Salzburg เมืองที่เป็นประวัติศาสตร์ & ต้องมนต์ไปด้วยเพลงคลาสสิก 🏰🎶
📍Salzburg, Austria
หลายๆคนอาจจะงงว่า Salzburg อยู่ที่ประเทศไหน?
Salzburg อยู่ที่ประเทศ Austria ทวีปยุโรป ซึ่งอยู่ติดกับ เมือง Munich ที่ประเทศ Germany
ประเทศ Austria with no kangaroo หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่ามีประเทศนี้อยู่ เนื่องจากประเทศ Austria เป็นประเทศปิด ซึ่งการขอทำวีซ่านักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์จากการที่ได้ไปประเทศ Austria มา
ขอเกริ่นไว้ก่อนเลยว่า ประเทศ Austria เป็นประเทศที่อนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างมากๆ ซึ่งทำให้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีอายุมากๆ อย่างเช่น ปราสาทที่ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยก่อนสงคราม หรือ ช่วงยุคกรีกโรมัน
🚩Trip in Salzburg 🏰
เราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ที่ห้ามพลาดกันค่ะ‼️
มาเริ่มเที่ยวกันเลย Let’s go !
เรานั่งรถไฟชั้น First class จาก Graz to Salzburg ใช้เวลาเดินทาง
ประมาณ 5 ชม.
Train Graz to Salzburg 🚈
Train 🚈
• รถไฟเรานั่งแบบ First Class จะเป็นแบบห้องกระจกส่วนตัว นั่งได้ 4 คนค่ะ
มีแอร์ โต๊ะ ชั้นวางสัมภาระ ที่แขวนกระเป๋า หรือ เสื้อกันหนาว มีถังขยะ
เบาะปรับเอนได้ *( โต๊ะสามารถพับเก็บได้ )
• ชั้น Business Class จะเป็นห้องกระจกส่วนตัวเหมือนกัน นั่งได้ 6 คนค่ะ
มีแอร์ โต๊ะ ชั้นวางสัมภาระ ที่แขวนกระเป๋า หรือ เสื้อกันหนาว มีถังขยะ
เบาะปรับเอนได้ *( โต๊ะสามารถพับเก็บได้ )
• ชั้น Economic Class จะเป็นไม่ได้เป็นห้องกระจกส่วนตัว มีให้เลือกนั่งแบบโต๊ะกลม สำหรับคนที่มาหลายๆคน และ มีแค่ที่นั่งอย่างเดียวค่ะ ขึ้นอยู่กับเราเลือกที่นั่งค่ะ ว่าอยากนั่งแบบคนเยอะๆ หรือ คนน้อย
มีแอร์ โต๊ะ ชั้นวางสัมภาระ ถังขยะ เบาะปรับเอนได้
🚈 บนรถไฟจะมีคาเฟ่อยู่หน้าขบวนค่ะ มีบริการขายอาหารและเครื่องดื่ม
มีโต๊ะสูงๆแบบในร้านกาแฟค่ะ ห้องน้ำใหญ่มาก สะอาดมาก มีพนักงานคอยทำความสะอาดอยู่ตลอด ทางเดินจะมีถังขยะต้องแยกขยะด้วยนะคะ
🚈 วิวสวยมากค่ะ เรานั่งรถไฟทั้งขาไป-กลับ ไม่ได้นอนเลยค่ะ นั่งชมวิวเรื่อยๆเลย เพลินมาก 🤩
🚈 ถ้านั่งรถไฟไปสุดสายจะไปจอดที่ Munich ประเทศ Germany ด้วยค่ะ
Grödig 🚠 : นั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปบนยอดเขาแอลป์มีความสูงเหนือจากน้ำทะเล 1853 ม. 🌨
Alpine peak ☃️❄️
เรามารู้จักเทือกเขาแอลป์กัน 🌟
เทือกเขาแอลป์เป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป โดยครอบคลุมตั้งแต่ประเทศออสเตรีย, อิตาลี และสโลวีเนีย ไปจนถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์, ลีชเทินชไตน์, เยอรมนี และฝรั่งเศสยอดของเทือกเขาแอลป์มีชื่อว่า มงบล็อง มีความหมายว่า ภูเขาสีขาว
❄️ เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว จะมีการตรวจตั๋ว เมื่อตรวจตั๋วเสร็จแล้ว เราก็จะนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว ข้างบนจะมีร้านอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ยุโรป และบนยอดเขาเป็นที่ยอดฮิตในการเอาเบียร์ไปบ่มในที่อุณหภูมิติดลบอีกด้วย 🤩
