13 มิ.ย. 2023 เวลา 13:17 • สัตว์เลี้ยง

สายพันธุ์กระต่ายยอดนิยม

ปัจจุบันคนนิยมเลี้ยงกระต่ายกันมากขึ้น โดยเฉพาะกระต่ายที่มีขนาดตัวเล็ก และมีสีสันที่สวยงาม แต่ก่อนอื่นลองมาดูกันค่ะ ว่ากระต่ายแต่ละตัวที่มีสีสันสวยงามนั้น มีสายพันธุ์อะไรกันบ้างนะ ที่คนส่วนใหญ่เค้านิยมเลี้ยงกัน
“กระต่ายทุกสายพันธุ์มีความน่ารักและมีสีสันที่แตกต่างกันออกไป บางสายพันธุ์มีสีสันมากกว่า 10 สีซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจรับเลี้ยงกระต่ายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ”
กระต่ายสายพันธุ์อะไรบ้าง
สายพันธุ์แรกที่เราคุ้นเคยกันดี และมักจะเห็นกันบ่อยในฟาร์มหรือท้องตลาด คือเจ้ากระต่ายแคระ หรือชื่อสายพันธุ์ ที่ถูกต้องคือ “Netherland Dwarf [เนเธอร์แลนด์ดวอฟ]”
Netherland Dwarf
ในประเทศอังกฤษกระต่ายสายพันธุ์นี้ได้ถูกผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างกระต่ายสายพันธุ์โปลิช และ สายพันธุ์ดัตช์ ทำให้ถือกำเนิดลูกกระต่ายที่มีสีขาวล้วนตาฟ้า [Ruby-Eyed White] ซึ่งกระต่ายสายพันธุ์นี้ถือได้ว่าเป็น อัญมณีแห่งกระต่ายสวยงาม [Gem of the Fancy] ด้วยขนาดตัวที่เล็กจึงกลายเป็นสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงกันมากในยุคต่อๆมาค่ะ
ภาพรวม : มีขนาดลำตัวมีลักษณะกลมกระทัดรัด มีความคล่องตัวสูง
น้ำหนัก : ตั้งแต่ 7 ขีดแต่ไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม
ลักษณะนิสัย : มีนิสัยร่าเริง ช่างสงสัย โลกส่วนตัวสูงในบางเวลา บางครั้งชอบสันโดษ
สี : สีขาวตาฟ้า [Blue-Eyed White], สีดำสร้อยทอง[Black Otter], สีวิเชียรมาศ [Sable Point]
“กระต่ายมินิลอป [Mini Lop Rabbit]”
กระต่ายสายพันธุ์นี้นับเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ค่อนข้างในรับความนิยมมากในต่างประเทศ ด้วยขนาดตัวที่กระทัดรัดและหูตกที่ชวนให้ดูแปลกตา
Mini Lop Rabbit
โดยในปี 1972 ได้ค้นพบกระต่ายสายพันธุ์มินิลอปในงานแสดงกระต่ายแห่งชาติในประเทศเยอรมัน จากการถือกำเนิดของสายพันธุ์ "German Big Lop" และ "Small Chinchilla” เป็นกระต่ายที่มีขนาดตัวใหญ่ ซึ่งผู้ค้นพบก็ได้พยายามเสนอสายพันธุ์นี้ขึ้นทะเบียนอยู่หลายครั้ง และจากการลดขนาดของสายพันธุ์มินิลอปลงมาตามคำแนะนำของ ARBA ไม่นานสายพันธุ์นี้ก็ได้ถูกขึ้นทะเบียนโดย ARBA เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ภาพรวม : กระต่ายที่มีขนาดตัวเล็ก หูตก ขาสั้น ลำตัวค่อนข้างกลม
น้ำหนัก : ไม่เกิน 3 กิโลกรัม
ลักษณะนิสัย : ช่างสงสัย ขี้เล่น ่มีความฉลาดสามารถใช้บางคำสั่งในการฝึกได้
สี : สีควันบุหรี่ Siamese [Smoke Pearl], สีฮิมาลายัน [Himalayan] และอีกหลากหลายสีซึ่งหาพบได้ทั่วไป
"สายพันธุ์ Holland Lop [ฮอลแลนด์ลอป]"
สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่ง หนีไม่พ้น “Holland Lop [ฮอลแลนด์ลอป]” ด้วยความน่ารักน่ากอดทำให้กระต่ายสายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมมากทั้งในอเมริกาและแถบเอเชีย
