14 มิ.ย. 2023 เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เปิดสมรภูมิเดือด AI 'Nvidia' รับอานิสงส์ ดีมานด์ Chatbot พุ่ง

เปิดสมรภูมิเดือดเอไอ "อินวิเดีย" (Nvidia) รับอานิสงส์ดีมานด์พุ่ง โดยความสนใจในปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) บานเป็นดอกเห็ดนับตั้งแต่โอเพนเอไอเปิดตัวแชตบอต “แชตจีพีที” เมื่อเดือน พ.ย.ปีก่อน สร้างความตกตะลึงให้ผู้คนกับความสามารถในการตอบคำถามสลับซับซ้อนเหมือนที่มนุษย์ทำ
แชตจีพีที (ChatGPT) พัฒนาโดยบริษัทสหรัฐ “โอเพนเอไอ” เป็นเอไอแชตบอตที่สามารถตอบคำถามป้อนโดยผู้ใช้ กลายเป็นความนิยมอย่างมากจุดประกายให้เกิดความสนใจในเอไอรู้สร้าง (เจเนอเรทีฟเอไอ) เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังแชตจีพีที
1
แต่จะว่าไปแล้วเอไอไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับยักษ์เทคโนโลยี ดิอีโคโนมิสต์รายงานว่า เมื่อปี 2557 เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งอเมซอนสอบถามทีมงานถึงวิธีฝังเอไอลงในผลิตภัณฑ์อเมซอน 2 ปีต่อมาซันดาร์ พิชัย บิ๊กบอสอัลฟาเบตเริ่มเรียกบริษัทของตนว่า “บริษัทเอไอแห่งแรก”
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ข้อมูลการขายและส่งสินค้าแก่อเมซอน ช่วยกูเกิลค้นสิ่งต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต แอ๊ปเปิ้ลนำไปใช้ใน Siri ไมโครซอฟท์ช่วยลูกค้าจัดการข้อมูลและแนะนำการโฆษณาที่ผู้คนมหาศาลพบเห็น
ยักษ์เทคโนโลยีมีทุกสิ่งทุกอย่างให้เติบโตและผนึกความโดดเด่นในยุคเอไอได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล พลังคอมพิวติง และผู้ใช้หลายพันล้านคน แต่พวกเขายังจำได้ถึงชะตากรรมของเจ้าใหญ่อย่างโกดักและแบล็กเบอร์รี ที่พลาดการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มดิจิทัลรอบก่อนจนต้องล้มละลายหรือไม่ใช่บริษัทเทคอีกต่อไป ดังนั้นไม่ว่าเอไอจะรุ่งหรือร่วง บิ๊กเทคล้วนไม่อยากพลาดต่างทุ่มเม็ดเงินลงทุนกับเทคโนโลยีนี้
ในปี 2565 ห้าบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ที่เรียกกันว่า บิ๊กไฟว์ ทุ่มเม็ดเงินวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) 2.23 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.09 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2562 ท่ามกลางวิกฤติตลาดหุ้นนำโดยภาคเทคโนโลยีนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายฝ่ายทุน 1.61 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 3 ปี เท่ากับว่าทั้งหมดนี้คิดเป็น 26% ของรายได้ห้าบริษัทรวมกันในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2558
โฆษณา