Update - 8 สิ่งที่ต้องเตรียมเที่ยวเขาสก หน้าฝน @เขื่อนเชี่ยวหลาน
สูงวัยพร้อมก็ออกเดินทางได้
"เขื่อนเชี่ยวหลาน" หรือชื่อทางการว่า "เขื่อนรัชชประภา" อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำหรับคนกรุงเทพฯ อย่างเรา การเดินทางไปเขื่อนเชี่ยวหลานนั้นนับว่าไกลและใช้เวลามากอยู่ แต่ก็เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ต้องไปสักครั้ง
✈️✈️ เริ่มจาก ตื่นตี 3 เพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง 7 โมงเช้า จากกรุงเทพฯ - สุราษฎร์ธานี ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง
🚘🚘 จากนั้นนั่งรถยนต์ต่อไปยังท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน ใช้เวลาไปถึงท่าเรือประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะทานอาหารเบาๆ ก่อนลงเรือ ต้องทำเวลาพอสมควรเพราะต้องไปขึ้นเรือให้ทันในเวลา 11:30 น.
🚤🚤 จากนั้นนั่งเรือหางยาวไปแพที่พัก อีกประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางมีแวะถ่ายรูปเขาสามเกลอ หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย อีกนิดหน่อย ถึงที่พักประมาณ 13:00 น.
การเดินทางทั้งหมด อากาศ + บก + น้ำ ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เหมือนไม่นานเท่าไร แต่ใช้เวลาจริงรวมเตรียมตัวร่วม 10 ชั่วโมง จึงต้องถามตัวเองก่อนที่จะไปเขื่อนเชียวหลานแห่งนี้
- ✓รักธรรมชาติ หรือแค่อยาก Check In ตามเพื่อน
- ✓ร่างกายแข็งแรงพอที่จะเดินทางในหน้าฝน
- ✓ชอบกิจกรรมทางน้ำ เปียกและออกแดดได้ทั้งวัน
- ✓โลกอินเทอร์เน็ตแบบจำกัด ทีวีไม่มี สายซีรีส์ไม่ต้อง
- ✓ลดดีกรีความหรูหรา สะดวกสบาย
ถ้าตรงตามนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทาง ไปนอนแพที่อยู่ลึกที่สุด สวยที่สุดในเขื่อนเชี่ยวหลานกันเลย
- 1.สัมภาระน้อยชิ้น กันน้ำ ไม่ต้องแบรนด์เนม
การลงเรือหางยาวเพื่อไปแพที่พัก ไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยยกกระเป๋า แม้จะพักแพที่หรูที่สุดในเขื่อน ก็ต้องยกกระเป๋าเองตลอดทางที่ลงจากรถ ช่วงพื้นราบก็เข็นได้สบาย พอจะลงบันไดท่าเรือนี่สิต้อง "ฮึบ" กันเลย 😓
ไม่แน่ใจว่าเป็นนโยบายของทางรีสอร์ท หรืออุทยาน เพื่อไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวขนอาหารหรือขวดเครื่องดื่มไปที่รีสอร์ทมากเกินความจำเป็น เป็นการจำกัดขยะในอุทยานอีกทางหนึ่งด้วย
ที่แพส่วนใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่ม หรืออาหาร ขึ้นแพอยู่แล้ว
ช่วงต้นฤดูฝน น้ำในเขื่อนอยู่ในระดับต่ำมาก บันไดที่จะลงไปขึ้นเรือ นั้นชันยาวลึกลงไปเหมือนตึก 3-4 ชั้นได้ ฝนก็ตก..กระเป๋าก็หนัก..บันไดก็ชัน ต้องระมัดระวังลื่นให้มาก
(ตรงนี้ อยากให้ทางอุทยานมีกระเช้า ขนสัมภาระเลื่อนขึ้นลงให้นักท่องเที่ยวจังเลย🙄 รับรองจะร่วมมือไม่ขนขยะไปให้ผืนป่า)
บันไดลงท่าเรือ
บริเวณท่าเรือ จุดลงรถ