Holland Lop
ในปี 1950 ที่ประเทศเนเธอแลนด์ ได้มีการรวมคุณสมบัติของ French Lop และ Netherland Dwarf เข้าด้วยกัน และแน่นอนว่าเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นแต่เมื่อคอกแรกปรากฏขึ้นก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เรืี่อยมาจนได้เจ้ากระต่ายน้อยหูตกน่ารักน่ากอดอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ไม่นานกระต่ายสายพันธุ์นี้ถูกขึ้นทะเบียนโดย ARBA เรียบร้อยแล้ว
ภาพรวม : กระต่ายขนาดเล็ก หูตกความยาวจากกรามลงมาไม่เกิน 1 นิ้ว ขาสั้น ลำตัวและหัวกลม
น้ำหนัก : ไม่เกิน 1.8 กิโลกรัม
ลักษณะนิสัย : นิสัยภาพรวมเป็นมิตรเรียบร้อย ช่างสงสัย และยังมีความขี้อายและกลัว แต่ไม่หวาดระแวง
สี : แบ่งกลุ่มสีออกได้ 7 กลุ่ม อาทิ กลุ่มสีขาวมีมาร์กกิ้งแปดแต้ม (Pointed White) กลุ่มสีพื้น (Self) กลุ่มสีเฉด (Shaded), กลุ่มอะกูติ (Agouti) กลุ่มสีขาวแต้ม (Broken) และสีอื่นที่สามารถพบได้ทั่วไป
“กระต่ายสายพันธุ์เร็กซ์ [Rex Rabbit]”
กระต่ายสายพันธุ์นี้โดดเด่นตรงที่มีขนเป็นกำมะหยี่ นุ่มฟูน่ากอดมากกว่าสายพันธุ์อื่น และเพราะขนที่นุ่มฟู จึงกลายเป็นกระต่ายสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นค่ะ
Rex Rabbit
โดยกระต่ายสายพันธุ์นี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของกระต่ายป่าในประเทศฝรั่งเศสช่วงปลายศตวรรษที่ 19 หลังจากนั้นได้ถูกพัฒนาต่อจนได้ขึ้นทะเบียน ARBA เช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่น และกลายเป็นอีกสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงในปัจจุบัน
ภาพรวม : มีรูปร่างทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ [แบ่งเป็น 2 กลุ่ม] มีขนนุ่มฟูเหมือนกำมะหยี่
น้ำหนัก : แบ่งเป็น 2 รุ่น อายุต่ำกว่า 6 เดือนคือรุ่น Junior น้ำหนักราวๆ 0.8 กิโลกรัม, อายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปรุ่น Senior น้ำหนักราวๆ 1.5-2.5 กิโลกรัม
ลักษณะนิสีัย : สำหรับกระต่ายเพศเมียจะมีนิสัยเรียบร้อย ไม่ชอบนอนนิ่ง ขี้สงสัย แต่สำหรับเพศผู้จะมีนิสัยก้าวร้าวในบางครั้ง [การทำหมันช่วยให้กระต่ายสายพันธุ์นี้ลดความก้าวร้าวลงได้]
สี : สีควันบุหรี่ Siamese [Smoke Pearl], สีฮิมาลายัน [Himalayan]
“กระต่ายสายพันธุ์ ดัตช์ [Dutch]”
กระต่ายสายพันธุ์มีเอกลักษณ์ที่จดจำได้ง่าย ด้วยลวดลายเหมือนสวมหน้ากากและสีขนที่มักทำให้พบเห็นได้บ่อยกว่าสีอื่น จึงสร้างความจดจำได้ง่ายพอสมควร
Dutch
กระต่ายสายพันธุ์นี้อาจเข้าใจว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศเนเธอแลนด์ ซึ่งแท้จริงแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1830 กระต่ายสายพันธุ์นี้ถูกส่งจากประเทศเบลเยี่ยมไปยังประเทศอังกฤษเพื่อการค้าเนื้อ และด้วยพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศเบลเยี่ยมใช้ภาษาดัตช์ การส่งกระต่ายข้ามประเทศพร้อมเครื่องหมายดัตช์ที่ติดตัวมา เลยถูกเรียกว่า “ดัชต์” นั่นเอง
