14 มิ.ย. 2023 เวลา 03:46 • หนังสือ

หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เรามองโลกในมุมที่ต่างออกไป และเข้าใจโลกอย่างที่ควรจะเป็น

บางทีเราอาจจะรู้สึกว่า 'ทำไมโลกทุกวันนี้มันเเย่ลงเรื่อยๆ' แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย
โลกทุกวันนี้...กำลังดีขึ้นเรื่อยๆต่างหาก
Title : Factfulness
Author : Hans Rosling, Ola Rosling และ Anna Rosling
ชื่อไทย : จริงๆแล้วโลกดีขึ้นทุกวัน(สนพ. Amarin HOW-TO )
และนี่คือหนังสือที่ 'บิล เกตส์' เคยซื้อแจกนักศึกษาจบใหม่ในอเมริกา
เนื้อหาโดยรวมกล่าวถึงข้อเท็จจริงของโลก โดยใช้ข้อมูล ตัวเลข และสถิติในการอธิบาย และแบ่งออกมาได้เป็น 10 สัญชาตญานที่ทำให้เรามองโลกแย่กว่าที่มันเป็นอยู่จริงๆ
1. The Gap Instinct
เรามักจะเเบ่งชุดข้อมูลออกเป็น 2 กลุ่ม เช่น ดี/เลว หรือ รวย/ยากจน
ทำให้เกิดชุดความคิดของการแบ่งแยก 'เรา กับ พวกเขา'
ซึ่งถ้าลองค้นข้อมูลดีๆ จะมีข้อมูลตรงกลางอยู่ และตัวเลขส่วนมากมักอยู่ตรงนั้น ซึ่งในหนังสือเรียกว่า 'Gap' ข้อมูลที่หายไป เราจึงไม่ควรเปรียบเทียบอะไรแบบสุดไปในแต่ละทาง เช่น คนรวย กับ คนจน - ซึ่งจริงๆแล้วเรามีคนรายได้ปานกลางอยู่ และคนส่วนมากในสังคมก็อยู่ตรงนั้น
เพราะฉะนั้น เราต้องมองหาชุดข้อมูลส่วนใหญ่ว่าอยู่ตรงไหน
2. The Negativity Instinct
สมองของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้โฟกัสไปในทางลบ มากกว่าทางบวก นั่นจึงทำให้เรามีมุมมองว่า 'ทุกวันนี้โลกมันแย่ลง' ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย
สิ่งที่ทำให้เรามีมุมมองแบบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากข่าวสารที่เราเสพ เพราะข่าวมักออกแต่เรื่องราวลบๆ นั่นจึงทำให้เราถูกสื่อต่างๆ guide สมองและความคิดเราว่าทุกวันนี้มันมีแต่เรื่องแย่ๆเกิดขึ้น
ซึ่งในความเป็นจริงคือ เรื่องแย่ๆนั้นเกดขึ้นก็จริง แต่โลกของเรา as a whole ก็กำลังค่อยๆพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ เช่น ทุกวันนี้ไม่มีการค้าทาสเหมือนสมัยก่อนแล้ว, HIV ที่ผู้ติดเชื้อไม่ต้องตายจากโรคนี้แล้ว เพราะเรามียา ทั้งฉีด ทั้งกิน, อัตราการมีชีวิตรอดของเด็กแรกเกิด, อัตราเครื่องบินตกต่อปีก็แทบเป็น 0, etc
เพราะฉะนั้น จงตระหนักไว้ตลอดว่าเราจะไม่ได้ยินเรื่องราวดีๆที่กำลังเกิดขึ้นบนสื่อบ่อยนัก เเต่มันมีเรื่องดีๆที่กำลังเกิดขึ้น และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
3. The Straight Line Instinct
เรามักจะ assume ว่าทุกอย่างเดินทางเป็นเส้นตรง เหมือนกราฟที่ชี้ขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย
อย่างชีวิตของเรา ก็ไม่ได้เป็นกราฟที่พุ่งขึ้นไปอย่างเดียว แต่มันจะต้องมีขึ้น มีลง บางทีถึงกับ hit rock bottom เลยก็มี แล้วก็ค่อยๆเด้งกลับขึ้นไปอีกที และในระหว่างที่กราฟเรากำลังตกนั้น เราก็มีเรื่องราว และบทเรียนดีๆให้เรียนรู้อยู่เสมอ
4. The Fear Instinct
'ความกลัว' คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เรายังสามารถคงเผ่าพันธุ์ของเราไว้ได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ 'ความกลัว' กลับไม่มีประโยชน์เลยถ้าเรานำมาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูล เพราะเมื่อเรามีความกลัวเกิดขึ้น เรามักจะมีมุมมองที่แคบลง เพราะเรามัน expect the worst case scenarios เสมอ และนั่นคือการที่เราให้ความสำคัญกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นมากจนเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วบางอย่างมันก็ไม่ได้เเย่ขนาดนั้น
เพราะฉะนั้น การก้าวข้ามความกลัวของเราในการวิเคราะห์ข้อมูลนั้น เราต้องคำนวณในเรื่องความเสี่ยงที่อาจะเกิดขึ้นให้ถีถ้วน อย่าใช้เพียงอารมณ์ความกลัวในการตัดสิน