ต่อมาเรานั่งรถบัสไปที่ Schloss Hellbrunn ⛲️
Schloss Hellbrunn ⛲️ : เป็นพระราชวังตากอากาศ สร้างขึ้นไว้สำหรับเจ้าชายเสด็จมาพักผ่อนช่วงฤดูร้อน ☀️
Schloss Hellbrunn ⛲️
เรามาดูประวัติของ Schloss Hellbrunn กันน 🌟
Schloss Hellbrunn หรือ พระราชวังตากอากาศ โดยพระราชวังนี้สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1613-1619 สร้างขึ้นโดย Markus Sittich von Hohenems was Prince-Archbishop of Salzburg
โดยพระราชวังนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของน้ำพุ และรูปปั้นต่างๆ
⛲️ เมื่อเราเข้ามาถึงพระราชวัง Hellbrunn แล้ว จะมีการตรวจตั๋ว เมื่อตรวจตั๋วเสร็จแล้ว พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็จะแจกอุปกรณ์เครื่องฟังเสียง โดยจะสามารถกดหมายเลขและฟังคำบรรยายได้
⛲️ เมื่อเราเริ่มก้าวขาเดินเข้าไปในพระราชวัง Hellbrunn แล้วพี่ๆเจ้าหน้าที่จะพาเราเดินชมรอบสวนของพระราชวังก่อน แล้วก็จะมีตากล้องมาถ่ายรูปครอบครัวหน้าน้ำพุทางเข้า หลังจากนั้นพี่ๆเจ้าหน้าที่ก็จะพาเราเดินชมตามจุดต่างๆ โดยแต่ละจุดจะเรียงลำดับตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เรื่องราวจะเป็นเกี่ยวกับยุคสมัยกรีกโรมัน แล้วเราก็สามารถกดเลขฟังคำบรรยายของแต่ละจุดได้ โดยแต่ละจุดก็จะมีดีเทลต่างๆ เช่น ทางเดินออกก็จะต้องมีการเดินรอดอุโมงค์น้ำพุ หรือ รูปปั้นบางรูปสามารถพ่นน้ำออกมาได้ และขยับได้ 🤩
ลานน้ำพุ รูปปั้นตัดหัวเมดูซ่า⛲️
พระราชวังนี้มีการสร้างรูปปั้นเรียงลำดับเรื่องราวของยุคกรีกโรมัน เรื่องราวตามลำดับของเทพเจ้าทุกองค์ 🏛
⛲️ เชื่อว่าน้ำพุเมดูซ่า เป็นที่ที่ทุกคนจะต้องมาถ่ายรูป น้ำพุเมดูซ่าเป็น point ที่น่าสนใจ น้ำพุเมดูซ่าเป็นน้ำพุที่สวยมากๆ นอกจากจะสวยงามตามยุคสไตล์กรีกโรมันแล้ว เมื่อเรากลับหลังหันเราจะเป็นถ้ำที่หันหน้าเข้าหาน้ำพุเมดูซ่า โดยที่พื้นทางเข้าถ้ำก็จะมีน้ำพุพุ่งขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งตรงนี้ต้องระวังเปียกกันด้วยนะคะ แต่มันก็ไม่ได้เปียกมากเลยทีเดียว 💦
⛲️ เมื่อเราเดินเข้าไปในถ้ำแล้ว ก็จะมีทางเดินแยกไปสองฝั่ง
ฝั่งทางด้านซ้าย : จะเป็นรูปปั้นรายละเอียดต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวต่อกับเรื่องราวของเมดูซ่า
ฝั่งทางด้านขวา : จะมีบ่อน้ำขนาดย่อมที่ก็ใหญ่อยู่ 😅 บ่อน้ำนี้ให้ฟีลสไตล์เหมือนอยู่ที่สระมรกต มีความเขียวเหมือนเพชรพลอยระยิบระยับ และมีหินงอกหินย้อย
ตรงกลาง : จะเป็นน้ำตกขนาดย่อมที่ไหนลงมา และก็จะมีหน้ารูปปั้นที่ขยับตากับลิ้นได้ ซึ่งเป็นที่ฮือฮาของนักท่องเที่ยวมากๆ และรูปปั้นนี้ก็ยังเป็นโลโก้ถุงกระดาษของพระราชวังตากอากาศ Hellbrunn อีกด้วย
โดย Highlight ของพระราชวัง Hellbrunn ก็คือ …
Violin notes 🎻
โน้ตไวโอลิน คือ highlight ที่เด่นมาของพระราชวัง Hellbrunn 🎻🎶
⛲️ เมื่อเรามาถึงพระราชวัง Hellbrunn แล้วก็ไม่ควรที่จะพลาดผลงานชิ้นนี้
ผลงานชิ้นนี้คือ รูปปั้นโน้ตไวโอลิน 🤩