ภาพรวม : มีลักษณะเฉพาะตัว มีขนาดลำตัวกระทัดรัด โดดเด่นด้วยสีบริเวณหัว ใบหู มองดูคล้ายหน้ากากและลำตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของสายพันธถุ์ดัชต์
น้ำหนัก : 1-3 กิโลกรัม
ลักษณะนิสัย : เป็นมิตรร่าเริง มีความซุกซน แต่ไม่เกรี้ยวกราด
สี : สีขาวตัดดำ [เป็นสีที่นิยมเลี้ยงและพบเห็นได้ทั่วไป]
“กระต่ายสายพันธุ์ English Spots [อิงลิชสปอต]"
ความน่ารักของสายพันธุ์ ส่วนตัวจากที่ได้สัมผัส น้องมีความคล่องตัวสูงและเข้ากับคนง่ายมาก ไม่ตื่นกลัว และยังสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดีทีเดียว
English Spots
กระต่ายสายพันธุ์นี้ถูกพบในปี พ.ศ. 2433 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กระต่ายสายพันธุ์นี้ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์จนได้มีการพัฒนาตำแหน่งต่างๆ ของสีบนตัว จนกลายเป็นลักษณะแต้มสีที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยแต้มสีผีเสื้อบนจมูก ดวงตา และใบหู และแถบหลังหรือเรียกว่า “ก้างปลา” แถมยังดูมีความสง่างามอีกด้วย
ภาพรวม : สายพันธุ์นี้ปราดเปรียวคล่องตัว รูปร่างสูงโปร่งโครงสร้างร่างกายแนวโค้งยาว จัดเป็็นกระต่ายขนาดกลาง
น้ำหนัก : 2-3 กิโลกรัมต่อตัว
ลักษณะนิสัย : สายพันธุ์นี้ชอบเคลื่อนไหว ไม่ชอบอยู่กับที่ ซุกซนอยากรู้อยากเห็น และมีพละกำลังมากพอสมควร
สี : ดำ, น้ำเงิน, ช็อคโกแลต
“ไลออนเฮด [Lion head]"
กระต่ายสายพันธุ์ “ไลออนเฮด [Lion head] เป็นอีกหนึ่งสายพันธู์ที่มีความคล้ายสิงโตเจ้าป่า ด้วยขนบริเวณแก้มและหูที่เด่นชัดและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้กระต่ายสายพันธุ์นี้ดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่น่าแปลกใจเลยค่ะ
Lion head
กระต่ายสายพันธุ์นี้คาดว่าจะมาจากประเทศเบลเยี่ยม โดยในปี 1960 ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์นี้เรื่อยมา จนมีมากเพียงพอในปี 1990 ช่วงโซนยุโรปตอนกลาง หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับปรุงพันธุกรรมที่อ่อนแอของสายพันธุ์นี้อีกครั้งด้วยการผสมข้ามสายพันธุ์จนกลายเป็น “ไลออนเฮด” สุดน่ารักในวันนี้ค่ะ
ภาพรวม : ไลออนเฮดจัดเป็นกระต่ายขนาดเล็ก รูปร่างกระทัดรัด มีจุดเด่นด้วยขนบนใบหน้าที่โดดเด่นคล้ายสิงโต สง่างาม
น้ำหนัก : 2 กิโลกรัมต่อตัว
ลักษณะนิสัย : ปรับตัวเร็วในทุกสถานการณ์ ไม่เกรงกลัวอันตราย ร่าเริงและเป็นมิตร
สี : สีส้ม (Orange), สีซาเบิล (Siamese Sable), หิมาลายัน (Himalayan)
"เท็ดดี้แบร์ [Teddy Bear]"
“Teddy Bear” หรือที่มักเรียกกันว่า “เท็ดดี้แบร์” กระต่ายสายพันธุ์นี้ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นในเมืองไทย โดยพัฒนามาจากกระต่ายสายพันธุ์ Jerry Woody แน่นอนว่าเป็นลูกผสมที่มีหน้าตาน่ารักมาก
