13 มิ.ย. 2023 เวลา 17:22 • ปรัชญา
สิ่งมีชีวิตเกื้อกูลกัน มีกรรมที่ ต้องไปเสาะแสวงหาธาตุมาหล่อเลี้ยงสังขาร เค้าว่าสังขารสัตว์กินพืชก็มีระบบร่างกายที่บดขี้อาหารขนละระบบกัน สัตว์กินพืช ก็กินพืชมาบดขยี้ ให้เกิดเป็นน้ำเลือดน้ำหนองหล่อเลี้ยงเรือนกาย สัตว์กินเนื้อสัตว์ก็ไปกินสัตว์กินเนื้อเข้าไป บางทีก็กินกันเป็นๆ เข้าเรียกว่า จิตกินจิตเข้าไป มันก็เกิดเป็นธาตุของกรรมหล่อเลี้ยงสังขารสัตว์ เวลาจะตายก็ทุกข์ทรมานจิต ..สัตว์กินเนื้อสัตว์..มันก็ต้องอาศัย ธาตุของกรรม ของผู้อื่นมาหล่อเลี้ยงน้ำเลือดน้ำหนอง จึงเป็นสัตว์ผู้ที่มีกรรม
จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน มันก็ล้วนประกอบด้วยน้ำเลือดน้ำหนองของกรรม ที่สุดกินเนื้อเค้า สิ่งที่ได้ก็มีแต่กรรม ..หลีกหนีเวรกรรมไม่ได้เลย ชาตินี้ ฉันเป็นแมลง จิ้งจกมากินฉัน ชาติหน้าจิ้งจก ก็ไปเป็นแมลง เป็นสัตว์ถูกเค้ากินบ้าง สนับสนุนเอื้อกันไปมา จองจำอยู่ในเวรกรรม ที่เกื้อกูลกันด้วยธาตุของกรรม ประอบเป็นรูป ..สัตว์นั้นสัตว์นี้ หลีกหนีไม่ได้ สัตว์โบกย่อมเป็นไปตามกรรม
เค้าว่า ของฟรีไม่มีในโลก เกิดมากินเค้า เค้าก็มากินเราบ้าง เคยด่าเค้า เค้าก็มาด่าเราบ้าง อะไรทำนองนี้ คือคล้องเวรกรรมกันไปมา ชดใช้กรรมกันไปมา ..ผลัดกันทำ ชาตที่แล้วขับรถให้นายนั่ง นายนั่งบ่นไป ด่าไปจับไม่ได้ดังใจ ชาติหน้า ..นายก็เป็นคนขับรถ คนที่เคยขับรถให้ ก็มาเป็นนาย ..บ่นไปด่าไป คนขับไม่ได้ดังใจ .มันก็คือ กรรมที่ต้องชดใช้กัน เป็นกงกรรมกงเกวียน มันก็เลยเกิดแล้วตาย ๆๆ กันไม่รู้จักเบื่อหน่ายเลย
แม้แต่เกิดเป็นคน ก็ยังต้องอาศัยน้ำเลือดน้ำของสัตว์ผู้มีกรรม มาประทังสังขาร แล้วจะทำอย่างไรหนอ ไม่ให้น้ำเลือดน้ำหนองที่คนกินเข้าไป ไม่ให้น้ำเลือดน้ำหนองแผลงกรรม เจ็บป่วย เหมือนมีกรรมมาทวง แล้วจะเอาอะไรมาใช้หนี้ของกรรมให้บรรเทาเบาบางไปได้ เมื่อกระทำไม่ได้ ..มันก็ต้องมีกรรม ..เป็นเหตุให้ธาตุนั้นเป็นกรรม กินเค้าแล้ว ก็ต้องมีกรรม
โฆษณา