเครื่องมือวิเคราะห์การเล่าเรื่องราวเนื้อเรื่องจากสื่อความบันเทิงอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากเกม จากอนิเมะหรือมังงะ รวมถึงภาพยนตร์และนวนิยาย เป็นเกมที่ทำให้ผมดื่มด่ำและชื่นชมการเล่าเรื่องอย่างซีรีส์ Monogatari และติดตามมังงะอย่าง Akane Banashi
เป็นอีกเกมหนึ่งที่ทำให้ผมคิดว่า เกมคือสุดยอดสื่อที่มนุษย์สามารถใช้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มันทำให้ผู้เสพสื่อดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่องประหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครนั้นด้วยวิธีการเล่น เกมแรกที่ทำให้ผมคิดแบบนี้คือ Nier: Automata และตัวอย่างอื่น ๆ ก็มีให้เห็นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น God of War หรือ Death Stranding
Nier: Automata
(ตอน Nier: Automata ประกาศทำเป็นอนิเมะ ผมกังวลอย่างสุดซึ้งว่ามันจะสามารถจับอารมณ์ความรู้สึกและประสบการณ์ของผู้ชมได้เหมือนที่เกมทำต่อผู้เล่นได้หรือเปล่า ยังไงก็ต้องรอต่อไปครับ)
แท้ที่สุดแล้ว 13 Sentinels: Aegis Rim เป็น Sci-fi ที่บอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ ความเป็นมนุษย์ ธรรมชาติของมนุษย์ และมากไปกว่านั้น มันคือเรื่องราวของความเป็นไปได้ของมนุษย์ ที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับตัว และเรียนรู้จากประสบการณ์ของมนุษยชาติในแต่ละยุคสมัย เพื่อที่จะก้าวต่อไปอย่างสง่างาม มันเป็นเรื่องราวที่งดงาม และมีบทสรุปที่ผมต้องวางจอย ลุกจากโซฟาที่นั่งแช่เป็นชั่วโมง ๆ และเม้มปากขมวดคิ้ว ปรบมือชื่นชมให้เป็นนาที
ฉากหนึ่งในเกม 13 Sentinels: Aegis Rim
เมื่อเล่นจบแล้ว ปากลั่นออกมาว่า “บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว” และในใจคิดว่า อยากเล่นใหม่อีกรอบ โดยที่ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเกมนี้อยู่ เพียงเพื่อให้ได้รู้สึกถึงประสบการณ์น่าเหลือเชื่อนั้นอีกรอบอย่างสดใหม่
ผมเล่นเกมนี้จบเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว และทุกวันนี้ แม้ว่าจะเล่นเกมอื่น ๆ หลังจากนั้นไปหลายเกม ก็ยังเอาเกมนี้ออกจากหัวไม่ได้ ความรู้สึกเมื่อได้เล่นเกมนี้และประสบกับเรื่องราวของแต่ละตัวละคร และอารมณ์ที่ได้รับในตอนจบยังอยู่ในใจเสมอไม่จางหาย ประหนึ่งเป็นความทรงจำที่ดีจากการที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนสำคัญเมื่อนานมาแล้ว
เกมนี้ลงให้เล่นในเครื่อง Nintendo Switch เมื่อปี 2022 โดยมีการปรับเปลี่ยนการเล่นในโหมด Destruction เล็กน้อย ผมคิดว่าจะหาซื้อมาเล่นในเครื่อง Switch อีกครั้ง ดังนั้น เกมนี้จึงสามารถเล่นได้ทั้งในเครื่อง PS4 และ Switch ใครที่มีเครื่องอยู่ ไปจับมาเล่นครับ
BJ = Best Boy
เกมออกมานานมากแล้ว และก็ใช่ว่าจะยังมีฉายา The Most Underrated Video Game Ever มีคนเข้าถึงและเล่นเกมนี้เยอะมากขึ้น และเสียงตอบรับเป็นเสียงยกย่องและนับถือผู้สร้างทั้งนั้น 13 Sentinels: Aegis Rim ได้แทบจะได้รับงบการโฆษณาเกมเป็น 0 เพราะเมื่อเกมนี้ออกมา แทบไม่มีใครรู้จักหรือพูดถึงเลย และในชุมชน JRPG เองก็แทบไม่พูดถึงหรือแนะนำเกมนี้
