12 มิ.ย. 2023 เวลา 12:48 • ข่าวรอบโลก

Vladimir Putin จากสายลับ KGB สู่การเป็นประธานาธิบดีตลอดการแห่งรัสเซีย

วลาดีเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1952 ในเมืองซานต์ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg) ในสหภาพโซเวียต (Union of Soviet Socialist Republics, USSR) ซึ่งปัจจุบันเป็นกลายเป็นประเทศรัสเซีย (Russia) เป็นนักการเมืองและประธานาธิบดีรัสเซีย โดยเป็นประธานาธิบดีรีครั้งแรกในปี 1999-2000 และเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน (ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021)
ปูตินเป็นบุตรชายคนที่สองของวิคตอร์ ปูติน และเมรีญา ปูติน ในช่วงเรียนหนังสือเข้าร่วมในสาขาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยซานต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในช่วงปี 1975-1977 เขาเข้าร่วมการบริหารงานในสาขาสำรวจรัสเซีย ภายหลังจากที่เข้าร่วมกองทัพเรือโซเวียตในช่วงปี 1970-1980 ในปี 1991 เขาสำรวจทำงานในบริษัทเดอะอัมมูเนียเซ็นเตอร์ (The Ammu-nia Center) ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมสืบสวนอาชญากรรมและวัฒนธรรมในรัสเซีย
2
ในช่วงปี 1991-1996 เขาเป็นรองปลัดกระทรวงภูมิทัศน์และวัฒนธรรมของรัฐสภาสูงสุดซึ่งเป็นตัวแทนของประธานาธิบดีแม่น้ำเนวา (Neva) ในรัสเซีย ในช่วงเดียวกัน เขาเป็นประธานกรรมการสอบสวนอาชญากรรมสูงสุดซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้กำกับสืบสวนอาชญากรรมสูงสุดในรัสเซีย
ในปี 1999 เมื่อประธานาธิบดีบอริสเอล ยัฐยา อัสซาดอฟ ลากอฟ (Boris Yeltsin) ประกาศจากการรับราชการ ปูตินถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐประหารใหม่ ในการเลือกตั้งที่ได้จัดขึ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2000 ปูตินถูกเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย เขาได้รับการเลือกอีกหลายครั้งในทางการเมืองและเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน
การปกครองของพุตินเน้นการเสรีภาพทางเศรษฐกิจ แต่ก็มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเข้มงวด ในระหว่างการปกครองของปูติน รัฐบาลรัสเซียให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเสริมสร้างองค์กรรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ เขายังเป็นตัวแทนการสร้างความมั่นคงในสหภาพโซเวียตเก่าและรัฐเครือข่ายแห่งชาติ (Commonwealth of Independent States)
ในด้านการการเมืองและนโยบายต่างๆ ที่ปูตินดำเนินมาในช่วงการปกครองของเขา มีการเสริมสร้างอำนาจของรัฐบาล และความคุมสื่อมวลชน รวมถึงการยับยั้งการต่อต้านการเมือง ซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพประชาธิปไตย นับถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีกล่าวถึงในระดับนานาชาติ
ในด้านการนโยบายต่างประเทศ ปูตินเน้นให้ความสำคัญกับสิทธิและอิสรภาพของรัสเซียในฐานะประเทศใหญ่ รวมถึงสนับสนุนความเสถียรภาพและการควบคุมในภูมิภาคโลก พร้อมกับก้าวหน้าในการพัฒนากำลังทหารและการคุ้มครองส่วนตัวของรัฐบาลรัสเซีย
1
อย่างไรก็ตาม ปูตินยังได้รับการสนับสนุนจากส่วนหนึ่งของประชาชนในรัสเซีย โดยเหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาได้เพิ่มระดับความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการปรับปรุงในด้านสาธารณูปโภค เป็นต้น
สำหรับประวัติของวลาดีเมียร์ ปูติน จะยังคงเป็นเรื่องที่กำลังพัฒนาต่อไป โดยจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงและเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจส่งผลต่อการปกครองและบทบาทของเขาในรัสเซียและระดับนานาชาติได้อย่างชัดเจนกว่า
เมื่อเข้าสู่ปี 2020 สภาวิธีการรัฐบาลของรัสเซียได้ปรับแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้วลาดีเมียร์ ปูตินสามารถต่อทรัพย์สินได้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเขาจะสามารถคงความสำคัญและอำนาจเมื่อต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2024 เมื่อกำหนดการสิ้นสุดของระยะเวลาที่สามารถประกอบตัวได้ต่อเนื่องอีกครั้งตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันของรัสเซีย
การมีความคิดต่างเกี่ยวกับการปกครองของปูตินก็ยังคงอยู่ บางกลุ่มถือว่าเขาเป็นผู้นำที่มีพลังและมีผลสร้างสรรค์ในการเสริมสร้างรัสเซีย อีกทั้งยังเชื่อว่าเขาได้เสนอแผนที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและพื้นฐานสังคมในประเทศ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้คนและกลุ่มอื่นที่เห็นว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและความเสรีภาพในช่วงการปกครองของเขา และเป็นผู้ก่อให้เกิดความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอกของรัสเซีย
อนาคตของวลาดีเมียร์ ปูตินและบทบาทของเขาในการเมืองและทางด้านระหว่างประเทศยังคงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสถานการณ์ทางสากลอาจมีผลต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะต้องรอดูและติดตามเพื่อเข้าใจถึงการพัฒนาของสถานการณ์และการปกครองในรัสเซียในอนาคต
โฆษณา