15 มิ.ย. 2023 เวลา 06:47 • สุขภาพ

🎯น้ำตาลที่ใช้เป็นพลังงานในร่างกายได้จากการย่อยแป้ง หรือ carbohydrate

และ น้ำตาลที่จะเข้าสู่เซลล์ได้นั้น ต้องเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide)เท่านั้น ซึ่งตัวน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่รู้จักกันดีคือ 🟠 glucose และ 🔴 fructose
เรามาดูรายละเอียดกันค่ะ
🟠 Glucose
•เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่สามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้กับทั่วร่างกาย
•ให้พลังงาน 4 แคลอรี่/กรัม
•เมื่อร่างกายได้รับ glucose จะมีการหลั่ง insulin ❕ออกมาเพื่อนำพา glucose เข้าสู่เซลล์ เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน
•ถ้า glucose มีมากเกินกว่าจะนำไปใช้เป็นพลังงาน ก็จะถูกเก็บในเซลล์ไขมัน และบางส่วนถูกเปลี่ยนเป็น cholesterol ที่ตับ
🔴 Fructose
•เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว
•ปกติ เราจะเจอน้ำตาลชนิดนี้ ในผลไม้ และน้ำผึ้ง
•ให้พลังงาน 4 แคลอรี่/กรัม
•ในปัจจุบัน มีการใช้ fructose กันมากขึ้น เนื่องจาก มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย (sucrose) ประมาณ 1.8 เท่า มักใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ รวมถึงน้ำอัดลม และในเครื่องดื่มที่ให้รสหวานทุกชนิด
•ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ น้ำเชื่อมฟรุกโตส Fructose Syrup หรือ High Fructose Syrup (HFS)
•ปกติจะไม่เจอในธรรมชาติ ผลิตได้จาก แป้งข้าวโพด มันฝรั่ง หรือ มันสำปะหลัง
•HFS ตัวแรกที่ญี่ปุ่นทำ เป็นน้ำเชื่อมที่ผลิตจากข้าวโพด จึงใช้ชื่อว่า High Fructose Corn Syrup (HFCS)
ในการผลิตนี้ เป็นการ hydrolyzed แป้ง ให้เป็น glucose ก่อน จากนั้นจึงผ่านกระบวนการ isomerization
โดยใช้เอนไซม์ glucose isomerase เปลี่ยนจาก glucose ให้เป็น fructose อีกครั้ง
•HFS หรือ HFCS เจอได้ในผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น เครื่องดื่มต่างๆ โยเกิร์ต ขนมหวาน แยม ผลไม้แปรรูป
ผลไม้แช่แข็ง ขนมอบ ไอศกรีม คุกกี้ ใช้เคลือบผิวของยา และวิตามินต่างๆ รวมถึงส่วนประกอบในนมผงทารก
✅ข้อดีของ HFS
- มีค่า GI ต่ำ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นไม่สูงเท่ากับการได้รับ glucose
- ไม่กระตุ้นให้หลั่ง insulin
- ให้ความหวานมากสุด ในกลุ่มน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว
- รสชาติดี ช่วยทำให้รสชาติและกลิ่นของอาหารน่ารับประทานมากขึ้น
- ความหวานไม่เบียดบังกลิ่น และ รสอื่นๆของอาหาร
- ราคาถูก
❎ ข้อเสียและ อันตรายของ HFS
- เกิดจากการที่ fructose มีการกระตุ้น insulin ต่ำ จึงทำให้ไม่มีความรู้สึกอิ่มและทำให้เราสามารถกินของหวานได้เรื่อยๆ >> เสี่ยงต่อการมีน้ำตาลในเลือดสูง และโรคอ้วน
- ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับได้ เนื่องจากตับเป็นอวัยวะย่อย และเผาผลาญ fructose ให้เป็นไขมันแล้ว เกิดการสะสมไว้ที่ตับนั่นเอง
- เกิดพิษตกค้างที่ตับ จากการที่ย่อย fructose ไม่หมด สารตกค้างเหล่านั้นอาจเปลี่ยนเป็นสารพิษ และสารพิษที่สะสมไว้มากๆอาจทำให้เกิดตับแข็งได้ในที่สุด
🚩 ปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์พบว่า มีวัยรุ่นที่เป็นโรคไขมันพอกตับสูงขึ้น ทั้งๆที่ในชีวิตจริงดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย
🚩 จากการศึกษา พบว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้มักดื่มเครื่องดื่มหวานๆ หรือน้ำอัดลม หรือ เครื่องดื่มแบบขวดในร้านสะดวกซื้อ ที่มีส่วนผสมของ HFS สูงนั่นเอง
🎯สรุป
🌱ในชีวิตประจำวันของเรา มีการเติมน้ำตาลเพื่อเสริมรสหวานลงในอาหารในทุกรูปแบบ …ดังนั้น เราควรต้องระวัง และจำกัดปริมาณน้ำตาลที่จะรับเข้าสู่ร่างกาย เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลตัวไหน ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็จัดว่าเป็นสารพิษได้เหมือนกัน และเมื่อสารพิษสะสมมากๆ ก็จะทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายเสื่อม แก่ เหี่ยว และตายได้
🌱 วิธีง่ายๆที่จะช่วยจำกัดปริมาณน้ำตาลจากอาหารต่างๆได้ คือ การดูและอ่านฉลากโภชนาการต่อ 1 หน่วยบริโภค
🌱 ปัจจุบันพบว่า มีหลายโรค ที่เริ่มต้นมาจากการกิน *หวาน*มากเกินไป จนติดเป็นพฤติกรรม และเสี่ยงทำให้เกิดโรคทางระบบเมตาบอลิซึ่มตามมามากมาย
🌱ในทางการแพทย์ชะลอวัย จะให้เริ่มต้นการกินอาหารทุกอย่างโดยการลด ละ เลี่ยงความหวานลง และจะมีประโยคไว้เตือนสติว่า ‘’น้ำตาลคือยาพิษ’’
🌱 เรามาเริ่มต้นลดการเติมหวาน (น้ำตาล)ในอาหารกัน เพื่อสุขภาพที่ดี และไร้โรคภัยกันค่ะ
🌱สุขภาพดี เริ่มต้นที่การกิน
🌱หมอที่ดีที่สุดคือ ตัวเราเอง
บทความ : ภญ.อารยา กิ่งแก้ว❤️
🎯สอบถามเรื่องสุขภาพ /ผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ที่
📱: 081-5372666
📦:Kingkaewpharmacy Phuket
Line : @kingkaewpharmacy
#กิ่งแก้วเภสัช #ร้านขายยา #ภูเก็ต
#kingkaewpharmacy #pharmacy #homepharmacy #phuket
#yourhealthwecare #healthyisthebest
#น้ำตาล #ความหวาน #glucose #fructose #HFCS #HFS
โฆษณา