Teddy Bear
โดยในเมืองไทยจะนิยมเลี้ยงกันมากเนื่องจากตัวเล็กมีขนฟู และที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก หากเทียบกับสายพันธุ์ Woody Toy หรือ Jerry Woody สายพันธุ์แท้ โดยในปัจจุบันจะพบกระต่ายสายพันธุ์นี้มากในเมืองไทย แต่ยังไม่พบในต่างประเทศ
ภาพรวม : กระตา่ยสายพันธุ์นี้จัดอยู่ในกลุ่มของกระต่ายขนาดเล็ก มีขนฟูนุ่มทั้งตัว หูตั้ง
น้ำหนัก : 1.5 กิโลกรัมต่อตัว
ลักษณะนิสัย : ค่อนข้างเป็นมิตร อ่อนโยน ชอบการกอดการสัมผัส ค่อนข้างเรียบร้อย
สี : สามารถพบได้หลายสี แต่ส่วนใหญ่จะพบสีขาวเหลือบดำหรือน้ำตาล
"กระต่ายไทย [Thai Rabbit]
แน่นอนว่า “กระต่ายไทย” เป็นกระต่ายสายพันธุ์ที่ถูกเพาะพันธุ์ในเมืองไทย ซึ่งเป็นกระต่ายสายพันธุ์พื้นเมือง มักพบเห็นได้ทั่วไป แต่ในปัจจุบันเมื่อกระต่ายได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นเพื่อน เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านที่ใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้น
Thai Rabbit
เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจึงได้มีการผสมข้ามสายพันธุ์กับกระต่ายสายพันธุ์อื่น จนทำให้มีกระต่ายไทยที่มีหลากหลายขนาดและมีหลายสี กระต่ายไทยมีลักษณะเฉพาะตัวค่อนข้างชัดเจนในเรื่องของรูปร่างและประกอบกับการเลี้ยงดูที่ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น จึงทำให้กระต่ายไทยเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นในปัจจุบัน
ภาพรวม : กระต่ายสายพันธุ์ไทยส่วนใหญ่ถูกผสมข้ามสายพันธุ์ ทำให้บางตัวมีขนาดใหญ่ หูตั้งยาว หน้าแหลม
น้ำหนัก : 1-3 กิโลกรัมต่อตัว
ลักษณะนิสัย : ค่อนข้างเป็นมิตร และมีความอดทนสูง ปราดเปรียวว่องไว
สี : สามารถพบได้หลายสี
“กระต่ายสายพันธุ์ French Lop [เฟรนช์ลอป]”
เป็็นกระต่ายขนาดใหญ่ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง English Lop และ Giant Papillon ในปี 2393 ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส
French Lop
เชื่อกันว่าสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาให้เป็นกระต่ายเนื้อ แต่หลังจากกระต่ายสายพันธุ์นี้ได้แสดงตัวในงานจัดแสดงที่สหราชอาณาจักร ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นจนในปี 1970 ตัวแรกได้ถูกนำเข้ามาในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลายเป็นกระต่ายเลี้ยงในเวลาต่อมา
ภาพรวม : จัดเป็นกระต่ายขนาดใหญ่ ลำตัวยาวขาสั้น หัวโต ใบหูใหญ่ ต้องการพื้นที่ใช้สอยมาก ค่อนข้างชอบอากาศเย็น
น้ำหนัก : 4 กิโลกรัมต่อตัวขึ้นไป
ลักษณะนิสัย : ค่อนข้างเป็นมิตร สามารถเข้ากับลูกแมวหรือลูกหมาและเด็กเล็กได้ ไม่เกรี้ยวกราดดุร้าย
สี : สีเชสนัท (Chestnut), สีชินชิลล่า (Chinchilla), สีส้ม (Orange)
References : sawadee.wiki
References : www.petkeen.com
โฆษณา