เสมือนว่า ทั้งผู้สร้าง และชุมชน JRPG จงใจคงสถานะ Hidden Gem ของเกมนี้เอาไว้ ประหนึ่งว่า “เฮ่ มันมีเกมที่สุดยอดที่สุดอยู่เกมนึงนะ หากหาเจอก็ยินดีต้อนรับ และโชคดีกับประสบการณ์ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน” ดังนั้น เกมนี้จึงได้รับความนิยมและโด่งดังขึ้น ไม่ใช่เพราะการโฆษณา แต่เป็นการแนะนำปากต่อปากกัน และความยอดเยี่ยมของเกมนี้ก็มีแต่สร้างเสียงตอบรับเชิงบวก จนทำให้ 13 Sentinels: Aegis Rim เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จที่สุดของค่าย Vanillaware
13 Sentinels: Aegis Rim มีจุดเด่นที่เรื่องราวและการเล่าเรื่อง และความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวอันซับซ้อนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านศิลปะการเขียนเรื่องและเขียนตัวละครที่น่าติดตาม ผลลัพธ์แสดงออกถึงความเอาใจใส่และ Passion ของทีมผู้สร้าง ที่ต้องใช้เวลาพัฒนาเนื้อเรื่อง การกำกับและพากษ์เสียงตัวละคร การกำกับและวาดภาพประกอบ ที่แม้ว่าจะเป็น 2D แต่มีชั้นเชิงและวิจิตรงดงาม
Art 2D ของเกม 13 Sentinels: Aegis Rim
การพัฒนาเกมที่ซับซ้อนและยุ่งยากขนาดนี้ เป็นความมหัศจรรย์ และเป็นการเชิดชูการทำเกมไปพร้อมกับแนวเรื่อง Sci-fi แน่นอนว่าเกมต้องประสบพบเจออุปสรรคมากมาย แต่ผลผลิตที่ออกมาเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของพยายามเหล่านั้น จากปากของผู้ก่อตั้งค่าย Vanillaware เอง George Kamitani กล่าวเมื่อเปิดตัว 13 Sentinels: Aegis Rim บนเครื่อง Nintendo Switch เมื่อกันยายน ปี 2020 ว่า:
หลายปีผ่านไป ... และการพัฒนาของ 13 Sentinels: Aegis Rim ประสบอุปสรรคนับไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า เกมนี้คือความทะเยอทะยานอันมุทะลุอย่างแท้จริง: เป็นความพยายามที่จะนิยามความเป็นไปได้ของ “การเล่าเรื่องผ่านเกม” ใหม่
George Kamitani เนื่อในโอกาสเปิดตัวเกม 13 Sentinels: Aegis Rim ลงระบบ Nintendo Switch เมื่อปี 2020
George Kamitani
13 Sentinels: Aegis Rim เป็นเกมที่ไม่เหมือนเกมอื่น ๆ ที่เคยมีที่ไหนมาก่อน และอาจจะไม่มีเกมแบบนี้อีกแล้วในอนาคต ผมเองก็หาเกมอื่น ๆ มาเล่นอีกเยอะมาก เพียงเพราะความหวังที่จะได้รับประสบการณ์แบบที่เกมนี้มอบให้ แต่ก็ยังไม่เจอสักที และ George Kamitani พูดในโอกาสเดียวกันว่า:
ผมไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถสร้างเกมแบบนี้ได้อีก
George Kamitani เนื่องในโอกาสเปิดตัวเกม 13 Sentinels: Aegis Rim ลงระบบ Nintendo Switch เมื่อปี 2020
คำของ George Kamitani เนื่องในโอกาสเปิดตัว 13 Sentinels: Aeigs Rim ลงระบบ Nintendo Switch เมื่อปี 2020
อย่างน้อยที่สุด Masterpiece อย่าง 13 Sentinels: Aegis Rim จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างเกมหน้าใหม่สร้างเกมคุณภาพต่อไปในอนาคต
และแน่นอนว่าเพลงประกอบเกมนี้ทำเอาใจเต้นทุกครั้ง (ภาพนี้ไม่ใช่สปอยแต่อย่างใด)
ไปหามาเล่นครับ
โฆษณา