เรือหางยาวของชาวบ้าน ไม่มีหลังคากันฝน มีแค่สแลนกันแดด เมื่อเรือออก..ฝนก็เทลงมา กระเป๋าไม่รอดอยู่แล้ว เปียกเต็มๆ ฉะนั้นกระเป๋าควรกันน้ำได้ แบรนด์เนม ของรักของหวง ไม่ต้องเลยนะ เดี๋ยวจะกังวลจนเที่ยวไม่สนุกกัน
เรือจอดรอตามคิว
2. เตรียมอุปกรณ์ ลุยได้ทุกสภาวะ
เปียกได้ทุกรูปแบบ
เตรียมชุดและอุปกรณ์ที่เหมาะกับกิจกรรม
เสื้อกันฝน เสื้อกันแดด กันยูวี สำหรับกิจกรรมเดินป่า พายเรือคายัค เพราะตอนฝนหยุด แดดก็แรงเหมือนกัน
เปียก แดด ทั้งวัน
กล้องกันน้ำ ช่วยให้เก็บรูปภาพในหลายกิจกรรมได้ โดยไม่ต้องกังวลกับฝนที่ตกลงมาโดยไม่นัดหมาย
ชุดว่ายน้ำ เตรียมแบบแขนยาว ขายาวก็ดี นอกจากป้องกันแดดแล้ว ยังช่วยป้องกันแมลง หรือ ขนของไผ่ (หรือหน่อไม้ ไม่แน่ใจ) ที่พัดจากป่าลงน้ำ ทำให้ลงเล่นน้ำแล้วทำให้คันตามเนื้อตัว แต่อาบน้ำหลายรอบก็หาย
หมวก ควรกันแดด กันน้ำ และมีสายรัดใต้คาง เพราะนั่งเรือจะไม่ปลิว
รองเท้าควรเป็นรองเท้าที่กระชับ กันลื่นได้ระดับหนึ่ง และพร้อมลุยเดิน เปียกได้
แพยนต์ ไปชมถ้ำ
กิจกรรมเมื่อไปถึงแพ ที่นอกจากเล่นน้ำพายคายัค เราเลือกได้ตามใจชอบ
- 1.ช่วง 7-8 โมงเช้า นั่งเรือหางยาวไปชมวิว ภูเขาหินปูน ที่คนเรือจะจินตนาการเป็นรูปต่างๆ เล่าให้เราฟัง แดดอ่อนๆ ตรงนี้เตรียมชุดสวย หมวก และกล้องไปได้เลย ไม่มีเปียกน้ำ
- 2.ช่วงสาย ไปชมถ้ำปะการัง ซึ่งต้องนั่งเรือหางยาวและเดินเท้า ไปต่อแพยนต์ ซึ่งมีทั้งเดินหญ้า ดิน หิน น้ำ รองเท้าควรกระชับรัดส้น กันน้ำได้ ช่วงฝนมีทากดูดเลือด รองเท้าหุ้มส้นจะปลอดภัยกว่า แต่ต้องยอมเปียกได้
- 3.ช่วง 4-6 โมงเย็น นั่งเรือออกไปส่องสัตว์ ส่องนก ลิง ชะนี และโชคดีจะได้เห็นวัวกระทิง (ถ้ามีฝน วัวไม่ค่อยลงมากินน้ำ โอกาสน้อยที่จะเจอ)
ใครขาแข็งแรง ก็เดินขึ้นเขาไปชมวิวได้อีก (แต่ช่วงฝนชุก อาจจะห้ามขึ้น เพราะอันตราย)
จุดชมวิว
3. ระวังเรื่องอาหารการกินก่อนเดินทาง
เมื่อวางแผนจะไปสุราษฎร์ หอยนางรม แกงส้ม แกงเหลือง แกงไตปลา เมนูทั้งหลายเหมือนจะวิ่งเข้ามาเร็วกว่าเรือด่วนเสียอีก ก่อนจะเดินทางไปพักที่แพ และระหว่างพักที่แพ ให้ระวังเรื่องอาหารการกิน เพราะเมื่อไปพักที่แพแล้ว เกิดอาหารเป็นพิษขึ้นมา นอกจากทรมานแล้ว จะหมดสนุกกันไปเลย กิจกรรมทั้งหมดที่จองไว้ก็จบกัน
การป่วยบนแพที่พัก ถึงแม้เขาจะมีเรือฉุกเฉินเตรียมให้นักท่องเที่ยว แต่เราควรระวังด้วยตัวเองก่อน อุตสาห์เดินทางมาไกล เมื่อจบทริป...ขึ้นฝั่งไปแล้ว ค่อยจัดหนักไปเลย
4. เตรียมร่างกายให้พร้อม
การเดินทางมาไกล ตื่นตั้งแต่ตี 3 เมื่อมาถึงที่พักวันแรก อย่าเพิ่งตื่นเต้นกับกิจกรรมทางน้ำ ควรพักผ่อนนอนสักหนึ่งตื่น บ่ายแก่ๆ ค่อยเริ่มกิจกรรม พายคายัค เล่นน้ำ
ยามเย็นช่วย 4-6 โมงเย็นมีกิจกรรม ออกเรือไปส่องสัตว์ มีลิง ค่าง ชะนี แต่ถ้าใครเหนื่อยจะพักผ่อนไม่ว่ากัน
กลางคืนควรรีบนอนพักผ่อน ดื่มน้ำเยอะๆ เตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อออกเรือไปชมหมอกยามเช้าในวันรุ่งขึ้น
ลิงค่างแว่น และ วัวกระทิง
5. เตรียมยาที่จำเป็น
ความเจ็บป่วยเป็นของไม่แน่นอน เตรียมยาที่นอกจากโรคประจำตัวแล้ว ควรเตรียมยา
