เพิ่มยอดขาย เข้าใจลูกค้า ด้วย Video Analytics
เนื่องจากนวัตกรรมที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การออกแบบสินค้าใหม่ ๆ และสร้างประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้ผู้บริโภคทำได้ง่ายกว่าเดิม และสนามการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกจึงเข้มข้นกว่าที่เคย มีการนำเทคโนโลยีมากมายมายกระดับสินค้าและบริการ มีพื้นที่ที่เปิดให้ผู้เล่นรายเล็กใหญ่เข้ามาแข่งขัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และธุรกิจเองก็ต้องพยายามอย่างหนักขึ้นในการเอาชนะใจผู้บริโภค
การเข้ามาของธุรกิจ E-Commerce ก็ส่งผลกระทบกับธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมเช่นกัน เนื่องจากธุรกิจ E-Commerce นอกจากจะมีข้อได้เปรียบในด้านความสะดวกสบายที่สินค้าส่งตรงถึงหน้าบ้านแล้ว ยังสามารถเข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งกว่า จากการเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลพฤติกรรมการค้นหาสินค้าของลูกค้าบนเว็บไซต์ ช่องทางที่ลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์ ระยะเวลาและพฤติกรรมการคลิกของลูกค้า ทำให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้าประทับใจมากกว่า
แล้วธุรกิจค้าปลีกแบบออฟไลน์จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างไร? คำตอบคือ การหันมาประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Computer Vision แบบ Video Analytics เพื่อให้เข้าใจลูกค้าได้มากกว่าเดิม และสร้างประสบการณ์เหนือชั้นที่ไม่แพ้ใครนั่นเอง
เทคโนโลยี Video Analytics กับธุรกิจค้าปลีก
การใช้เทคโนโลยี Video Analytics ในธุรกิจค้าปลีก คือ การนำเอไอมาวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพภายในกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ร้านค้าออฟไลน์ได้ Insight เกี่ยวกับลูกค้าในแบบเดียวกับที่ร้านค้าออนไลน์สามารถทำได้ จึงเข้าใจลูกค้าและความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าเดิม โดยเอไอจะสามารถนับจำนวนลูกค้าในแต่ละวัน จำแนกลูกค้าตามเพศหรืออายุ
รวมไปถึงการติดตามพฤติกรรม และเส้นทาง Customer Journey ของลูกค้าตั้งแต่เดินเข้าร้าน เลือกซื้อสินค้า ไปจนถึงชำระเงิน และดูว่าช่วงไหนเป็นช่วงที่มีลูกค้ามากที่สุด เพื่อให้เรานำข้อมูลที่ได้มาปรับตำแหน่งการจัดวางสินค้าให้ใกล้ชิดและเหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้า นำไปสู่การเพิ่มยอดขาย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจอยู่รอดในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างการใช้งาน Video Analytics ในร้านค้าปลีก
-ติดตามพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อออกแบบกลยุทธ์
เทคโนโลยี Video Analytics สามารถตรวจจับและติดตามพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อดูว่าโดยรวมแล้วมีทิศทางการเดินอย่างไร เชลฟ์สินค้าบริเวณไหนที่ดึงดูดความสนใจลูกค้าและใช้เวลาอยู่ที่เชลฟ์จนเดินไปชำระเงินนานแค่ไหน
ซึ่ง Insight เหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลสินค้า ยอดขาย ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมและช่วงเวลา โปรโมชันต่าง ๆ และรูปแบบการจัดวางของร้าน เพื่อให้ร้านค้าสามารถปรับกลยุทธ์การขาย เช่น การจัดวางเชลฟ์ การจัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นยอดขายของสินค้าที่ต้องการ หรือปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
-ติดตามประสิทธิภาพของโปรโมชันและสินค้า
เราสามารถติดตามประสิทธิภาพของโปรโมชันและสินค้าได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Video Analytics ติดตามการเลือกซื้อสินค้าชนิดนั้น ๆ เพื่อดูว่าโปรโมชันและการจัดวางสินค้าช่วยเพิ่มยอดขายได้หรือไม่ และสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าหรือไม่ รวมไปถึงวิเคราะห์ว่าสินค้าตามฤดูกาลได้รับความสนใจ หรือจัดวางในจุดที่เหมาะสมหรือไม่ และการจัดวางโฆษณาสินค้าต่าง ๆ อยู่ในจุดที่ลูกค้ามองเห็นหรือไม่ เพื่อให้สามารถปรับแต่งกลยุทธ์เหล่านี้ได้รวดเร็วตามเทรนด์
-จัดการคลังสินค้าและการปฏิบัติการรายวัน
