16 มิ.ย. 2023 เวลา 15:07 • ความงาม

การอดอาหารเพื่ออายุยืน Fasting for Longevity

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการอดอาหาร (fasting) วิธีการเตียมตัว และการออกจากการอดอาหาร (refeeding)
สรุปสำหรับคนมีเวลาน้อย
การอดอาหารเป็นกลไกของร่างกายในการรักษาตัวเองตามธรรมชาติ
เป็นการทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดการรักษาและฟื้นฟูตัวเอง
การอดอาหารเพื่อขับพิษออกควรทานแต่น้ำเปล่าและทานให้พอเพื่อขับของเสีย
การอดอาหารเป็นประจำพร้อมกับเลือกทานอาหารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สุขภาพดีและอายุยืนขึ้น
ทุกคนคงเคยได้ยินว่า เวลาที่สัตว์ป่วยมันจะไม่กินอะไรเลย ได้แต่นอนนิ่งๆ ปล่อยเวลาผ่านไปไม่กี่วัน แล้วอยู่ๆก็ลุกขึ้นมาเดินได้ หายเป็นปกติได้เอง ร่างกายคนเราก็สามารถทำได้เช่นกัน
ร่างกายเรามีระบบรักษาซ่อมแซมตัวเองอัตโนมัติ มันสามารถกำจัดของเสีย สารพิษต่างๆ และฟื้นฟูอวัยวะได้เอง เพียงแค่เราหยุดทานอาหาร ระบบนี้จะเริ่มทำงานเมื่อร่างกายได้พักจากการย่อยอาหาร
ในทุกๆวันที่เราทานกันสามมื้อต่อวัน เมื่อร่างกายย่อยเสร็จมื้อนึงก็เจออีกมือนึงต่อทันที ยิ่งถ้าเป็นอาหารที่ย่อยยาก เช่นเนื้อสัตว์ ชีส ฯลฯ ระบบย่อยต้องทำงานตลอดเวลาแทบจะไม่ได้พัก จึงไม่มีเวลาพอที่จะให้ร่างกายได้เริ่มระบบรักษาซ่อมแซมตัวเองนี้
อดอาหารไปทำไม?
เมื่อร่างกายเราถูกใช้งานไปเรื่อยๆ จะมีของเสียต่างๆจากการทำงานของเซลส์ จากเศษอาหารการกิน จากอารมณ์ความเครียด เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งร่างกายจะกักเก็บของเสียเหล่านี้ไว้ในส่วนต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะในไขมัน รอจนกว่าถึงเวลาที่จะกำจัดออก
หากเราไม่กำจัดออก ของเสียจะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ประสิทธิภาพร่างกายก็จะด้อยลง ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ระบบต่างๆในร่างกายทำงานเพี้ยนไปจากเดิม และก่อตัวเป็นโรคต่างๆได้ การอดอาหารจึงหนึ่งในวิธีธรรมชาติที่จะให้ร่างกายกำจัดของเสียและฟื้นฟูตัวเองได้
การอดอาหารมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับความสภาพของร่างกาย จิตใจ และเป้าหมาย เช่น เป้าหมายเพื่อการลดน้ำหนัก เพื่อรักษาโรค หรือเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณ ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึงด้านสุภาพร่างกาย
การอดอาหารคือการไม่ทานอะไรเลย นอกจากน้ำเปล่า (water fasting) จะไม่มีเศษอาหารตกถึงท้องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเมื่อร่างกายเข้าใจว่าจะไม่มีหน้าที่ต้องย่อยแล้ว ร่างกายจะเริ่มใช้พลังงานกับการขับของเสียที่สะสมไว้มาหลายปี
โดยร่างกายจะเริ่มซ่อมแซมตัวเองจากจุดที่สำคัญก่อน เช่น กำจัดไขมันส่วนเกินออก จนไปถึงการซ่อมแซมอวัยวะภาย กำจัดเซลส์ที่ตายแล้ว สร้างเซลส์ใหม่ จากภายในจนถึงภายนอกอย่าง ผิว ฟัน สายตา ฯลฯ เปรียบเหมือนเป็นการรีเซทร่างกายใหม่ ทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อย ระบบขับถ่าย จากการทำงานที่ผิดเพี้ยนไป
การอดอาหารจึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกาย และสำคัญพอกันกับการเลือกทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย
อดอาหารกับขาดอาหารต่างกันยังไง (fasting vs starving)
การอดอาหาร คือระบบย่อยจะไม่ได้ทำงาน ซึ่งร่างกายจะเข้าสู่โหมดซ่อมแซมตัวเองได้ แต่หากเราทานอะไรสักนิดนึง แม้ลูกเกดเพียงเม็ดเดียว ก็จะทำให้ระบบย่อยจะเริ่มกลับมาทำงานทันที เมื่อร่างกายเริ่มกลับมาย่อยอาหารแต่กลับได้รับสารอาหารเพียงนิดเดียว จะกลายเป็นขาดอาหารแทน ซึ่งจะเป็นอันตรายกว่าการอดอาหารไปเลย เราจึงไม่ควรอดแบบครึ่งๆกลางๆ
1
เริ่มต้นอดอาหารยังไง
สำหรับผู้ที่ไม่เคยอดมาเลยหรือมีความยากลำบากในการเริ่มอดอาหาร สามารถปรับตามความเหมาะสมกับร่างกายได้ เช่น อาจจะเริ่มจากการทำ IF (intermittent fasting) อดมื้อเย็นอย่างเดียว หากยังยากลำบากไปก็สามารถปรับให้ง่ายขึ้นเป็นทานแค่ผลไม้หรือน้ำมะพร้าวในมื้อเย็นได้ จนร่างกายเคยชิน
