12 มิ.ย. 2023 เวลา 14:17 • ความคิดเห็น
ผมมองว่า
เส้นที่แบ่งระหว่าง
การใช้ชีวิตอยู่ลำพัง
กับ
การใช้ชีวิตคู่
มันเป็นเส้นที่
บางมากๆ
เพราะเอาเข้าจริงๆ เมื่อมี “เหตุและปัจจัยเกื้อหนุน”
- คนที่อยู่คนเดียวก็อาจจะกลับกลายไปเป็นคนที่มีคู่
- คนที่มีคู่อยู่ดีๆ ก็อาจจะได้กลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง!
ผมจึงมีความเห็นว่า
ที่สุดแล้ว เมื่อเรามีความสุข, ความพึงพอใจ, ความภาคภูมิ และรู้สึกขอบคุณที่ได้เป็นตัวเองแล้วนั้น
1
ไม่ว่าคุณจะอยู่คนเดียวหรือใช้ชีวิตคู่ ก็ไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด
เพราะเราอาจหนีอะไรต่ออะไรได้ แต่
เราหนีความเป็นตัวของตัวเอง
ไม่พ้น!
1
นั่นคือ
Wherever you go,
there you are!
และไม่ว่าคุณจะมีความสุขหรือไม่ กับการเป็นตัวเอง คุณก็ไม่สามารถ “ซ่อน” ความรู้สึกที่แท้จริงนั้นได้!
ความสุขทุกข์ของคุณจะ แผ่รังสี หรือ
Radiate
ออกมาให้คนรอบข้างได้รับรู้ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม, ไม่ช้าก็เร็ว, ไม่มากก็น้อย
โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าชีวิตของผม ต้องการให้ใครมาเติมเต็ม หรือต้องการไปเติมเต็มชีวิตใคร
และที่เป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะองค์ประกอบสองสิ่งที่ผมมี
และสองสิ่งดังกล่าวมันทำให้ผม รู้สึกดีที่ได้เป็นตัวเอง!
1) “Self image”
ผมเพิ่งมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ที่มีกล่าวถึงกันมาอย่างยาวนาน
เรื่อง
“Good Will Hunting”
plot ของเรื่องมีอยู่ว่า
Will เป็นเด็กกำพร้าเพราะถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง
เขาเป็น “อัจฉริยะ” ที่สามารถแก้สมการคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนที่แม้แต่อาจารย์ในสถานศึกษาชั้นนำอย่าง MIT ยังต้องพึ่งเขาในการช่วยหาคำตอบ ทั้งที่ Will ไม่ใช่นักศึกษา แต่เป็นเพียงแค่ภารโรงเท่านั้น
แต่ Will มีปัญหาด้านจิตใจเพราะเขามักมีเรื่องทัเลาะวิวาทเป็นประจำ
จนอาจารย์ท่านขอให้นักจิตวิทยาช่วยค้นหาวิธีช่วยให้ Will กลับมาเดินบนเส้นทางที่คู่ควรกับความเป็นอัจฉริยะของเขา
Will เองมีแฟนสาวที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะ และแฟนของเขาชวนเขาไปอยู่ต่างเมือง แต่ Will ปฏิเสธที่จะย้ายเมือง เพราะ Will คิดว่าเขามีทุกอย่างที่ MIT อยู่แล้ว
จนทั้งสองต้องแยกทางกัน! โดนแฟนสาวย้ายไปอีกเมืองโดยไม่มี Will
เรื่องราวดำเนินไปจนนักจิตวิทยาค้นพบว่า
“Will รู้สึกหวาดกลัวกับการถูกทอดทิ้ง เพราะปมในใจที่เขาเป็นเด็กกำพร้าเพราะคนที่สมควรจะรักเขามากที่สุด ซึ่งก็คือพ่อแม่ของเขายังทอดทิ้งเขาได้
Will จึงกลัวว่า แฟนอาจทอดทิ้งเขาในวันข้างหน้า และงานดีๆอาจไล่เขาออกได้เช่นกัน
Will จึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายปฏิเสธคนรัก ซึ่งสำหรับเขา
นั่นย่อมดีกว่าที่จะให้
คนรักเป็นฝ่ายปฏิเสธเขาในวันหน้า
ต่อมา Will เริ่มคิดได้จากความช่วยเหลือของนักจิตวิทยา และเขา “ไม่กลัว” ที่จะถูกปฏิเสธอีกต่อไป ทั้งจากแฟนและงานดีๆที่เขาคู่ควร
และ Will ได้เดินทางไปพบแฟนสาวที่อยู่ต่างเมืองในตอนท้ายของเรื่อง
ดังนั้น
การที่คนเราจะมีความสุขกับตัวเองได้ ส่วนสำคัญคือ เราต้องได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวพ่อแม่พี่น้องและญาติมิตรเป็นพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง!
2) “Obsession”
ผมชอบคำกล่าวที่ว่า
If a man has not found something worth dying for, he is not fit to live.
Martin Luther King Jr.
นั่นคือ
ถ้าคุณมีสิ่งที่คุณหลงใหลอยู่แล้ว คุณจะเห็นคุณค่าในชีวิตของคุณเอง
เป็นอย่างมาก
และคุณจะไม่มาเสียเวลาตีค่าชีวิตของคุณจากสถานภาพของการอยู่คนเดียว, มีคู่ หรือมี Harem!
1
Just live your life,
and
chill the fuck
out!
โฆษณา