การใช้เทคโนโลยี Video Analytics ช่วยให้เราสามารถติดตามจำนวนคนเข้าร้าน และคนที่เข้าไปจับจ่ายซื้อของในแต่ละแผนก ในแต่ละวันและช่วงเวลา เพื่อจัดสรรจำนวนพนักงานและเพิ่มลดจำนวนพนักงานให้เหมาะสม รวมถึงติดตามยอดขายของสินค้าแต่ละชนิด ดูว่าสินค้าชนิดไหนเป็นที่นิยม ทำให้สามารถจัดการคลังสินค้า เตรียมสินค้าขายดีให้พร้อมรองรับความต้องการในแต่ละวัน และตรวจจับเมื่อเชลฟ์ว่างและเติมสินค้าได้ทัน เพื่อให้สามารถจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
Use case: Amazon Go ซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ด้วย Video Analytics
Amazon Go ซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ ไร้แคชเชียร์ ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อของและชำระเงินด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน Amazon Go ได้อย่างสะดวกสบาย แค่เข้าร้านไปพร้อมสมาร์ตโฟนที่มีแอปพลิเคชัน เลือกซื้อสินค้า และเดินออกได้เลย ระบบจะหักจากบัญชีที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันโดยอัตโนมัติ
โดย Amazon Go สามารถสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบนี้ได้ด้วยการใช้งานเทคโนโลยี Video Analytics ร่วมกับเซนเซอร์ต่าง ๆ ในการติดตาม Journey ของลูกค้า ตรวจจับสินค้า และทำการคิดเงินได้ถูกต้อง ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ที่ล้ำสมัยและเพิ่มความได้เปรียบให้ Amazon เป็นอย่างมาก
ข้อดีของการใช้ Video Analytics ยกระดับธุรกิจค้าปลีก
1. เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า: เช่น การนำ Insight ไปปรับแต่งเชลฟ์และโฆษณาต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าสามารถหาสินค้าที่ต้องการเจอได้อย่างรวดเร็ว เห็นโปรโมชั่นที่ถูกใจในตำแหน่งที่เห็นได้ง่าย หรือการจัดการจำนวนพนักงานอย่างเหมาะสมก็ช่วยให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็ว สร้างความประทับใจได้มากกว่าเดิม
2. ลดอาชญากรรม: การมี Video Analytics ที่วิเคราะห์พฤติกรรมของคนในร้านตลอดเวลา ทำให้สามารถเพิ่มระดับความปลอดภัยและโอกาสในการป้องกันก่อนจะเกิดเหตุได้ โดยเอไอสามารถตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น การลักขโมย หรือพฤติกรรมที่ดูไม่ปลอดภัยต่อผู้คนในร้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้จัดการได้อย่างรวดเร็ว
3. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน: การใช้ Video Analytics นับจำนวนลูกค้า ทำให้ร้านค้าสามารถจัดสรรจำนวนพนักงานในแต่ละวันและในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างเหมาะสม ไม่ทำให้เกิดภาระงานที่มากเกินไป และการมีเอไอช่วยเป็นหูเป็นตา ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้พนักงานสามารถบริการลูกค้าได้ง่ายขึ้นและช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ความท้าทายของการใช้เทคโนโลยี Video Analytics ในธุรกิจค้าปลีก
- ข้อมูลวิดีโอในโลกความเป็นจริงอาจมีความซับซ้อนมากกว่าข้อมูลที่เอไอได้รับการเทรนมา เช่น จำนวนคนที่มากเกินไป หรือลักษณะใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเรียนรู้มาก่อน ทำให้โมเดลต้องได้รับการเทรนให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน โดยเทคโนโลยี Video Analytics ที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมไปถึง Pipeline ที่ซับซ้อน จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูแล
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากชุดข้อมูลวิดีโอมีขนาดใหญ่ ต้องอาศัยการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพที่จะรองรับได้เพียงพอ ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่สูง
ที่เซอร์ทิสเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชัน Computer Vision และ Video Analytics ที่พร้อมจะออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อพัฒนาโมเดลที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ดูแลตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงการออกแบบ Pipeline และการเลือกแนวทางการจัดเก็บข้อมูลที่จะดึงศักยภาพของโมเดลออกมาได้สูงสุด คุ้มทุนที่สุด พร้อมช่วยดูแลการทำงานของโมเดลให้มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่เสมอ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน Video Analytics เพื่อธุรกิจค้าปลีกจากเซอร์ทิสได้ที่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
