14 มิ.ย. 2023 เวลา 09:48 • ความคิดเห็น
เราบริจาคเลือดมา 68 ครั้ง อยากจะมาบ่นมากกว่ามาให้พลังนะ
การจะบริจาคเลือดได้แต่ละครั้ง รู้ไหมมันยาก เราเตรียมตัวล่วงหน้า 2 เดือน ทานยาบำรุงเลือด ทานอาหารเสริม วิตามิน โฟเลต เพื่อให้เลือดเข้ม เรียกว่าบำรุงตัวเองเต็มที่ บางทีก็ไม่ผ่าน ต้องกลับมาบำรุงอีกเดือน แล้วไปใหม่ บางทีไปถึง 3 รอบ กว่าจะผ่าน คือ การบริจาคเลือด มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำได้ ไปถึงบริจาคได้เลย มันไม่ได้ง่ายสำหรับทุกคนไง และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเรา ปีหนึ่งบริจาคได้แค่ 1-2 ครั้ง
1
เราหยุดบริจาคไปพักใหญ่ เพราะว่าท้อจริงๆ คือ ไปหลายรอบแล้วไม่ผ่าน ก็คิดจะเลิก เพราะเลือดจางสะสม จึงคิดว่าควรหยุดได้แล้วล่ะ เราน่าจะให้มากไป เก็บเลือดไว้ใช้เองดีกว่า คนรับเลือดเขาจะรู้ไหมว่าการจะบริจาคได้แต่ละครั้งมันไม่ง่ายเลย กว่าจะบริจาคได้แต่ละครั้ง ใช้ความพยายามมาก เพื่อให้ได้เลือด 1 ถุงสำหรับใครก็ไม่รู้
แต่เราได้พบกับคุณหมอท่านหนึ่ง ตอนที่กลับไปบริจาค ให้ ร.9 หลังวันสวรรคต วันนั้นคนบริจาคเยอะมาก คุณหมอถามเราทำไมหยุดบริจาคไปนาน เราก็บอกว่า เลือดจางเลยเลิกบริจาค คุณหมอแนะนำให้เรากลับมาบริจาคอีกครั้ง เพราะการบริจาคเลือดเหมือนเป็นการตรวจสุขภาพ เราก็บอกไปว่า เราบริจาคไม่ผ่านตั้งหลายรอบ หมอก็บอกว่า นั่นก็บ่งบอกว่าเราสุขภาพไม่ดี ถ้าสุขภาพดีก็ต้องบริจาคได้ เราก็ต้องกลับไปดูแลสุขภาพ รักษาสุขภาพให้ดี เพื่อที่จะได้กลับมาบริจาคใหม่ วันนัั้นหมอพูดเยอะมาก เปลี่ยนความคิด มุมมองของเราได้
3
เราเคยคิดว่า การที่เราบริจาคเลือด เพราะเราอยากช่วยเหลือคนอื่น เรารู้ว่าชีวิตมีค่า การได้ช่วยคนๆหนึ่ง อาจจะช่วยได้อีกหลายชีวิต รอบตัวคนๆนั้น แต่หมอพูดให้เราเข้าใจว่า การบริจาคเลือด เป็นการทำเพื่อตัวเองนะ ถ้าเราสุขภาพไม่ดี เลือดมันก็ฟ้อง บริจาคไม่ได้ การที่ยังบริจาคได้ นั่นคือ เรามีสุขภาพที่ดี เป็นเรื่องน่ายินดี
1
และเราก็มาเข้าใจมากขึ้น ตอนที่เราตรวจเจอเนื้องอกในท่อน้ำนม แล้วผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ไป 2 รอบ โชคดีที่เป็นเนื้อดี ไม่ใช่มะเร็ง เรายังสามารถบริจาคเลือดได้อยู่ เพราะเราไม่เป็นมะเร็ง การบริจาคเลือดจึงยังเป็นตัวพิสูจน์ให้รู้ว่า เรายังสุขภาพดีอยู่ ตราบใดที่ยังไม่เป็นมะเร็ง เราก็ยังบริจาคได้ แต่หมอถามเยอะมาก ช่วงที่หยุดไปเพราะผ่าตัด งดไปรอบละปี หมอถามจนแน่ใจว่าไม่ใช่มะเร็งนะ
เมื่อไหร่ที่สุขภาพเราเสีย ถ้าเราเป็นเบาหวาน หัวใจ ความดัน ไขมันในเลือดสูง มะเร็ง โรคตับ โรคไต เมื่อไหร่ นั่นคือจุดจบของการบริจาคเลือด แต่ตราบใด ที่เรายังบริจาคได้ นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่า เรายังมีสุขภาพที่แข็งแรงดีอยู่ เลือดเรายังดีอยู่
วันที่เราไปรับเหรียญกาชาดขั้นที่ 3 เราสังเกตุเห็นผู้คนที่มารับเหรียญ คนแก่ๆยังเดินได้ แข็งแรงดี ทุกคนที่มารับเหรียญ สุขภาพแข็งแรงทุกคนแม้จะอายุมากก็ตาม ไม่มีใครอ้วน นั่นแปลว่า คนที่เขาบริจาคเลือดต่อเนื่องจนได้เหรียญ ขั้นที่ 2-1 ทุกคนล้วนดูแลสุขภาพตนเองเป็นอย่างดี เพราะถ้าเมื่อไหร่ ที่เขามีโรคคนแก่ เขาก็คงมาไม่ถึงวันนี้
รางวัลของการบริจาคเลือด มันไม่ได้อยู่ที่เราบริจาคเลือดไปแล้วกี่ครั้ง ได้กี่เหรียญ แต่อยู่ที่ว่าเรายังบริจาคเลือดต่อเนื่องได้อยู่หรือเปล่า สุขภาพเราแข็งแรงพอจะบริจาคไหม การจะให้เลือดคนอื่นได้ ตัวเราต้องแข็งแรงเพียงพอ ต้องดูแลตัวเองมากพอ ต้องรักสุขภาพตนเอง
1
ถ้าวันนี้คุณยังบริจาคเลือดได้ ก็ขอแสดงความยินดีด้วย แสดงว่าคุณเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงดี คำพูดนี้สำหรับวัยรุ่นอาจจะเฉยๆ แต่ถ้าคุณแก่ตัวลงเมื่อไหร่ คุณจะรู้ว่ามันมีค่ามาก
โฆษณา