5. The Size Instinct
เรามักจะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ หรือคนๆหนึ่งมากจนเกินพอดี เช่น การที่อัตราเด็กแรกเกิดที่ไม่เสียชีวิตสูงขึ้นนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่า เพราะหมอเก่งขึ้น การแพทย์ดีขึ้น ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับสิ่งๆหนึ่งมากเกินไป เพราะจริงๆแล้วมีอีกหลายสิ่งที่อยู่นอก รพ. ที่ทำให้อัตราการมีชีวิตรอดของเด็กเพิ่มมากขึ้นเพียงแต่เรามองจ้ามมันไป
เพราะฉะนั้น เราจึงต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาเปรียบเทียบกันก่อนจะตัดสินใจ
6. The Generalization Instinct
ในข้อนี้ถ้าใช้คำที่เข้าใจกันง่ายๆคือ 'การเหมารวม' หรือ Stereotypes คือการที่เราคิดโดยเหมารวมว่า คนที่สัก ต้องเป็นคนไม่ดีแน่ๆเลย, คนที่เรียนไม่เก่ง ต้องไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต, etc
เพราะฉะนั้น เราต้องคอยตั้งคำถามกับความเชื่อของเราอย่างสม่ำเสมอ และต้องออกไปเปิดโลกให้กว้างมากขึ้น
7. The Destiny Instinct
ข้อนี้ก็จะคล้ายๆกับข้อ 6. แต่จะแตกต่างตรงที่ว่า เป็นความเชื่อที่ว่าคนเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นิสัยแบบนี้ พื้นหลังแบบนี้ เกิดมาจากสังคมแบบนี้ ต้องเป็นคนแบบนี้แน่ๆ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้
ซึ่งความจริงแล้ว เรารู้กันอยู่แล้วว่าทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่ความเปลี่ยนแปลงมันจะส่งผลออกมาจนสามารถเห็นผลได้ชัดเจนนั้นจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ถ้ายังไม่เชื่ออีก ก็ลองมองไปที่มุมมองของ คุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณตา คุณยาย ของเราดูก็ได้ ว่าจริงๆแล้วโลกรอบตัวเรามันเปลี่ยนแปลงไปเสมอ และกว่าเราจะรู้ตัว บางทีเราก็แทบจะตามความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ทันแล้ว
เพราะฉะนั้น จงเปิดใจ และรับข้อมูลใหม่ๆอยู่เสมอ
8. The Single Perspective Instinct
'ความลำเอียง' ไปในทางใดทางหนึ่ง ทำให้เราปิดหูปิดตาไม่ยอมรับข้อมูลของอีกฝั่งเพิ่มเติม และยังทำให้เราไม่คิดวิเคราะห์
ก่อนตัดสินใจอะไร เราต้องเปรียบเทียบข้อมูลอย่างเป็นกลางก่อน อย่าพึ่งชอบ หรือไม่ชอบอะไร ให้รู้สึกสงสัยกับทุกข้อมูลตรงหน้า หรือพูดคุยกับคนที่มีมุมมองที่แตกต่างจากเรา รับฟังความคิดเห็น เหตุและผลจากเขา แล้วนำมาวิเคราะห์
เพราะฉะนั้น ให้มองโลกจากหลายๆมุม จะดีกว่ามองเฉพาะมุมที่เราชอบ
9. The Blame Instinct
เป็นการ 'หาคนผิด' ในเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นต้องมีคนผิด ต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งจริงๆแล้วความผิดพลาดบางอย่างที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นมาจากระบบ หรือหลายๆอย่างร่วมกัน เราจึงควรมองไปที่ระบบมากกว่าการหาคนชี้ตัวว่า เธอเป็นคนผิดนะ
เพราะฉะนั้น ให้หาเหตุของความผิดพลาด
10. The Urgency Instinct
ความรู้สึกที่อยากจะรีบ react กับอะไรซักอย่างที่เกิดขึ้นในทันที ซึ่งมักส่งผลให้เราเกิดความเครียด และนั่นก็จะทำให้เราตัดสินใจอะไรแบบไม่เป็นเหตุเป็นผล
เพราะฉะนั้นเราต้องให้เวลาตัวเองในการแก้ปัญหา และหาข้อมูล ไม่จำเป็นต้องรีบแก้ปัญหานั้นๆ
ทั้งนี้ เรื่องร้ายต่างๆก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ทุกวัน แต่เมื่อเทียบเป็นตัวเลขจากอดีตถึงปัจจุบัน เรื่องร้ายๆเหล่านั้นกำลังลดลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจงมีความเชื่อว่าในอนาคตทุกสิ่งจะยิ่งดีขึ้น และโลกของเราจะน่าอยู่มากขึ้น
โฆษณา