ต่อมาเราก็จะนั่งรถบัสไปที่จตุรัสของ Salzburg
Mozart’s Birthplace 🎼 : บ้านเกิดของ Mozart ที่ Salzburg 🎹
Mozart’s Birthplace 🎼
เรามาทำความรู้จักกับ Mozart กันน 🌟
Wolfgang Amadeus Mozart หรือที่เรียกกันว่า Mozart
Mozart เป็นนักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกชาวออสเตรีย Mozart เกิดที่ Salzburg
Mozart เกิดวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1756 และเสียชีวิตวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1791
โดย Mozart เป็นอัจฉริยะทางดนตรี ตอนอายุเพียง 5 ปี เขาสามารถเล่นคลาเวียร์ได้
และเริ่มแต่งเพลงซิมโฟนีตอนอายุ 6 ปี Leopoldo พ่อของ Mozart พาเขาออกตระเวนแสดงดนตรีไปทั่วยุโรป
จน Mozart อายุ 16 ปี เขาตัดสินใจตระเวนแสดงดนตรี และกลับมาเป็นนักดนตรีประจำราชสำนัก
แต่เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิต เพราะต้องมาอยู่ในชนบทเล็กๆ หลังจากที่ไปตระเวนโลกกว้างมาแล้ว
Mozart เกิดมาในปีแรกของสงคราม 7 ปี ซึ่ง Mozart และพ่อของเขาก็ได้เดินทางไปที่เวียนนา เพื่อไปแสดงฝีมือทางดนตรี และได้กลายเป็นแขกประจำคฤหาสน์ของชนชั้นสูงต่างๆ
ช่วง 10 ปีท้ายของชีวิต Mozart เขาทิ้งบ้านเกิดและย้ายไปอยู่ที่เวียนนา เพื่อหาโอกาสที่ดีกว่าในการเริ่มต้นชีวิตทำทุกอย่างรวดเร็วแบบผิดมนุษย์ รวมถึงการด่วนจากไปในไม่ช้าด้วยวัยเพียง 35 ปี
Mozart ได้สร้างชิ้นงานประพันธ์ไว้รวม 700 ชิ้นงาน Mozart เป็นเหมือนเทวดาตกสวรรค์ลงมาเพียงชั่วยาม
หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า “ อัจฉริยะผู้อาภัพ “
🎼 เมื่อเราเดินทางมาถึงบ้านของ Mozart แล้ว ทางเข้าก็จะมีการซื้อขาย และตรวจตั๋วก่อนที่จะเข้ารับชม ผลงานต่างๆของ Mozart
🎼 Mozart’s Birthplace ก็คือ เราจะได้เข้าไปดูจุดเริ่มต้นเรื่องราว และ
ผลงานต่างๆในบ้านของ Mozart ศิลปินดังระดับโลก ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่แจกอุปกรณ์เครื่องฟังเสียงที่สามารถกดเลขฟังคำบรรยายแต่ละจุด
🎼 เราจะได้เข้าไปในบ้านเกิดของ Mozart มีการสร้างไวโอลินและเปียโน
แบบจำลองโมเดลที่เป็นขนาดจริง และโน้ตเพลงผลงานต่างๆของ Mozart ก็ได้ถูกจัดแสดงเช่นกัน 🤩
ต่อมาเราก็เดินไปขึ้นเคเบิลคาร์เพื่อไปที่ Hohen Salzburg 🏰
Hohen Salzburg 🏰 : ป้อมปราการ ⚔️
Hohensalzburg Fortress 🏰
ภาพนี้เราถ่ายจาก Mirabell Gardens 🌺
ที่นี่คือ point หลักของการมาที่ Salzburg 🌟
Hohensalzburg Fortress คือ ป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเนินเขาของ Salzburg เป็นปราสาทยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ปราสาทตั้งอยู่บนทำเลที่โดดเด่นของเมือง และสถาปัตยกรรมของปราสาทมีอายุเกือบพันปี
View at Hohensalzburg Fortress 🏰
นี่คือวิว เมื่อเราขึ้นไปอยู่ Hohensalzburg Fortress 🏰🏔
🏰 เราก็จะต้องซื้อตั๋วที่จุดซื้อขายตั๋ว และนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปบนป้อมปราการ Hohensalzburg เมื่อขึ้นไปแล้วเราสามารถเดินชมได้รอบป้อมปราการ ซึ่งบนก็จะมีร้านอาหารที่อยู่ข้างในตัวป้อมปราการเลย แต่เราจะไม่สามารถเข้าไปเดินชมภายในตัวป้อมปราการได้ ซึ่งเราก็จะมาเล่าให้ฟังว่าข้างในของป้อมปราการ Hohensalzburg นี้มีอะไรบ้าง