หากต้องการเริ่มอดอาหาร 3-7วัน ควรเริ่มจากการทานอาหารธรรมชาติที่เป็นผักผลไม้และอาหารหมักที่มีโพรไบโอติก ก่อนเริ่ม 3-4 วัน เช่น นัตโตะ เพื่อเคลียของเสียในลำไส้ ไม่ให้มีเนื้อสัตว์เน่าเสียในลำไส้ในระหว่างช่วงเวลาที่อดอาหาร อาจจะใช้การสวนลำไส้เพื่อช่วยล้างของเสียออกก่อนเริ่มโดยเฉพาะการอดอาหารเป็นเวลาหลายวัน
ระหว่างที่อดอาหารควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีธรรมชาติ ได้รับแสงแดด ได้สัมผัสพื้นดิน นอนให้ได้มากที่สุด พักการเล่นมือถือ/ทำงาน/การออกกำลังกาย และจิบน้ำให้ได้เรื่อยๆทั้งวัน 3-4ลิตร เพื่อให้ร่างกายใช้พลังงานไปกับการขับของเสีย
อาจมีอารมณ์จะแปรปวนและอ่อนแรงเนื่องจาก ของเสียที่สะสมไว้ในไขมันจะถูกขับออกมา (herxheimer’s reaction) และยังมียีส และพยาธิที่หิวโหยคอยรบกวน ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรฝืนและปล่อยให้ร่างกายเครียดเกินไป ซึ่งอาจเกิดภาวะซึมเศร้าได้
การรีฟีด (refeed) เมื่อออกจากการอดอาหาร คือการค่อยๆปลุกระบบย่อยให้กลับมาทำงาน เริ่มจากทานของที่ย่อยง่าย ไม่ควรทานอะไรที่หนักและเยอะเกินไป สามารถทานเป็นซุปกระดูก หรือผลไม้ที่ย่อยง่ายได้ เช่น แตงโม น้ำมะพร้าว และเติมโพรไบโอติกจากอาหารหมักธรรมชาติ เช่น ซาวเคร้าท์ คีเฟอร์
ทานเมื่อหิวและหยุดทานเมื่ออิ่ม หากฟาส 5-7 วัน ควรรีฟีดอย่างน้อย 2 วัน ก่อนจะเริ่มกลับไปทานอาหารปกติ
ระหว่างอดอาหารทานอะไรได้ไหม?
ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการอดอาหาร หากเราต้องการเพียงแค่พักระบบย่อย (ซึ่งก็ยังจะได้ประโชยน์จากการขับของเสียในระดับนึง) เราอาจจะทานอาหารที่เป็นของเหลวได้ อย่างสมูธตี้ ซุป น้ำมะพร้าว ทั้งหมดนี้ควรเป็นของธรรมชาติ ไม่ควรมีของสำเร็จรูป และไม่ควรมีของแข็ง
ของเหลวอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำเปล่า หรือน้ำจากผลไม้ เช่น ชา กาแฟ จะเป็นการดึงน้ำออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จึงไม่ควรดื่มแทนน้ำเปล่า
แต่หากต้องการกำจัดของเสียในระดับส่วนลึกของเซลส์ ก็ไม่ควรทานอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า หลักการคือยิ่งทานน้อยร่างกายก็จะกำจัดของเสียได้ลึกมากขึ้น
อดอาหารกี่วันดี
ช่วงเริ่มแรกของการอดอาหาร อาจใช้เวลาถึง 3 วัน ร่างกายถึงจะเริ่มเข้าสู่โหมด ketosis ซึ่งจะเป็นการเอาไขมันส่วนเกินมาใช้และขับของเสีย เนื่องจากของเสียสารพิษส่วนมากจะสะสมอยู่ในไขมัน อาจมีอาการรู้สึกมึนงง และเมื่ออดอาหารเป็นประจำร่างกายจะเข้าสู่โหมดนี้ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
การอดอาหารเพื่อรักษาโรคอาจใช้เวลา 21-40 วัน ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน ซึ่งการอดระยะยาวควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพราะจะเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะขั้นตอนการออกจากการอดอาหาร
ในยุคปัจจุบันที่อาหารหลายๆอย่างเป็นพิษ เราจึงควรมีเวลาให้ร่างกายขับพิษออกเป็นประจำ โดยอาจจะไม่ต้องอดระยะยาวแต่ทำสม่ำเสมอ ให้การอดอาหารเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เช่น อดอาหารอาทิตย์ละวัน/การทำ IF/ทานวันละมื้อ/หรือวันเว้นวัน เพื่อให้ร่างกายได้มีช่วยเวลาขับของเสียและฟื้นฟูตัวมันเอง
อ้างอิง
ข้อควรระวังทางการแพทย์: หากคุณมีปัญหาสุขภาพหรืออาการเจ็บป่วย ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม ข้อมูลที่ให้มานี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำทางการแพทย์ และไม่ควรนำมาใช้เป็นแทนการปรึกษาแพทย์
ผลิตภัณฑ์ การแนะนำ หรือข้อมูลที่ให้มาทางช่องทางนี้ไม่ได้ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัย รักษา หรือป้องกันโรคใด ๆ การใช้ผลิตภัณฑ์หรือการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ สำหรับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ถูกต้องและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้
โฆษณา