- ★ลดไข้แก้ปวด - เล่นน้ำออกแดด เจอฝน หลายรอบ อาจป่วยได้
- ★ยาแก้แพ้ - คนกรุงเทพฯอาจไม่คุ้นเคยน้ำ หรือแมลง ทำให้คันตามเนื้อตัวได้
- ★ยาทาแก้คัน ยาทากันยุง คนแพ้มากต้องเตรียมไป
- ★ยาแก้ปวดเมื่อย ยาคลายกล้ามเนื้อ - คนทำงานที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เจอกิจกรรมพายคายัคไป เดินป่า อาจปวดเมื่อยในตอนเช้า ควรพกยานวดคลายกล้ามเนื้อไปด้วย
- ★ยาแก้ท้องเสีย คาร์บอน ต้องพกไว้ เผื่อฉุกเฉินช่วยได้มาก
- ★ยาดม ยาหอม แก้เมารถเมาเรือ เตรียมไปด้วยเลย
6. เตรียมปล่อยมือถือ
ปล่อยมือถือบ้าง ถึงแม้ที่แพจะมี wifi ให้บ้าง ทิ้งงาน ทิ้งโซเชียลไว้ข้างหลัง เตรียมเติมพลังจากธรรมชาติเพื่อกลับไปสู้กับการทำงานหนักต่อไป
ปล่อยให้มือถือ เป็นเพียงกล้องที่เก็บภาพความทรงจำ และดื่มด่ำกับธรรมชาติให้เต็มที่
ทีวี ซีรีส์ ไม่มีให้ดู ควรพกหนังสือเล่มโปรดไปสักเล่ม อ่านยามว่างหรือก่อนนอน ก็หลับสบายแล้ว
7. เก็บเครื่องประดับ และของมีค่าไว้ที่บ้าน
สามเกลอ กุ้ยหลินเมืองไทย
เครื่องประดับของมีค่าเก็บไว้ที่บ้านได้เลย ที่พักไม่มีตู้เซฟให้ และกิจกรรมทั้งหลายก็ต้องลงเรือ ลงน้ำ หรือพายคายัคตลอด
เมื่อมาถึงที่พัก เจ้าหน้าที่บนแพ จะรีบแจ้งกับนักท่องเที่ยวก่อนเลยว่า ของมีค่าใดๆ ที่ตกลงน้ำ ไม่มีบริการงมให้ เพราะน้ำลึก 40 เมตร ทางแพจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายในทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น
ไม่ต้องนำของมีค่ามาเลยจะดีที่สุด การเที่ยวของเราจะได้สนุกสุดๆ ไปเลย
8. เตรียมเปิดใจกับธรรมชาติ
การมาเที่ยวธรรมชาติช่วงหน้าฝนแบบนี้ แมลงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แมลงจะมีทุกที่ แม้กระทั่งห้องน้ำ เพราะเป็นห้องน้ำเปิดหลังคาโล่งมองเห็นวิว
จิ้งจก ก็คู่กับแมลง เราพอจัดการได้ ตกกลางคืนก็ปิดไฟหน้าห้องพัก ปิดไฟห้องน้ำ เขาก็ย้ายที่ไปห้องอื่นเอง
เพราะเห็นห้องอื่นจิ้งจก รอที่ประตูเลย จะเข้ายังไงละเนี่ย ... 😮
ช่วงเช้า อากาศดีมาก ชะนี ออกมาอาบแดด ส่งเสียงร้องอยู่ใกล้ๆ แพ จนนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยปิดเสียงเพลง ขอฟังเสียงธรรมชาติยามเช้าดีกว่า
ที่พักมีเครื่องทำน้ำอุ่น และมีเครื่องปรับอากาศ ทำให้เราหลับสบาย พอ 6 โมงเช้าเครื่องปรับอากาศจะถูกปิดอัตโนมัติ เพื่อให้เราออกจากที่นอน มาชมและสัมผัสกับธรรมชาติได้แล้ว
สวยไหม แพที่พักอยู่ลึกที่สุด และเราว่าสวยที่สุด (ไม่ได้ค่าโฆษณาเลยนะ...เราว่าแอบแพงที่สุด )
เห็นรูปแล้วใครๆ ก็อยากจะตามมา ยังไงก็อย่าลืมเตรียมตัว...ถามตัวเองก่อนมาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานนะ...แล้วคุณจะหลงรักเมืองไทยขึ้นอีกเป็นกอง
พี่พัก : แพ 500 ไร่
เครดิตภาพ : TANTAWAN
#เขื่อนเชี่ยวหลาน #เขื่อนรัชชประภา #แพ 500 ไร่ #สุราษฎร์ธานี #เขาสก #อุทยาน #เที่ยวแพ #พักแพ
- 52
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