🏰 ถ้าเราจะเข้าไปรับชมภายในป้อมปราการ เราก็ต้องซื้อตั๋วเพื่อที่จะเข้าไปรับชมภายในป้อมปราการ ซึ่งเมื่อเราเข้ามาแล้ว ภายในป้อมปราการก็จะมีพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการอาศัยอยู่ เช่น เครื่องฮีตเตอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี
อุปกรณ์ที่ใช้ในการสู้รบ เช่น เสื้อเกราะอัศวิน เกราะม้า อาวุธต่างๆ ปืน หอก ปืนใหญ่ โดยเสน่ห์ของการมาที่ป้อมปราการ Hohensalzburg ก็คือ การที่ยังคงอนุรักษ์โบราณสถาน และดูแลรักษาเป็นอย่างดีเรื่อยมา 🤩
ต่อมาเราก็จะนั่งรถบัสไปที่ Mirabell Gardens 🌺
Mirabell Gardens 🌺 : สถาปัตยกรรมบาโรคสุดคลาสสิก ในสมัยยุคปี 60 🌳
The Pegasus Fountain, Mirabell Gardens 🌺
มาทำความรู้จัก Mirabell Gardens กันน 🌟
Mirabell Gardens เป็นส่วนนึงของ Schloss Mirabell เป็นสถาปัตยกรรมบาโรคคลาสสิก ในสมัยยุคปี 60
Schloss Mirabell สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1606 โดย Prince-Archbishop Wolf Dietrich von Raitenau ให้แก่ภรรยาผู้เป็นที่รัก ปัจจุบันพระราชวังถูกใช้เป็นสถานที่ราชการ
Mirabell Gardens แห่งนี้สะท้อนถึงรูปแบบสวนยุโรปได้อย่างลงตัว สไตล์สวนบาโรค การประดับด้วยดอกไม้ น้ำพุม้าปีกาซัส และรูปปั้นต่างๆ โดย Ottavio Mosto ที่สะท้อนถึงองค์ประกอบ ดิน น้ำ ลม และไฟ รวมถึงรูปปั้นคนตัวเล็กๆในสวนที่จำลองมาจากคนจริงในสมัยปี 1700s
Schloss Mirabell ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก The Historic Centre of the City of Salzburg UNESCO World Heritage Site
🌺 Mirabell Gardens เป็นสวนที่เปิดอย่างอิสระ ทุกคนสามารถเข้ามาเที่ยวได้ตลอด และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้ารับชมสวนดอกไม้
🌺 Mirabell Mirabell Gardens นิยมใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน และแสดงคอนเสิร์ต
🌺 เชื่อว่าต้องมีหลายๆคนที่มา Mirabell Gardens แห่งนี้แล้วหลงใหลไปกับความสวยงามของสวนมาก Mirabell Gardens ให้ฟีลสไตล์เหมือนหลงเข้าไปในสวนดอกไม้ ที่มีดอกไม้เต็มไปหมดทุกที่มีที่นั่งชมบรรยากาศดีๆ วิวสวยที่ชวนหลงใหลที่มองเห็นไปถึงป้อมปราการ Hohensalzburg และไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็จะมีเสน่ห์ความสวยงามในทุกๆที่
🌺 แนะนำ : ควรมาช่วง Summer สวน Mirabell Gardens จะสวนมากๆ ดอกไม้จะผลิบานแสงแดดจ้า วิวสวยที่มองเห็นไปถึงป้อมปราการที่อยู่บนเนินเขา Salzburg
จุดนี้คือ Highlight เพราะว่าน้ำพุม้าปีกาซัส จะหันหน้าตรงไปทางวิหารและป้อมปราการ Hohensalzburg โดยมีอุโมงค์ดอกกุหลาบที่จะผลิบานในช่วงฤดู Summer ☀️
Mirabell Gardens, Salzburg 🌺
สำหรับ Blog นี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ หวังว่าทุกคนจะหลงใหลไปกับเสน่ห์ความสวยงามในสถาปัตยกรรม และดนตรีคลาสสิกใน Salzburg 🏰🎶
- 93
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
